ฝั่งพระนครน้ำลด ฝั่งธนฯทรงตัว ศปภ.ยอมเปิดบิ๊กแบ็กวิภาวดีเพิ่ม 30 ม.
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังนาน ได้ทยอยเดินทางเข้าร้องเรียนให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังนาน ได้ทยอยเดินทางเข้าร้องเรียนให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.)
ณ อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ บริเวณสำนักงานใหญ่ ปตท. แก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย ชาวบ้านจากหมู่บ้านสีวลี หมู่บ้านเมืองเอก ชาวบ้านในตลาดสี่มุมเมืองด้านใต้คลองรังสิต และที่อาศัยอยู่เหนือคันบิ๊กแบ็ก รวมทั้งตัวแทนชาวบ้านเขตดอนเมือง หลักสี่ ชาวบ้านคลอง 14 ลำลูกกา โดยทั้งหมดนี้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังระดับสูงนานนับเดือน
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปภ. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่สาธารณภัยร้ายแรง ได้เชิญชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวเข้าหารือ โดยตัวแทนชาวบ้านลำลูกกา กล่าวต่อที่ประชุมว่า สาเหตุที่นำรายชื่อ 3,000 ชื่อมาร้องเรียน เพราะต้องการให้ ศปภ. แก้ปัญหาให้ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่ให้ ศปภ.เปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์เต็มพิกัด หากทำได้ชาวลำลูกกาจะรักกรุงเทพมหานคร (กทม.) มาก แต่หากน้ำไม่ลดลงภายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ชาวลำลูกกาก็จะไปนอนบนถนนมอเตอร์เวย์ 1 วัน
ระหว่างนั้น พล.ต.อ.ประชา ได้โทรศัพท์ถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ทันที และแจ้งต่อที่ประชุมว่า ผู้ว่าฯ กทม. ตกลงจะเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ เป็น 1.5 เมตร ทำให้ชาวบ้านลำลูกกาปรบมือแสดงความดีใจ ในส่วนหมู่บ้านเมืองเอก ทาง ศปภ.จะเร่งหาทางช่วยระบายน้ำลงคลองเปรมประชากรและคลองรังสิต แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดกับคลองประปา
พล.ต.อ.พงศพัศ สรุปผลการหารือกับตัวแทนชาวบ้านว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านสีวลี และสี่มุมเมืองบริเวณเหนือใต้คลองรังสิต ใต้คันบิ๊กแบ็ก และจากลำลูกกาพื้นที่ติดเขตสายไหม ทางกรมชลประทานและ กทม.จะช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่ภายหลังระดับน้ำต่ำกว่าแนวคันกั้นน้ำ หรือต่ำกว่าตลิ่งในลำคลอง โดยจะสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและกระสอบทราย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ประชา ได้มอบให้ทาง จ.ปทุมธานี ตั้งจุดรับลงทะเบียนจ่ายเงินชดเชยขึ้นที่บริเวณศูนย์การค้าเซียร์รังสิต และฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดอนเมือง เพิ่มจุดบริการขอรับเงินช่วยเหลือขึ้นที่บริเวณหมู่บ้านอยู่เจริญ ซอยวิภาวดี 37 เนื่องจากในพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมสูง
ด้าน อานนท์ กล่าวว่า มติที่ประชุม ศปภ. ให้เปิดบิ๊กแบ็กบนถนนวิภาวดีรังสิตเพิ่มเติม จากเดิมที่ได้เปิดบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาออก 8 ม. และขณะนี้ได้เปิดจนถึงระดับพื้นถนนแล้ว ทั้งนี้จะให้เปิดเพิ่มเติมจนถึงบริเวณทางรถไฟเป็นระยะ 2030 ม. เพื่อให้น้ำสามารถระบายลงมาตามคลอง และข้ามถนนวิภาวดีรังสิตจนเข้าสู่คลองเปรมประชากรต่อไป ขณะที่คันบิ๊กแบ็กด้านรถไฟสายเหนือ ด้านคลองรังสิตถึงบริเวณจุดต่อถนนวิภาวดีรังสิต ระดับน้ำบริเวณนี้ยังคงสูง หากเปิดทั้งหมดอาจทำให้น้ำไหลบ่าได้
นอกจากนี้ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่ประตูระบายน้ำเปรมประชากรที่เชื่อมต่อกับคลองรังสิตแล้ว เพื่อรองรับน้ำที่จะไหลเพิ่มเข้ามาได้ ขณะเดียวกันยังต้องปิดแนวคันกั้นน้ำบริเวณจุดกลับรถสะพานแก้ว เพื่อลดปริมาณน้ำไม่ให้เข้าถนนวิภาวดีรังสิต และได้เพิ่มเครื่องสูบน้ำบริเวณหลักสี่อีก 1 เครื่อง เพื่อรองรับน้ำที่จะไหลเข้ามาเพิ่มเติม รวมถึงเพิ่มเครื่องผลักดันน้ำที่คลองบางเขน บริเวณจุดตัดสะพานประชาชื่น ขณะที่ทาง จ.ปทุมธานี ก็จะช่วยสนับสนุนการขุดลอกคูคลองอีกทางหนึ่งด้วย
