posttoday

จับแดงใส่กระด้งระวัง!น้ำผึ้งหยดเดียว

29 สิงหาคม 2554

หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จสิ้น รัฐบาลก็ได้ฤกษ์ทำงานนับหนึ่งอย่างเป็นทางการ

หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จสิ้น รัฐบาลก็ได้ฤกษ์ทำงานนับหนึ่งอย่างเป็นทางการ

โดย...ทีมข่าวการเมือง

หลังจากแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จสิ้น รัฐบาลก็ได้ฤกษ์ทำงานนับหนึ่งอย่างเป็นทางการ

สัญญามากมายที่ให้ไว้ระหว่างหาเสียงและนำมาบรรจุในนโยบาย จึงถูกจับตาทุกฝีก้าวว่า รัฐบาลเพื่อไทยจะบิดพลิ้วในคำมั่นหรือไม่ หรือ “จะดีแต่พูด” หรือ “ทำครึ่งเดียว”

ขณะที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า นี่เป็นนโยบาย “แก้บนแบบเลี่ยงบาลี” เพราะภาษาที่เขียนในนโยบายบางตัวเริ่มมีเงื่อนไข บางเรื่องเขียนแต่ภาพกว้างๆ

แต่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ซื่อสัตย์ต่อประชาชน จะทำตามที่พูดทุกอย่าง

“การทำงานก็เหมือนการทำข้อสอบ มีถูกบ้างผิดบ้าง ไม่ใช่ต้องถูก 100% ทุกวิชาแต่ดิฉันมั่นใจว่าจะสอบผ่านทุกวิชา”

จากนี้จึงเป็นเรื่องที่ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ต้องเร่งพิสูจน์คำพูดว่าทำงานเพื่อประชาชนจริง ไม่เอื้อประโยชน์กับพวกพ้องและเครือญาติ อย่างที่หลายคนสงสัย

ทว่า เรื่องร้อนที่เป็นอันตรายคุกคามรัฐบาล คือ กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาบงการให้รัฐบาลน้องสาวคอยช่วยเหลือ เข้านอกออกในประเทศมหาอำนาจอย่างญี่ปุ่น

ผลลัพธ์ของการช่วยเหลือพี่ชาย จึงทำให้ “รัฐมนตรีกระสุนตก” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ถูกฝ่ายค้านยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง ขณะที่โพลสะท้อนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรหยุดแย่งซีน และต้องเปิดโอกาสให้น้องสาวได้โชว์ภาวะผู้นำบ้าง

จับแดงใส่กระด้งระวัง!น้ำผึ้งหยดเดียว

 

เพราะถ้ายังครอบงำสั่งการต่อไป ก็ยิ่งเป็น “จุดถ่วง” ต่อรัฐบาลเพื่อไทย

อย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คือ ผู้ต้องคำพิพากษาจำคุก 2 ปี และหลบหนีคดีอยู่ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่ต้องนำตัวมารับโทษตามกฎหมาย

อีกเรื่องที่อาจสร้างปัญหากับพรรคเพื่อไทย คือ การเล่นบทปกป้องรัฐบาลของคนเสื้อแดงที่หนักถึงใช้กำลังและละเมิดกฎหมายระหว่างการอภิปรายนโยบายรัฐบาล

เหตุการณ์แรก กลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมให้กำลังใจรัฐบาลปูหน้าสภา ได้แสดงความไม่พอใจ 2 หนุ่มในชุดนักศึกษาที่นำพวงหรีดมาวางประท้วง สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ที่วางตัวไม่เป็นกลาง โดยใช้กำลังรุมทำร้ายจนต้องเผ่นกระเจิง

ขณะเดียวกันคนใกล้ชิด ชวน หลีกภัยแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า หลังวันแถลงนโยบายวันที่ 24 ส.ค. ขณะที่รถของชวนออกจากรัฐสภากลางดึก ได้ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงหน้าสภาล้อมรถและตะโกนด่าทอ มีคนเสื้อแดงรายหนึ่งพยายามใช้ด้ามธงฟาดไปที่รถ แต่รถขับหนีออกไปก่อน จึงรอดฉิวเฉียด

การเข้าไปทำร้ายชายหนุ่มหน้าอาคารรัฐสภากลางวันแสกๆ ระหว่างที่มีการประชุมรัฐสภาทำให้ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ นำไปหารือในสภา นายกฯ ยิ่งลักษณ์จึงรับปากดูแลให้ โดยมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ รับผิดชอบ

ต่อมา “บิ๊กเหลิม” ได้ต่อสายพูดคุยกับขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรฯ เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นกลุ่มแดงอุดรฯ หรือไม่ พร้อมกับขอร้องให้ดูแลคนเสื้อแดงให้เรียบร้อย

