posttoday

เปิดใจ"ยงยุทธ ติยะไพรัช" พรรคเพื่อชาติขอเป็นเกาะกลาง-พา"ทักษิณ"กลับบ้าน

21 มีนาคม 2562

เปิดใจ"ยงยุทธ ติยะไพรัช" กับภารกิจพรรคเพื่อชาติและการประกาศ "พาทักษิณกลับบ้าน"ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

เปิดใจ"ยงยุทธ ติยะไพรัช" กับภารกิจพรรคเพื่อชาติและการประกาศ "พาทักษิณกลับบ้าน"ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง

*******************************

โดย....ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ประเด็น “พาทักษิณกลับบ้าน” ถูกพูดถึงมาหลายต่อหลายครั้ง โดยแกนนำฝ่ายการเมืองหลายต่อหลายคน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่พูดทุกครั้ง เปิดประเด็นนี้ออกมาทุกครั้ง ก็จะถูกตีโต้กลับ ถูกดิสเครดิต จนปัจจุบันหลายพรรค การเมืองที่ว่ากันว่าเป็นพรรคเครือข่ายของทักษิณ ชินวัตร ก็แทบไม่มีพรรคไหนกล้าพูดถึงเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา

แต่ล่าสุดในช่วงหาเสียงโค้งสุดท้าย “ยงยุทธ ติยะไพรัช” กองเชียร์คนสำคัญของพรรคเพื่อชาติกลับประกาศแบบหมดเวลาเกรงใจว่า พรรคเพื่อชาติในฐานะพรรคเกาะกลาง จะขอมติจากประชาชนพาทักษิณกลับบ้าน

อะไรที่ทำให้ยงยุทธกล้าประกาศแบบหมูไม่กลัวน้ำร้อน.....

ยงยุทธ บอกว่า การประกาศจะพาทักษิณกลับบ้านนั้น พรรคเพื่อชาติไม่ได้เพิ่งประกาศ แต่เป็นผลจากนโยบายที่เป็นเกาะกลาง หรือ Talking Area เพื่อที่จะได้ให้คนทุกฝ่ายได้มีโอกาสมาพบปะพูดคุยกัน ถ้ายืนอยู่คนละข้าง มองแต่ปัญหาความขัดแย้งนั้น ผลดังกล่าวนี้จะส่งถึงลูกหลานในวันข้างหน้าก็จะทำให้ประเทศชาติอ่อนแอ

ทั้งนี้ การพาทักษิณกลับบ้านก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นการยกโทษ หรือนิรโทษกรรมเหมือนกับคณะรัฐประหารหรือฝ่ายเผด็จการที่ยึดอานาจแล้วก็นิรโทษกรรมให้ตัวเองแล้วตัวเองไม่ผิด แท้ที่จริงแล้วการฉีกรัฐธรรมนูญก็ผิด แต่กรณีของอดีตนายกฯ ทักษิณนั้น เมื่อถูกยึดอำนาจ ก็มีการตั้งข้อกล่าวหา ไม่มีเผด็จการหรือผู้มีอำนาจคนไหนที่จะบอกว่า เหุตที่ตัวเองยึดอำนาจมานั้นเพราะรัฐบาลเป็นคนดี ดังนั้นการพูดคุยกันจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ยงยุทธ บอกอีกว่า การเสนอเรื่องการนำอดีตนายกฯ ทักษิณกลับไทยนั้น รู้อยู่แล้วว่าจะทำให้ฝ่ายที่หากินกับการปลุกผีคุณทักษิณนำไปขยายผลในการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่หวั่นไหว เพราะตั้งใจจะให้บ้านเมืองเกิดความสงบ ไม่ใช่มาปลุกระดมสร้างความหวาดระแวงต่อกัน ไม่อย่างนั้นบ้านเมืองก็เดินหน้าไม่ได้

“เหตุที่คุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ) ประกาศเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ถ้าเป็นสมัยก่อนหน้านั้น ยุคสงครามเย็นก็จะอ้างว่า ทักษิณเป็นคอมมิวนิสต์ก็พูดได้ วันนี้ไม่มีเงื่อนไขอะไรที่เขาจะไปประกาศสู้ เขาไม่กล้าประกาศว่าเขาอยู่ฝั่งตรงข้ามคุณประยุทธ์ เพราะคุณประยุทธ์สามารถให้คุณให้โทษกับเขาได้ เขาเป็นแค่เพียงคนเอาตัวรอดในเหตุการณ์ต่างๆ และเขาก็รู้ดีว่าสิ่งที่อุปโลกน์ขึ้นมาว่า ทักษิณเป็นปฏิปักษ์ต่อนั่นต่อนี่ ก็เป็นข้อกล่าวหาทั้งนั้น คนที่น่าจะออกไปอยู่ต่างประเทศ น่าจะเป็นคุณสุเทพ มากกว่า เพราะบ้านเมืองจะได้สงบเสียที”