อานนท์ กล่าวด้วยว่า นอกจากจะเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ 1.5 ม. แล้ว ยังจะเปิดบานประตูบริเวณคลอง 810 ที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ในระดับ 1.14 ม. เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากคลองหกวาสายล่าง คาดว่าภายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ระดับน้ำน่าจะลดจนต่ำกว่าตลิ่งในลำคลอง
นอกจากนี้ ยังมีประชาชนบริเวณซอยรามอินทรา 139 ได้รวมตัวปิดถนนรามอินทราซอย 5 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการเปิดบิ๊กแบ็กบริเวณกองทัพอากาศ โดยได้ให้เวลา กทม. แก้ปัญหาภายใน 7 วัน
ด้านสถานการณ์น้ำท่วม ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พบว่ามีหลายหมู่บ้านท่วมสูงถึงระดับ 2 เมตรมาร่วม 2 เดือน เช่น ถนนบริเวณหน้าหมู่บ้านอาภากร 2 หมู่บ้านกิตติชัย และหมู่บ้านพฤกษา 31 ขณะที่หมู่บ้านกิตติชัยวิลล่า 5 และ 15 ระดับน้ำยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ทำให้ต้องนั่งเรือมารอรับความช่วยเหลือกลางสายน้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่จากอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จ.นครปฐม มูลนิธิชัยพัฒนา จ.นครปฐม และอีกหลายหน่วยงานได้เข้าไปแจกถุงยังชีพ 300 ชุด พร้อมเรือ 20 ลำ ขณะที่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยมหิดล น้ำเริ่มลดจนรถวิ่งฝั่งขาเข้า กทม.ได้แล้ว ยกเว้นถนนสายนครชัยศรีศาลายา
น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ว่า สถานการณ์น้ำใน กทม. ช่วงคลองแสนแสบตั้งแต่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ระดับน้ำลดลง 1 ซม. คลองประเวศบุรีรมย์ ระดับน้ำลดลง 1 ซม. คลองลาดพร้าว ระดับน้ำลดลง 13 ซม. คลองเปรมประชากรช่วงดอนเมือง ระดับน้ำทรงตัว ขณะที่ช่วงวัดเทวสุนทรเป็นต้นไป ระดับน้ำลดลง 1 ซม. คลองบางเขน ระดับน้ำลดลง 12 ซม. คลองบางซื่อ ระดับน้ำลดลง 25 ซม. ส่วนฝั่งธนบุรีขณะนี้คลองช่วงบน อาทิ คลองมหาสวัสดิ์ คลองภาษีเจริญ และคลองอื่นๆ ระดับน้ำยังคงทรงตัว มีเพียงคลองขุนศรีบุรีรักษ์เท่านั้นที่มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก 1 ซม.
วสันต์ มีวงษ์ โฆษก กทม. ระบุว่า น้ำทุ่งดอนเมือง คลองหกวาสายล่างที่ประตูระบายน้ำคลอง 2 และคลองมหาสวัสดิ์ที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ลดระดับลง 23 ซม. ระดับน้ำในคลองสายต่างๆ ยังสูงและล้นตลิ่ง ส่วนคลองสายหลัก ระดับน้ำลดลง 25 ซม. ได้แก่ คลองแสนแสบ คลองประเวศบุรีรมย์ คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร คลองบางเขนช่วงใกล้คลองบางบัว และคลองบางซื่อ ขณะเดียวกันคลองช่วงบนทั้งหมดฝั่งธนบุรีเริ่มลดลง 12 ซม.
สำหรับสถานการณ์น้ำด้านพื้นที่ตะวันตก กทม.ได้ระดมเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำแล้ว ทำให้หลายพื้นทน้ำเริ่มลดลง และบางแห่งแห้งจนเกือบปกติ แต่ภายหลังเปิดประตูระบายน้ำ 3 แห่ง ตามข้อเรียกร้องของชาวนนทบุรี แม้ระดับน้ำในคลองมหาสวัสดิ์จะลดลง 3 ซม. แต่ส่งพื้นที่แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา โดยเฉพาะหมู่บ้านและชุมชนในซอยย่อย มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 510 ซม. ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ กทม.จะติดตั้งเครื่องสูบน้ำคลองศาลเจ้าและคลองสวนแดน เพื่อเร่งระบายน้ำในบริเวณถนนทุ่งมังกร ถนนฉิมพลี และเพิ่มการสูบน้ำบริเวณคลองทวีวัฒนาตัดเพชรเกษม เพื่อลงคลองภาษีเจริญให้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม. มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตทวีวัฒนา หนองแขม และภาษีเจริญ สำรวจพื้นที่ภายในชุมชนและหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 3 แห่ง รวมถึงประตูระบายน้ำฉิมพลี
พล.ต.อ.ประชา ยังชี้แจงเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่มีเจ้าหน้าทีให้ความช่วยเหลือน้อยและล่าช้า เพราะต้องไปชี้แจงกรรมาธิการที่รัฐสภา จึงขอให้รอฟังการอภิปรายในสภา ในวันที่ 27 พ.ย. จะได้ทราบว่าใครเป็นฝ่ายผิดฝ่ายถูก
สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญตัวแทนภาคเอกชนเข้าหารือที่บ้านพิษณุโลก ให้ช่วยจัดโครงการคลีนนิงเดย์ ภายใต้ชื่อ “รวมใจคนไทยถวายในหลวง” ขึ้นระหว่างวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เพื่อทำความสะอาดพื้นที่น้ำท่วม ทั้งถนน คลอง ในพื้นที่น้ำท่วมทุกจังหวัด


