น้ำลด...ขยะท่วม
ภูเขาขยะหลังน้ำลดเกินกำลังที่หน่วยงานรัฐจะจัดเก็บให้หมดได้ในชั่วพริบตา และเป็นอีกภารกิจที่ท้าทายว่ารัฐจะ "เอาอยู่" หรือไม่!
หลังน้ำหลากสู่น้ำลด...สิ่งที่ตามมาคือกองขยะปริมาณมหาศาลและกำลังกลายเป็นวิกฤตรอบใหม่ที่ตามมาหลอกหลอนผู้ประสบภัย ซึ่งทุกวันนี้หน่วยงานรัฐก็ยังคง “เอาไม่อยู่” เหมือนเดิม
ทันทีที่น้ำลด เมืองสวรรค์อย่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) เต็มไปด้วยเศษซากขยะกองโต ผลุบโผล่อยู่ตามซอกซอยและเกาะกลางถนน ประมาณการว่ามีปริมาณขยะสะสมในพื้นที่น้ำท่วม 10 เขต รวมแล้วกว่า 1 แสนตัน จัดเก็บไปแล้ว 3 หมื่นตัน ที่เหลือตกค้างอีกราว 7 หมื่นตัน
จากตัวเลขการจัดเก็บขยะเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. พบว่า ปริมาณขยะทั้ง 50 เขต เก็บได้มากถึง 1.3 หมื่นตันต่อวัน หรือคิดเป็น 1.6 เท่าของปริมาณขยะในสภาวะปกติ 8,500 ตันต่อวัน
ก่อนหน้านี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ยอมรับว่า หนักใจไม่น้อยกับการรับมือปัญหาขยะล้นเมือง เหตุเพราะช่วงที่เกิดน้ำท่วมสูงทำให้รถขยะไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ จนต้องมีการดัดแปลงแต่งเติมเสริมสมรรถนะรถบรรทุก|ขยะให้สะเทินน้ำสะเทินบกยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน กทม.ได้เทงบประมาณฉุกเฉินกว่า 80 ล้านบาท ในการจ้างอาสาสมัครชุมชนราว 7,000 คน ร่วมจัดเก็บขยะในพื้นที่ของตัวเอง โดยค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน ตลอดจนร่วมมือกับภาคเอกชนและสถานศึกษาจัดโครงการ “ฟื้นฟูชุมชน กทม.หลังน้ำลด เพื่อสุขภาวะที่ดี” เพื่อรณรงค์ให้มีการคัดแยกขยะแต่ละประเภทก่อนนำไปทิ้ง เช่น ขยะรีไซเคิลจะนำกลับเข้าสู่กระบวนการแปรรูป ขยะบางอย่างนำไปเป็นปุ๋ยได้ และบางส่วนนำไปขายได้
พ่อเมือง กทม.ยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะเก็บกวาดขยะและซากปรักหักพังให้กลับคืนสู่สภาวะปกติภายในสิ้นปีนี้ เพื่อมอบเป็นของขวัญปลอบประโลมชาว กทม.
ด้าน เกรียงพล พัฒนรัฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อม กทม. กล่าวว่า ในช่วงที่เกิดน้ำท่วมสูง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำขยะไปทิ้งได้ ทำให้เกิดขยะสะสมปริมาณมาก แต่ภายหลังน้ำลด ทำให้ระบบการจัดเก็บเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ โดยปัจจุบัน กทม.มีศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยทั้งสิ้น 3 แห่ง ได้แก่ อ่อนนุช สายไหม และหนองแขม นอกจากนี้ยังมีจุดฝังกลบที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
อย่างไรก็ตาม มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยการงดเว้นค่าจัดเก็บขยะเป็นเวลา 4 เดือน ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม ตามที่มีการเสนอในที่ประชุมผู้บริหาร กทม. จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่าจะช่วยเหลือผ่อนปรนได้หรือไม่
จากการสำรวจพื้นที่ฝั่งธนบุรี บริเวณถนนเพชรเกษม บางแค พุทธมณฑลสาย 2 พบว่า ยังมีขยะตกค้างจำนวนมาก บางหมู่บ้านที่เจ้าหน้าที่เข้าไม่ถึง ชาวบ้านต้องนำขยะมากองรวมกันริมถนนและพื้นที่สาธารณะ ทำให้มีขยะล้นสองฝั่งถนน
เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวปากซอยเพชรเกษม 55/2 หรือหมู่บ้านเพชรเกษม 2 เล่าว่า มีประชาชนบางส่วนที่เพิ่งกลับเข้าทำความสะอาดบ้าน จึงนำข้าวของที่เสียหายออกมาทิ้ง แต่ร้านค้าหลายร้านยังต้องเปิดขายหน้าภูเขาขยะ เพราะไม่มีทางเลือก เนื่องจากขาดรายได้ไปเกือบ 1 เดือน ในช่วงน้ำท่วม
เช่นเดียวกับประชาชนในหมู่บ้านเทพนคร เล่าว่า ผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านล้วนจัดการนำขยะมาทิ้งกันเองในพื้นที่ที่เห็นว่ามีคนนำมาทิ้งไว้ก่อนแล้ว ไม่ได้มีการจ้าง เพราะต้องประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อนำไปซ่อมบ้าน ซึ่งที่จริงหน่วยงานรัฐและท้องถิ่นควรประชาสัมพันธ์จุดทิ้งขยะให้ประชาชนทราบ และควรกำหนดเวลาสุดสิ้นในการอนุญาตให้ทิ้งขยะบนพื้นที่สาธารณะ ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ทิ้งขยะปกติ เช่น อาจกำหนดให้ทิ้งได้อีกถึงสิ้นเดือนนี้ เพราะเกรงว่าพื้นที่เหล่านี้อาจกลายเป็นที่ทิ้งขยะถาวร
บุญยืน ศรีเพ็ญ หัวหน้าเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะ กทม. รับผิดชอบพื้นที่บริเวณถนนเพชรเกษม กล่าวว่า กทม.ได้ขยายเวลาจัดเก็บขยะจากปกติ 05.00-18.00 น. เป็น 05.00-21.00 น. เพื่อเร่งจัดเก็บขยะให้หมดโดยเร็วที่สุด แต่ถึงแม้จะปฏิบัติงานอย่างเต็มที่แล้ว แต่ด้วยจำนวนขยะมหาศาลและประชาชนทิ้งอย่างไม่เป็นระเบียบ ทำให้การจัดเก็บขยะยังไม่เป็นปกติ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังมีจำนวนจำกัด จึงอยากวิงวอนประชาชนให้ความร่วมมือทิ้งขยะในจุดที่จัดไว้จนกว่าระบบการจัดเก็บจะกลับมาเป็นปกติ
สำหรับพื้นที่เขตตลิ่งชัน เกรียงไกร พลรังสิต เจ้าหน้าที่เทศกิจชำนาญการ เขตตลิ่งชัน กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก กทม.ให้จัดตั้งพื้นที่ทิ้งขยะชั่วคราวที่บริเวณตรงข้ามซอยทุ่งมังกร 7 และ 9 เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถขยะขนถ่ายขยะจากบ้านเรือนประชาชนได้ง่ายขึ้น แต่หากจบภารกิจพิเศษนี้แล้วก็จะยกเลิกไม่ให้มีการนำขยะมาทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าวอีก