สำหรับการประกาศบุคลิกภาพของพรรคเพื่อชาติในการเป็นพรรคเกาะกลางที่ให้มีการพูดคุยกันนั้น “ยงยุทธ” อธิบายว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่าคนเราเห็นต่างกันได้ ทะเลาะกันได้ แต่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปสู้รบปรบมือกัน และปัญหาหลักวันนี้ ไม่ได้อยู่ที่ว่า ประชาธิปไตยดีหรือไม่ดี แต่ประชาธิปไตยนั้นทำให้คนทั้งหลายอยู่ร่วมกันได้

อีกนโยบายที่สำคัญของพรรคเพื่อชาติ คือ การยกเลิกทุนผูกขาด การผูกขาดตัดตอนสัมปทานทั้งหลายที่เอารัดเอาเปรียบคนยากคนจนโดยอาศัยความสนิทสนมกับผู้มีอำนาจทั้งหลายแล้วก็ให้สัมปทานกันนั้นเป็นการดูดเอาทรัพยากรของประเทศและโอกาสของคนยากคนจนทั้งหลายไปอยู่ในมือตัวเองจนล้นเหลือ

“วันนี้อะไรก็ตามที่เป็นปัญหากับชาติบ้านเมืองนั้น เราต้องเลิกเด็ดขาด เราต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ คนรวยก็รวยล้นฟ้า คนจนก็จนไม่มีอะไรจะกิน ความเหลื่อมล้ำมีมาก”

นอกจากนี้ พรรคก็ชูนโยบายยกระดับสถานีอนามัยให้เป็นโรงพยาบาลตำบลที่มีความทันสมัย นโยบาย 1 ตำบล 1 นักศึกษาแพทย์ รองรับการยกระดับอนามัยตำบลเป็นโรงพยาบาล นโยบายราคาพืชผลทางการเกษตร โดยกำหนดราคาสินค้าทางการเกษตรให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด พร้อมแนะแนวทางยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ตั้งรับกระแสการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agro ไtourism) โดยจัดบ้านเป็นโฮมสเตย์ พร้อมรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ นโยบายโฉนดใบเดียวทั้งแผ่นดิน คือ การยกเลิกเอกสารสิทธิทุกประเภท อาทิ สปก. นส.2 นส.3 และอื่นๆ ให้เหลือเพียงโฉนดเท่านั้น รวมถึงจะใช้มาตราส่วนเดียวกันในโฉนดทุกประเภท ลดปัญหาความขัดแย้ง และเพิ่มความเท่าเทียมกัน ให้กับเจ้าของโฉนดทุกคน

สำหรับเสียงตอบรับจากประชาชนจากการลงพื้นที่หาเสียงถึงโค้งสุดท้าย “ยงยุทธ” กล่าวอย่างมั่นใจว่า ประชาชนโดยเฉพาะชาวรากหญ้าทั้งหลายนั้น ตอบรับกลับมาว่า พรรคเพื่อชาติคือพรรคของคนจน เป็นพรรคของพวกเขา ไม่ต้องกังวลใจ ไม่ต้องไปรับเงินนายทุนที่ไหนมา ขอให้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาพืชผลทางการเกษตร การเอารัดเอาเปรียบจากการได้รับสัมปทาน เขาก็พึงพอใจแล้ว

“สตางค์นั้นเขาก็จะรับจากฝั่งเผด็จการพวกที่โกงบ้านกินเมืองมา ส่วนไปกาบัตรลงคะแนนเขาจะกาให้พรรคเพื่อชาติ คณะกรรมการบริหารพรรคทุกคนยืนยันว่า เพียงแค่เราเป็นพรรคเกาะกลาง มีคน เดินลงมาอย่างเช่น จตุพร พรหมพันธุ์ (ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ) คุณอำนวย สุวรรณคีรี (อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.สงขลา) ก็เป็นสัญลักษณ์ให้รู้ว่า คนไทยเราพร้อมที่จะก้าวเดินและแก้ปัญหาไปด้วยกัน”ยงยุทธ ระบุ