อาถรรพ์หลักเมืองบึ้มมังกรสวรรค์สุพรรณฯ
เสียงลือเสียงเล่าอ้างเหตุพลุบึ้มเมืองสุพรรณฯดังระงม ชาวบ้านเชื่อมังกรสวรรค์ทับเจ้าหน้าที่ทำให้พิโรธโกรธเคือง
เสียงลือเสียงเล่าอ้างเหตุพลุบึ้มเมืองสุพรรณฯดังระงม ชาวบ้านเชื่อมังกรสวรรค์ทับเจ้าหน้าที่ทำให้พิโรธโกรธเคือง
โดย...ทีมข่าวภูมิภาค
เหตุการณ์พลุระเบิดในพิธีเปิดงานเทศกาล “ตรุษจีนสุพรรณบุรีมหัศจรรย์ 4 ปี มังกรสวรรค์” ขึ้น ณ อุทยานมังกรสวรรค์ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา สะเก็ดพลุระเบิดยังไปตกใส่บ้านเรือนที่อยู่บริเวณดังกล่าวลุกโชนไหม้หมดทั้ง 71 หลัง พังเสียหายอีกกว่า 700 หลัง มีผู้เสียชีวิต 4 คนและบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน คิดมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
หลังเหตุการณ์สงบชาวบ้านจับกลุ่มวิจารณ์กันแซด ถึงอาถรรพ์ของรูปปั้นมังกรยักษ์ อันเป็นบ่อเกิดระเบิดครั้งนี้ทั้งทางบวกและลบ
ผู้ที่รอดพ้นจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้เชื่อว่าอิทธิฤทธิ์ “ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง” และรูปปั้นมังกรยักษ์ คอยช่วยปกปักรักษาชีวิตลูกหลานมังกรไว้จึงแคล้วคลาดจากเภทภัย เพราะบริเวณที่จุดพลุอยู่ด้านหลังรูปปั้นมังกรยักษ์ เมื่อเกิดระเบิดขึ้นร่างของมังกรได้บดบังไว้ ทำให้ไม่ได้รับอันตรายใดๆ และรอดชีวิตมาอย่างฉิวเฉียด
ในทางกลับกันชาวบ้านผู้ที่ได้รับผลกระทบต่างเชื่อกันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอาถรรพ์และเจ้าที่แรง โดยเฉพาะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพนับถือของชาวสุพรรณบุรีมานานนับร้อยปีเช่นเดียวกับวัดป่าเลไลยก์ ซึ่งโศกนาฏกรรมพลุระเบิดโดยไม่มีใครคาดฝันครั้งนี้ เพราะเจ้าที่ไม่พอใจที่สร้างมังกรยักษ์สูงกว่าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
“นับตั้งแต่เริ่มสร้างมังกรยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีความสูงเท่ากับตึก 10 ชั้น มีความยาว 80 เมตร มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท เมื่อปี 2548 มีลางบอกเหตุร้ายเขย่าขวัญชาวสุพรรณบุรีให้เห็นบ่อยครั้ง” ชาวบ้านคนหนึ่งระบุ
ทั้งนี้ โดยเฉพาะช่วงที่กำลังดำเนินการก่อสร้างมังกรยักษ์ได้เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รูปปั้นช่วงหัวมังกรมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อประมาณเดือน ก.พ. 2550 ทำให้คนงานก่อสร้างได้รับบาดเจ็บ ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อเดือน ธ.ค. 2550 ไฟลุกไหม้ขณะคนงานกำลังเชื่อมเหล็กที่บริเวณหัวมังกรเช่นกัน แต่สามารถดับไฟทัน และจนกระทั่งเหตุการณ์ล่าสุดเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนต้อนรับปีมังกรทองพอดิบพอดี อาถรรพ์รูปปั้นมังกรยักษ์ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ...!