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ขยะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็น 1 ใน 8 จังหวัดที่กำลังประสบปัญหาขยะล้นเมือง พบว่าที่บริเวณริมถนนสาย อยุธยา–เสนา เขต ต.บ้านป้อม อ.บางบาล มีขยะถูกนำมาทิ้งไว้กลางทุ่งกองสูงเท่าภูเขา
พ.จ.อ.สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สาเหตุที่ขยะถูกนำมากองริมถนน เพราะจุดดังกล่าวอยู่ปากทางเข้าบ่อขยะของเทศบาล แต่เนื่องจากบ่อขยะถูกน้ำท่วมสูง จึงจำเป็นต้องนำมากองทิ้งไว้ด้าน|นอก ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ใกล้บ่อขยะมากที่สุดและห่างไกลชุมชน โดยหลังน้ำลดแล้ว ทางเทศบาลจะเร่งนำขยะเข้าไปในบ่อขยะทันที
“เบื้องต้นมีการนำน้ำยาอีเอ็มมาเทราดเพื่อฆ่าเชื้อและดับกลิ่น ส่วนบ่อขยะเดิมมีการกั้นขวางมิให้ขยะลอยออกจากบ่อไปตามน้ำท่วม” พ.จ.อ.สุวัฒน์ กล่าว
รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวอีกว่า ขยะที่เก็บมาจากเกาะเมืองหลังน้ำแห้งเมื่อกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันพบว่ามีประมาณอย่างน้อย 200 ตันต่อวัน และมากที่สุดถึง 600 ตันต่อวัน โดยรวมคาดว่ามีขยะจากภาวะน้ำท่วมกว่า 7 หมื่นตัน และประเมินแล้วว่าบ่อขยะของเทศบาลบนพื้นที่ที่มีอยู่ 32 ไร่ อาจไม่เพียงพอต่อปริมาณขยะมหาศาลกองนี้
ล่าสุดเทศบาลและจังหวัดได้ประชุมเพื่อหาทางแก้ไข โดยหลังจากน้ำแห้งจะใช้วิธีฝังกลบและเร่งหาพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อรองรับขยะ นอกจากนี้จะใช้วิธีการจ้างเอกชนเพื่อนำขยะไปกำจัดและรีไซเคิลแปรสภาพ
“ต้องเข้าใจว่าหลังน้ำท่วมมีปริมาณขยะมากขึ้นทุกวันและสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ซึ่งยอมรับว่าเริ่มจะเกินกำลังความสามารถการแก้ไขในระดับท้องถิ่นที่มีงบประมาณจำกัด” พ.จ.อ.สุวัฒน์ กล่าว
พ.จ.อ.สุวัฒน์ เสนอด้วยว่า ภาครัฐควรบริหารจัดการขยะในภาพรวมทั้งจังหวัดหรือจัดทำเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์โดยรัฐบาลและจังหวัดต้องยื่นมือมาช่วยในการแก้ไขปัญหาขยะด้วยการทุ่มงบประมาณสร้างโรงกำจัดขยะรวมของจังหวัดโดยด่วนที่สุด
**************************
วอนคัดแยกก่อนทิ้ง
เกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรม ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัญหาการจัดการขยะด้วยการฝังกลบที่ไม่ถูกวิธีอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยอาจทำให้แหล่งน้ำเน่าเสียและปนเปื้อนเชื้อโรคต่างๆ ได้ ดังนั้นทางกรมส่งเสริมฯ จึงพยายามมุ่งเน้นรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกในการกำจัดขยะ
ที่ผ่านมาทางกรมส่งเสริมฯ ได้ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชน รวมทั้งชุมชนห่างไกลรู้จักคัดแยกขยะก่อนทิ้ง ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อมและลดภาระของรัฐลงได้มาก เพื่อแก้ปัญหาปริมาณขยะล้นจนทำให้เกิดการบุกรุกที่สาธารณะหรือพื้นที่ป่าอนุรักษ์ อีกทั้งหากมีการคัดแยกขยะอย่างถูกต้องยังสามารถสร้างมูลค่าจากขยะเพิ่มได้
ขณะเดียวกัน ได้มีการส่งเสริมให้ชุมชนรู้จักการแปรขยะอินทรีย์เป็นปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ในงานด้านการเกษตร ส่วนขยะประเภทเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทางกรมส่งเสริมฯ ได้ประสานกับโรงไฟฟ้าขนาดเล็กและภาคเอกชนในการนำไปเป็นแหล่งเชื้อเพลิงพลังงานอีกทางหนึ่ง


