posttoday

"หมอธี" กวาดบ้านกระทรวง ศธ.ยุคนี้ขาวสะอาดที่สุด

14 มกราคม 2562

เปิดใจ "หมอธี" นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กับเป้าหมายในการสะสางปัญหาทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ

เปิดใจ "หมอธี" นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กับเป้าหมายในการสะสางปัญหาทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ

******************************

โดย...ธเนศน์ นุ่นมัน

ข่าวการทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตามที่คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการทุจริต ศธ.ได้ออกมาสรุปตัวเลขการแก้ไขปัญหาทุจริต 10 หน่วยงานในสังกัด ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างเดือน ส.ค. 2558-พ.ย. 2561 มีคดีทุจริตรวม 631 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 365 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 266 เรื่อง

ตัวเลขที่สูงจนน่าตกใจทำให้เกิดคำถามในสังคมมากมาย ว่าเกิดอะไรขึ้นกับกระทรวงครู หน่วยงานที่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นด่านแรกในการชี้เป็นชี้ตายอนาคตของชาติในฐานะที่ให้ความรู้สั่งสอนเด็กตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงในรั้วมหาวิทยาลัย

โพสต์ทูเดย์มีโอกาสได้พูดคุยกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. และในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการทุจริต ศธ. เพื่อไขความกระจ่างในเรื่องนี้

เมื่อเริ่มต้นด้วยคำถามสั้นๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นใน ศธ.ในยุคนี้กันแน่ รมว.ศธ.ท่านนี้ก็เล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดีว่า โดยสถิติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว ศธ.มักจะมีตัวเลขร้องเรียนเรื่องทุจริตไม่โปร่งใสเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่ตัวเลขที่เป็นข่าวส่วนใหญ่ไม่ได้เพิ่งเกิดในช่วงประมาณ 2 ปี ที่ได้มารับตำแหน่ง

“เมื่อมาเอาจริงเอาจังช่วงนี้ เรื่องจึงโผล่ขึ้นมาเยอะ เช่น กรณีกองทุนเสมาที่หลังจากสอบสวนตอนนี้เสร็จแล้วก็ทราบว่าโกงโดยบุคคลแค่ไม่กี่คนที่อยู่ระดับล่าง โกงกันมานานนับ 10 ปี แต่ก็เพิ่งมาจับได้ แล้วดำเนินการเด็ดขาดและรวดเร็วในช่วงนี้ เรื่องอินเทอร์เน็ตเด็กที่ไม่มีความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งก็กินเวลานับ 10 ปีเช่นกัน หลายเรื่องก็ยังค้างอยู่ เรื่องที่เป็นที่ติดตามอย่างโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา ที่วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หรืออควาเรียมหอยสังข์ ก็เช่นกัน

...ที่พบว่า เกิดในยุคนี้มีแต่เรื่องเล็กๆ เช่น อาหารกลางวัน เรื่องเด็กผีที่ทำกันมานาน ทุกวันนี้อาจจะมีคนแอบทำอยู่แต่คิดว่าคงจะไม่ค่อยกล้า เพราะว่าพวกฝ่ายตรวจสอบในระดับนโยบายและพวกที่ลงไปตรวจสอบและประชาชนเขาไม่เอาด้วย ข่าวเรื่องทุจริตจึงเป็นเรื่องที่ผมดีใจที่มีประชาชนสนใจ แต่จะบอกว่าอย่าตกใจ อยากให้มองใหม่ว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลและพวกผมเอาจริงเอาจัง” รมว.ศธ. กล่าว

ปัญหาการทุจริตใน ศธ. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ ใหม่หรือเก่า ต่างก็เป็นเรื่องร้ายแรง เพราะนอกจากนับเป็นการปล้นประเทศแล้ว ยังถือว่าเป็นการทำลายโอกาสเด็ก อย่างกรณีโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ศธ. หรือ MOENet ที่พบความไม่ชอบมาพากล เรื่องค่าบริการแพง แต่ประสิทธิภาพของการใช้งานค่อนข้างต่ำ จนมีการสั่งยกเลิกโครงข่ายดังกล่าวไปแล้วและหันไปใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของเอกชนที่ใช้งบประมาณเพียง 1 ใน 3 ของโครงข่ายเดิม