ขณะเดียวกันเกิดเหตุเสื้อแดงคุกคามนักข่าว จากอีเมลลูกโซ่ส่งต่อกันในกลุ่มคนเสื้อแดงให้จัดการกับนักข่าวช่อง 7 ที่ตั้งคำถามกับ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ จนต้องเดินหนี ในอีเมลได้เปิดเผยชื่อนักข่าวพร้อมรูปถ่าย และข้อความสั่งการ “เจอที่ไหน ช่วยกันจัดให้หน่อย” จนผู้สื่อข่าวภาคสนามทำหนังสือถึงนายกฯ ให้ตรวจสอบ ขณะที่องค์กรสื่อออกแถลงการณ์ประฌามพฤติกรรมขู่ทำร้ายนักข่าวที่เกิดขึ้น

เรื่องทำท่าบานปลาย เพราะกระทบกับภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่อ่อนไหวกับกรณีอีเมลฉาวซื้อสื่อของทีมโฆษกพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ จน “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” โฆษกพรรคเพื่อไทย ถึงกับขอร้องคนเสื้อแดงให้หยุดการกระทำดังกล่าว

“มันไม่เหมาะสม แม้จะเป็นกองเชียร์พรรคเพื่อไทยก็ตามอย่ากระทำ เนื่องจากจะทำให้ภาพลักษณ์คนที่ถูกเชียร์เสียหาย”

เมื่อมีการตรวจสอบก็ได้รับการยืนยัน มีตัวตนชัดเจน

พรทิพย์ ปักษานนท์ กลุ่มคนเสื้อแดง จ.เพชรบุรี ยอมรับว่าได้ส่งข้อความคุกคามนักข่าวช่อง 7 ไปยังคนเสื้อแดงจริง เธอบอกว่า “พอมีข่าว ก็เสียใจ ไม่ได้มีเจตนาข่มขู่ทำร้าย อยากไปพบน้องนักข่าวผู้หญิงเพื่อขอโทษด้วยตัวเอง”

ไม่เฉพาะ 3 เหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงเกิดอาการคึกคะนองเป็นองครักษ์นอกบท ส่งผลด้านลบต่อรัฐบาลเพื่อไทยในช่วงเทกออฟ

กรณีคนเสื้อแดงบางส่วนได้ล่วงละเมิดสถาบัน ซึ่งฝ่ายค้านนำมาอภิปราย ข้องใจว่าเหตุใดรัฐบาลไม่มีนโยบายเชิงรุกในการปกป้องสถาบันจากกลุ่มจาบจ้วง เช่น แดงสยามและแกนนำบางส่วนที่หนีอยู่ต่างประเทศ

รวมถึงความไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะแก้ไขมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายหมิ่นสถาบันหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมา นายกฯ ปูให้สัมภาษณ์คลุมเครือ

ทำให้ “รองเหลิม” ต้องยืนยันกลางสภาชัดเจนเป็นครั้งแรก และถ่ายทอดสดทั่วประเทศว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่แก้ไขมาตรา 112 เด็ดขาด และพรรคเพื่อไทยมีความจงรักภักดีเต็มเปี่ยม

“สิ่งหนึ่งที่ผมจะทำทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คือ บรรดาเว็บไซต์ทั้งหลายที่หมิ่นสถาบัน จะให้ตำรวจตั้งเป็นวอร์รูมและคณะทำงาน เรื่องอย่างนี้ต้องมีไม่ได้ในรัฐบาลชุดนี้ ผมจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนจะได้มากน้อยแค่ไหน ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” รองนายกฯ กล่าว

รัฐบาลจำเป็นต้องเดินเกมรุกปราบเสื้อแดงนอกกรอบ ใช้ความรุนแรงและหมิ่นสถาบัน โดยนายกฯ ปู มอบหมายให้ “บิ๊กเฉลิม” เดินหน้าลุยเต็มที่ทุกกรณี เพราะหากปล่อยให้คึกคะนองจนล้ำเส้นอย่างนี้ จะเป็นผลร้ายกับรัฐบาลและเปิดแผลให้กับฝั่งตรงข้ามได้

อีกด้านอาจเป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” เพราะกลุ่มคนเสื้อแดง คือ นั่งร้านที่ช่วยให้พรรคเพื่อไทยชนะถล่มทลาย อาจเข้าทำนองเปิดศึกพวกเดียวกัน นี่จึงเปราะบางสำหรับพรรคเพื่อไทย

 

ข่าวล่าสุด

CardX มอบเงินบริจาคห้าแสนบาทแก่สภากาชาดไทยเพื่อเร่งฟื้นฟูเยียวยาและช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัย