ฉายานายพลตร.ปี 54 "เพรียวพันธ์-ผบ.ตร.ป้ายแดง"
สื่อตั้งฉายานายพลตำรวจปี 54 "สตช.-กระโถนสลับสี" "เพรียวพันธ์ ผบ.ตร.ป้ายแดง" - "เหลิม สปอยเดอร์แมน"
สื่อตั้งฉายานายพลตำรวจปี 54 "สตช.-กระโถนสลับสี" "เพรียวพันธ์ ผบ.ตร.ป้ายแดง" - "เหลิม สปอยเดอร์แมน"
กลุ่มสื่อมวลชนประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ตั้งฉายานายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฉายาสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปี 2554 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งฉายาเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยครั้งนี้ มีฉายาตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ฉายาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ปรากฏการณ์แห่งปี ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้
ปรากฏการณ์แห่งปี เมื่อนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย แฉบ่อนการพนันใจกลางกรุงของ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าบ่อนการพนันเป็นการจัดฉากเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผบ.ตร. เป็นพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า มีบ่อนการพนันในเมืองกรุงมีหลายที่ และอยู่คู่กับเมืองหลวงมานานแล้ว ไม่สามารถปราบปรามให้หมดสิ้นได้
โดย ฉายาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ฉายา "กระโถนสลับสี" เนื่องมาจากการทำงานของพล.ต.อ.วิเชียร ผบ.ตร.จนมีการเลือกตั้งและเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล มีกระแสข่าวมาตลอดว่าจะปลดผบ.ตร.ให้เป็นพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ซึ่งเป็นพี่เขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในช่วงนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์มีนัยยะเสมอว่า รัฐบาลต้องการผู้นำตำรวจที่มาแก้ปัญหายาเสพติดและอบายมุข
สำหรับฉายานายตำรวจต่างๆ มีดังนี้
1. "สปอยเดอร์แมน" ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวละครสำคัญที่เข้ามาเปลี่ยนเบอร์ 1 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเปรียบเสมือนตัวแทนรัฐบาลเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ต่างๆ ในองค์กร อาทิ การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ และเข้ามาแก้ตัวให้ตร.ในช่วงที่ ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม ว่าไม่ทำงาน นอกจากนี้ทุกครั้งที่ตำรวจจัดแถลงข่าวผลการจับกุมยาเสพติด หรือ คดีสำคัญ ๆ ร.ต.อ.เฉลิมจะเยินยอ ตำรวจเสมอ โดยเฉพาะพล.ต.อ.เพรียวพันธ์
2. "น้อย ยอม...ได้" พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการ สมช. อดีตผบ.ตร.คนที่ 7 จู่ ๆ ก็มีกระแสถูกปลด โดยแทบจะหาสาเหตุไม่ได้ แต่สุดท้ายนายชูวิทย์ได้ออกมาเปิดเผยบ่อนกลางกรุง จึงเป็นสาเหตุให้รัฐบาลอ้างเหตุผลนี้ แต่เบื้องหลังเป็นที่ทราบดีกว่า เป็นการจัดฉาก จนมีการต่อรองกันว่า หากพล.ต.อ.วิเชียรจะยอมก็ต้องได้รับตำแหน่งที่ดูเท่าเทียม ไม่ด้อยกว่า ผบ.ตร. จนในที่สุดก็ลงตัวที่ เลขาธิการ สมช. และพ่วงด้วย บอร์ดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
3. "ผบ.ตร. ป้ายแดง" พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. คนที่ 8 มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับกลุ่มการเมืองพรรคเพื่อไทย และเมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลทุก ๆ คนก็ เดาได้ว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ได้ เป็นผบ.ตร. แต่รัฐบาลจะอ้างเหตุการณ์ใดเพื่อปลดผบ.ตร. คนเดิมได้ จนนายชูวิทย์มาแฉเรื่องบ่อนกลางกรุงกลายเป็นเหตุผลให้นายเฉลิมอ้างว่า พล.ต.อ.วิเชียร ไม่สามารถจัดการบ่อนการพนันได้และ ต้องการให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์แก้ปัญหายาเสพติดและอบายมุขให้
4. "มือไวน์อันดับ 1" พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. เป็นตำรวจมือสืบที่ร.ต.อ.เฉลิม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความไว้วางใจ มอบหมายคดีสำคัญให้รับผิดชอบ รวมถึงหน้าที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ บช.น. บช.ภ.3-6 หลังจากร.ต.อ.เฉลิม กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็เดินทางมาตร.บ่อย ๆ ละทุกครั้งจะแวะเข้าสำนักงานของพล.ต.อ.ภาณุพงศ์เสมอ เพื่อปรึกษาหารือคดีสำคัญ ๆ และทุกครั้งก็จะต้องมีไวน์เป็นเครื่องดื่มในวงสนทนา เนื่องจากสมัยเป็นตำรวจ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นลูกน้องที่พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ไว้วางใจ
5. "วอลเปเปอร์หลงวิก" พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. นายตำรวจที่ประชาชนรู้จักมากที่สุด เนื่องจากออกสื่อได้ตรงจังหวะเวลาเสมอ จนรัฐบาลเชิญไปเป็นโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หลังจากนั้นจะเห็น พล.ต.อ.พงศพัศยืนอยู่ด้านหลังของน.ส.ยิ่งลักษ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เสมอ หากความจริงแล้วพล.ต.อ.พงศพัศ จะต้องยืนอยู่หลังพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มากกว่า
6. "มือสอบไม่สุด" พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนเรื่องบ่อนการพนันการกรุง เป็นภาพลักษณ์ของจเรตำรวจที่ตรวจสอบการทำงานของตำรวจที่สุขุม ยิ้มแย้ม แต่หลายกรณีที่มีการสอบสวนก็มักจะไม่สิ้นสุดโดนเฉพาะคดีที่ฉาวโฉ่ที่สุดในรอบปี คือ บ่อนกลางกรุงที่ ลือกันให้แซดว่าเป็นการแฉเพื่อปลดผบ.ตร.
7. "เสธ.อู๋ ฟรีแรนซ์" พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร. ก่อนจะผันหน้าที่ไปรับตำแหน่ง เลขาธิการ ป.ป.ส. ควบคู่ไปด้วย เพราะได้รับความไว้วางใจจาก ร.ต.อ.เฉลิม โดยปัจจุบัน พล.ต.อ.อดุลย์ มี2 หน้างานคือ รองผบ.ตร. ดูแล ศชต. และ ศปก.ตร. สน. และ เลขาธิการป.ป.ส. เพื่อทำหน้าที่ประสานงาน และปราบยาร่วมกับตร. แต่ผลงานที่เห็นชัดเจน คือ การปราบปรามยาเสพติด
8. "ย้อย อยู่ ได้" พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษาสบ 10 ในฐานะที่เป็นผอ.ยุทธการ 315 เพื่อป้องกันปราบปรามยาเสพติด ออกตรวจด่านความมั่นคงระดมจับกุมนักค้าและผู้เสพ เพื่อหวังแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยในช่วงแรกที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาสบ 10 มีแนวคิดให้ตำรวจทุกหน่วยติดตามความคืบหน้าของคดีผู้ค้าผู้เสพรายย่อย ให้ครบวงจร แต่ได้คำสั่งด่วนให้มาดูแลงานบริหาร ดูแลงบประมาณและสวัสดิการตำรวจ ในยุคของพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ซึ่งพล.ต.อวรพงษ์ ได้รับมอบหมายงานสำคัญในทุกรัฐบาลและผบ.ตร .
9. พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รองผบช.สทส. และโฆษก ตร. ได้รับการแต่งตั้งจากพล.ต.อ.วิเชียร ให้เป็นโฆษกตร. เป็นงานที่เพิ่มจากตำแหน่งหนักคือ รองผบช.สทส. และเมื่อได้รับตำแหน่ง แทบจะเป็นเงาของพล.ต.อ.วิเชียร และเป็นผู้ให้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ แก่พล.ต.อ.วิเชียรเป็นอย่างดี เมื่อมาในยุคของพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ พล.ต.ต.ประวุฒิ ก็หายไป ไม่ถูกใช้งานอย่างดี ทั้งในเรื่องของมารยาทที่ว่า โฆษกตร.จะทำงานได้ต้องได้รับไฟเขียวจากผบ.ตร.ก่อน กลายเป็น "โฆษกลอยแพ"
10. "โฆษกน้ำท่วม(ทุ่ง)" พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.อก.บช.น. ในฐานะโฆษกตร.ในสถานการณ์น้ำท่วม เคยดำรงตำแหน่งรองโฆษกในยุคของพล.ต.อ.วิเชียรและยังเป็นโฆษก บช.น.ด้วย โดยครั้งหนึ่งเป็นผู้ออกมาแถลงข่าวว่า บช.น.ไม่มีบ่อน ค้านกับความเป็นจริงที่สังคมรับรู้กัน เมื่อมาในยุคของพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ซึ่งเป็นห้วงของน้ำท่วมใหญ่ ก็ยังได้รับความไว้วางใจให้เป็น โฆษกแทนพล.ต.ต.ประวุฒิ ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปิยะ จะแถลงข่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ จริงจัง แต่เนื้อหาที่แถลงไม่เห็นภาพการทำงานของตำรวจ
11. "จ่าเฉยพลัดถิ่น" พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ. 3 อดีตรองผบช.น. ที่เคยดูแลงานจราจรเมืองกรุงมาตลอดการรับตำแหน่ง จนเชี่ยวชาญ หากสื่อมวลชนต้องการทราบข้อมูลการจราจรในเมืองกรุงต้องนึกถึงรองภาณุ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของงานจราจรคือ จ่าเฉย แม้จะถูกโยกไปรับตำแหน่ง ผบช.ภ. 3 แต่ยังได้รับความไว้วางใจให้ดูแลการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย
12. "คอลเซ็นเตอร์สายหลุด" พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ. 2 อดีตดำรงตำแหน่งรองผบช.ก. และทำงานปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จนประชาชนรู้เท่าทันแก๊งดังกล่าวไม่ตกเป็นเหยื่อ แต่เมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นผบช.ภ. 2 กลับไม่เห็นภาพการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกเลย
13. "พฐ. จอแก้ว" พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร. อดีตผบช.สพฐ. สามารถนำเสนอการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ บช.สพฐ. ให้ประชาชนได้รับรู้บนหน้าจอโทรทัศน์ สร้างความกระจ่างให้สังคมในการคลี่คลายคดีที่มีเงื่อนงำ และการเปิดเผยต่อสาธารณะที่มีชื่อเสียงหลายอย่าง อาทิ คดีการเสียชีวิตปริศนาอดีตนางแบบเอฟเอชเอ็ม และลอบฆ่านายประชา ประสพดี และรถชนหมอมุกนอกจากนี้ พล.ต.ท.จรัมพร เป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เพื่อนำคนไทยทั้ง 6 รายที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่นิวซีแลนด์ กลับสู่มาตุภูมิได้อย่างรวดเร็ว โดยหลักฐานะที่สำคัญคือ ลายนิ้วมือ
14. "ปุโรหิตผิดสี" พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผบช.ประจำสมช. อดีตผบช.ส. บช.ส. ซึ่งทำหน้าที่ป้อนข่าวเชิงลึกให้กับตร.เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนและยุทธศาสตร์ ในการปฏิบัติงานของตร. เปรียบเหมือนผู้ชี้ทิศทางการทำงานของตร. แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลก็ต้องถูกเด้งไปตามระเบียบ
15. "ดาวซัลโวข้างสนาม" พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผบช.ภ. 1 คนสนิทร.ต.อ.เฉลิม ถูกวางตัวให้เป็นผบช.ภ.1 ได้ยศพล.ต.ท. แต่ก็ต้องผิดหวัง เนื่องจากตำแหน่งนี้มีปัญหากรณีของพล.ต.ต.ศรีวราห์ ที่ถูกพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ร้องเรียนว่าอาวุโสไม่ครบตามเกณฑ์การแต่งตั้ง จนมีปัญหาสอบสวนกันไม่จบสิ้น ตำแหน่งผบช.ภ. 1 จึงไร้ชื่อ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ แต่คาดว่าจะสามารถจัดการปัญหาได้ก่อนสิ้นเดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากหากแต่งตั้ ผบช.ภ.1 ไม่ได้จะส่งผลกระทบไปยังตำแหน่งอื่นๆ เป็นลูกโซ่ไป เปรียบ พล.ต.ต.คำรณวิทย์เป็นดาวซัลโวข้างสนาม


