การพูดเหน่อกับการยอมรับในสังคมไทย

ช่วงนี้ความเครียดถามหาเราๆ ท่านๆ กันอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะปัญหาค่าครองชีพที่อะไรๆ ก็ดูจะแพงไปเสียหมด

โดย..สมโพธิ ศรีภูมิ 

ในขณะที่พี่น้องภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางในเขตลุ่มเจ้าพระยาทุกจังหวัดกำลังเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอย่างแสนสาหัส ส่วนคนเมืองก็เจอกับปัญหาหุ้นตกชนิดไม่ดูดำดูแดงกันเลย วันนี้ผมจึงขอนำเสนอเรื่องเบาๆ เกี่ยวกับการพูดเหน่อมาฝากท่านผู้อ่าน ถือว่าเป็นการคลายเครียดก็แล้วกันนะครับ

จริงๆ แล้วผมอยากที่จะเขียนเกี่ยวกับการพูดเหน่อตั้งแต่ตอนที่หนังเรื่องพุ่มพวงกำลังโด่งดังเป็นที่ฮิตติดตลาด แต่เกรงจะถูกมองว่าโหนกระแสหรือยิ่งเป็นการไปเชียร์หนังของเขาให้แรงขึ้นไปอีก เลยต้องรอให้กระแสของหนังซาๆ ลงไปเสียก่อน ที่ผมโยงไปเกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนี้ก็เพราะน้องเปาวลี นางเอกของเรื่องที่รับบทเป็นคุณพุ่มพวงแกเป็นคนสุพรรณบุรี ซึ่งเชื่อขนมกินได้เลยครับว่าคนที่มีพื้นเพและเติบโตมาจากย่านนี้พูดเหน่อกันทั้งนั้น เพียงแต่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง แต่กลายเป็นว่าการพูดเหน่อของน้องเปาเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการที่จะเดินอยู่บนถนนสายบันเทิงในบ้านเรา ผมเลยฉุกคิดต่อไปว่า แล้วการพูดเหน่อควรเป็นอุปสรรคต่อการที่จะอยู่บนถนนสายบันเทิงหรือต่อการทำมาหากินไม่ว่าจะอาชีพใดก็ตามหรือไม่

พูดถึงวงการบันเทิงก็คงหนีไม่พ้นที่จะมองไปถึงฮอลลีวูด เพราะถือว่ายิ่งใหญ่และคุ้นเคยกันมากที่สุด ยิ่งใหญ่ขนาดสื่อมวลชนทุกแขนงติดตามความเคลื่อนไหวของการประกาศผลรางวัลออสการ์ ไม่แพ้การรายงานข่าวน้ำท่วมในบ้านเราเสียอีก และถ้าหากเรามองว่าผู้ที่มีพื้นเพมาจากย่านสุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี รวมถึงสิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ตลอดจนสำเนียงทองแดงจาก 14 จังหวัดภาคใต้ และหางเสียงอีสานหรือภาคเหนือเหน่อแล้ว ดาราฮอลลีวูดพูดเหน่อกันเป็นทิวแถวเลยครับ

ผมขอยกตัวอย่างดาราดังๆ ที่เราๆ ท่านๆ คุ้นเคยกันดี เริ่มตั้งแต่ เควิน คอสต์เนอร์ และนิโคลาส เคจ สองคนนี้มีสำเนียงเหน่อในหนังแทบทุกเรื่องที่เขาแสดง พระเอก 007 ทุกยุคทุกสมัยไล่ตั้งแต่ ฌอน คอนเนอรี มาจนถึง แดเนียล เคร็ก พูดภาษาอังกฤษสำเนียงคนจากเกาะอังกฤษไม่ใช่สำเนียงคนอเมริกัน เนื่องจาก 007 เป็นสายลับของอังกฤษก็ต้องเลือกพระเอกที่มีความเป็นอังกฤษเป็นพื้นฐาน รวมไปถึงดารารุ่นลายครามอย่าง แอนโทนี ฮอปกินส์ แม้จะหากินอยู่ในฮอลลีวูดเกือบตลอดชีวิต แต่ก็ยังติดสำเนียงอังกฤษ–อังกฤษ อยู่ดี

ที่ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นนักแสดงสีผิวเกือบทั้งหมด พูดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันแอฟริกัน ไม่ว่าจะ เอ็ดดี เมอร์ฟี หรือ วิลล์ สมิท ในขณะที่ แอนโตนีโอ แบนเดอราส จาก The Mask of Solo พูดสำเนียงฮิสแปนิก หรือสำเนียงของผู้ที่มาจากอเมริกากลางและอเมริกาใต้ เขียนมาถึงตรงนี้แล้วอดให้นึกถึงท่านอดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียกล้ามใหญ่ ล่ำบึ้ก อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ เจ้าของฉายาคนเหล็กไม่ได้ เพราะพี่แกเป็นคนออสเตรีย เลยทำให้แกมีสำเนียงเหน่อน่ารักไปอีกแบบหนึ่ง ส่วนอีตา ฌอง คอส แวนแคม แกก็เหน่อผสมดัตช์ตามพื้นเพของแก และที่น่าภูมิใจแทนชาวเอเชีย ก็เห็นจะเป็นไอ้หนุ่มหมัดเมา เฉินหลง หรือแจ๊กกี้ ชาน ที่เอาสำเนียงเหน่อฮ่องกงไปประทับบนแผ่นฟิล์มฮอลลีวูดมาแล้วหลายเรื่อง

เมื่อพูดถึง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ แล้วทำให้นึกเลยไปถึงวงการการเมืองซึ่งก็มีคนพูดเหน่อกันมากหน้าหลายตา ที่แน่ๆ ประธานาธิบดี 3 คนล่าสุดของสหรัฐอเมริกาพูดเหน่อหมดทุกคนเลยครับ ท่านประธานาธิบดี บิล คลินตัน มาจากรัฐอาร์คันซอ ก็เลยติดสำเนียงเหน่อของคนตอนกลางของประเทศมาด้วย สำหรับ จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ผู้ยิ่งใหญ่จากเทกซัส มีสำเนียงทองแดงจากแดนใต้ผสมอยู่ ส่วนท่านประธานาธิบดีคนปัจจุบัน บารัก โอบามา นั้นเป็นคนสีผิว จึงมีสำเนียงอเมริกัน–แอฟริกัน แม้จะไม่สุดขั้วเหมือนท่านสาธุคุณแจสซี แจ๊กสัน หรือคนสีผิวทั่วไปก็ตาม

กลับมาเมืองไทยกันบ้างครับ สิ่งที่สื่อออกมาไม่ว่าจะจากหนังหรือละครโทรทัศน์ก็ตาม หากเป็นสำเนียงเหน่อสุพรรณฯ แล้วก็ต้องเป็นทหารเกณฑ์ หรือเป็นคนที่บ้า โง่ เซ่อ เฟอะฟะ เป็นตัวตลกของเรื่อง แม้จะเป็นพระเอกก็เป็นพระเอกบนความเปิ่น ท่านผู้ที่พอจะมีอายุคงจำได้ว่าพระเอกจอมเปิ่นสระอูหางยาวจากสุพรรณบุรีสร้างเป็นหนังใหญ่ลงโรงอยู่เกือบ 10 ตอน ส่วนสำเนียงอีสานก็ต้องผูกขาดกับบทคนรับใช้เท่านั้น จากสิ่งเหล่านี้หรือไม่ที่ทำให้เกิดค่านิยมที่ว่า การที่จะรับบทพระเอกนางเอกหรือบทนำในถนนบันเทิงได้ ก็ต้องไม่พูด “เหน่อ” ทั้งๆ ที่การพูดเหน่อเป็นเรื่องปกติในวิถีชีวิตประจำวันของคนทุกภาคทุกจังหวัด

การพูดเหน่อจึงไม่ควรเป็นเรื่องน่าอายแต่อย่างใด แต่กลับเป็นเรื่องที่ควรภาคภูมิใจที่แสดงออกให้เห็นถึงความหลากหลายในสังคมไทย การพูดภาษาไทยปนภาษาอังกฤษ หรือการออกเสียงตัว “ร” เป็นเสียงตัว “r” เสียอีกที่เป็นเรื่องที่น่าอาย ท่านผู้อำนวยการสร้างและท่านผู้กำกับทั้งหลายครับ ปล่อยให้พระเอกนางเอกเขาพูดเหน่อไปเถอะครับ แล้วสักวันหนึ่งท่านจะภูมิใจที่ท่านมีส่วนช่วยผลักดันให้สังคมไทยเปิดกว้างรับความหลากหลายและความแตกต่างได้มากขึ้น