ประทีป อุบลพันธ์ หรือลุงทีป วัย 68 ปี ชาวบ้าน ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี บอกว่า คณะผู้สร้างมังกรยักษ์เชื่อว่ามีเจตนาดีต่อชาวสุพรรณบุรี แต่ลืมไปว่าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองที่ชาวบ้านเคารพศรัทธามานับร้อยๆ ปี พอไปสร้างมังกรยักษ์สูงกว่าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ก็อาจลบหลู่ท่านก็เป็นไปได้ ท่านเลยแสดงอาการไม่พอใจจึงระเบิดอารมณ์ออกมาให้เห็น
“ดินแดนสุพรรณบุรีเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์มายาวนาน ดินแดนยุทธหัตถีสมเด็จพระนเรศวร ถิ่นขุนแผน ตลอดทั้งเป็นถิ่นของวีรชนผู้พลีชีพป้องประเทศทั้งหลาย ดังนั้นจึงมีวิญญาณสิงสถิตอยู่ตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านมากมาย คนจังหวังอื่นๆ อาจจะไม่รู้เหมือนกับคนที่เกิดที่นี่ เชื่อว่าการสร้างมังกรยักษ์อาจทับเจ้าที่เจ้าทางทำให้ท่านไม่พอใจจึงเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน”
ลุงทีป เล่าต่อว่า คนโบราณส่วนใหญ่มีความเชื่อว่า ก่อนที่จะปักเสาเอกสร้างที่อยู่อาศัยต้องขอขมาลาโทษกับเจ้าที่กับผู้ปกครองเพื่อให้เจ้าที่อภัยโทษให้ ส่วนใครไม่ทำตามดังกล่าวอาจจะเผชิญกับเรื่องไม่ดี เจอแต่เรื่องร้ายๆ ตามรังควาน และอยู่กันอย่างไม่มีความสุข ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างมังกรยักษ์ต้องดำเนินการทำพิธีขอขมาลาโทษกับเจ้าที่เพื่อขอให้ท่านยกโทษให้
“ในช่วงการสร้างมังกรยักษ์ไม่รู้ว่าคณะผู้สร้างนั้นได้ตั้งศาลเพื่อขมาลาโทษเจ้าที่เจ้าทางหรือเปล่า ทำพิธีกรรมถูกต้องหรือไม่ หากคนโบราณเคยสั่งสอนไว้เสมอให้เคารพสถานที่เกิด สถานที่กิน สถานที่อยู่ ต้องระวังให้มาก หากใครไม่ยึดมั่นถือมั่นจะได้รับความเดือดร้อนตามมาทีหลัง ดังนั้นการขอขมาลาโทษเจ้าที่เจ้าทางเป็นทางออกดีที่สุดเพื่อให้ท่านยกโทษให้ ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนี้จะได้อยู่ด้วยความไม่หวาดกลัวหรือหวาดระแวงเรื่องร้ายๆ ที่จะเกิดขึ้นซ้ำรอยในอนาคต” ลุงทีปสะท้อนความรู้สึก
ขณะที่ อุบล ใจดี วัย 59 ปี ชาวชุมชนวัดพระธาตุ บอกว่า นับตั้งแต่สร้างมังกรยักษ์ขึ้นมา เหตุบอกลางไม่ดีเกิดขึ้นมากมายหลายเรื่อง เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี และล่าสุดยังต้องมารับเคราะห์กับพลุระเบิดได้รับความเดือดร้อนกันไปทั่วหน้า
ทั้งที่ปีนี้เป็นปีมังกรทอง ชาวไทยเชื้อสายจีนเชื่อว่าเป็นปีที่ดีที่สุดในรอบ 12 ปี ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดพิธีทำบุญครั้งใหญ่ ตลอดทั้งเชิญซินแสที่มีความเชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยมาทำพิธีแก้เคล็ดให้เกิดความสบายใจทั้งสองฝ่าย
“ครอบครัวผมอาศัยอยู่ตรงบริเวณนี้มาตั้งแต่เกิดและยังไม่สร้างมังกรยักษ์ด้วยช้ำ ก็อยากถามว่าการมีหรือไม่มีมังกรยักษ์สิ่งไหนดีกว่ากัน แต่หากถามชาวบ้านที่นี่ ร้อยทั้งร้อยไม่อยากให้สร้างที่นี่ เพราะทับที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพศรัทธา ซ้ำยังบดบังทัศนียภาพศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ชาวบ้านเชื่อว่าเจ้าที่เจ้าทางท่านโกรธเอา เลยแผลงอิทธิฤทธิ์ให้เห็น จะคิดจะทำอะไร จะสร้างอะไรก็ควรเคารพท่านบ้าง” อุบล ระบายความรู้สึก
หยวน มาลา ผู้เฒ่าวัย 75 ปี ชาวสุพรรณบุรี บอกว่า ตั้งแต่สร้างมังกรยักษ์มามีแต่เรื่องร้ายๆ มาตลอด เรื่องร้ายแรงที่เกิดขึ้นครั้งนี้หลายฝ่ายต้องมาดูว่าสถานที่แห่งไหนบ้าง มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรบ้างที่อาจถูกคนรบกวน ต้องมาดูประวัติและรีบแก้ไขทันที ประชาชนมีเกียรติกันทุกคน สถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นผู้ทรงเกียรติเช่นกัน ดังนั้นอย่าไปทำอะไรตามความชอบ ความเชื่อส่วนตัว ต้องเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย
สอดคล้องกับความคิดเชื่อทางด้าน “ซินแส” หรือโหราศาสตร์จีน ชื่อดังจากหลายสำนัก ต่างก็มองไปในทิศทางเดียวกันว่า มังกรยักษ์สร้างไม่ถูกตามหลัก “ฮวงจุ้ย” คือ หัวมังกรสวรรค์หันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และหางมังกรจะชี้ไปทางทิศตะวันออก และตั้งอยู่ด้านซ้ายของศาลเจ้าพ่อหลักเมืองหรือทางด้านทิศใต้
โศกนาฏกรรมพลุระเบิดตรุษจีนที่สุพรรณบุรีครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุหรืออาถรรพ์เจ้าที่แรง ถือว่าเป็นอุทาหรณ์หรือเตือนสติให้กับผู้จัดงานทั้งหลาย ไม่ว่าจะงานเล็กยิ่งใหญ่อลังการแค่ไหนก็ต้องไม่ประมาทด้วยประการทั้งปวง ถ้าหากเกิดพลาดพลั้งเพียงนิดเดียว มันจะทำลายเทศกาลแห่งความรื่นเริงกลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมเพียงชั่วข้ามคืน