“ทั้งหมดที่จะบอกคือการที่ฝ่ายบริหารไม่เอาจริงเอาจัง เพราะไม่ใช่ว่ากฎเกณฑ์ไม่ดี แต่ตรวจสอบแล้วลูบหน้าปะจมูกใช้เวลาตรวจสอบกันนานเหลือเกินในแต่ละเรื่อง อย่างเรื่องอควาเรียมนี่ใครๆ ก็รู้ว่ามันมีปัญหาแต่ไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบจริงๆ เรื่องฟุตซอลนี่สืบข้อเท็จจริงกันมา 5 ปีมาเสร็จยุคผม ตอนผมเข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ เคยถามว่าทำกันไปได้แค่ไหน ก็ได้คำตอบว่าเสร็จ 5% จนต้องแซวว่า ถ้า 5 ปีเสร็จ 5% ถ้าจะให้เสร็จ 100% ต้องใช้เวลากี่ปี อันนี้สืบนะ เรื่องพวกนี้มันจะมีขั้นตอนการสืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้วค่อยสอบวินัย แต่ละขั้นตอนเมื่อก่อนใช้เวลาเป็นปี ยื้อกันดึงกันไป เพราะฉะนั้นปัญหาทั้งหมดของประเทศเราก็คือการที่คนไม่ทำหน้าที่” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

"หมอธี" กวาดบ้านกระทรวง ศธ.ยุคนี้ขาวสะอาดที่สุด

รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้การสะสางเรื่องทุจริตใน ศธ.ดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็วก็คือ ความร่วมมือจากทุกฝ่าย

“ผมคิดว่าเราทำได้มากกว่ายุคอื่นๆ เพราะตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรี ระดับรัฐมนตรีและทีมงาน ทำงานเข้าขากันได้ดี ในอดีตทีมงานและรัฐมนตรีอาจจะไม่เข้าขากัน แต่ทีมงานผมนี่ชัดเจนอย่าง พล.อ.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศธ. ลงพื้นที่เต็มที่ ม.ล.ปริยดา ดิศกุล เลขานุการ รมว.ศธ. ก็มีสายสืบเยอะ

ฉะนั้นทีมงานเราเข้มแข็ง ถ้าเราดำเนินการทางกฎหมายมันก็จะเดินหน้า และต้องไม่ลูบหน้าปะจมูก ผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้าเมื่อก่อนหัวหน้าเขาไม่เอากับเราด้วย ช่วยลูกน้องแล้วยื้อหรือบางทีก็เอาด้วยกับลูกน้องนี่เราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมทำในวันนี้คือทำให้นิติธรรม ธรรมาภิบาลเกิดขึ้น โดยที่ทุกคนเข้าร่วม พอประชาชนมั่นใจขึ้น ทุกวันนี้ผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย พอมีสักเคสดังขึ้นมา ก็มีคนร้องเรียน แจ้งเบาะแสมากมาย”

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ทุกวันนี้ใช้สำนักงานปลัด ซึ่งเป็นกลางพอสมควร เพราะไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในผลประโยชน์มากนัก แต่ถ้านิติกรอยู่ในองค์กรบางทีเราไม่รู้ว่าใครเป็นพวกใคร ใครช่วยใครอยู่ ดังนั้น ต้องทำทุกอย่างตามกฎหมาย ฝ่ายถูกกล่าวหาก็ต้องมีโอกาสชี้แจง ตอนนี้สำนักนิติการของ ศธ.ทำงานกันหนักมาก ปลัด ศธ.ก็หาคนมาให้อีก 8 คน โดยโอนจากตำแหน่งอื่นมาก็เรียกว่าเป็นดีเอสไอประจำกระทรวง เพราะจะได้มีอำนาจเข้าไปสอบกรณีต่างๆ ของแต่ละหน่วยงาน

“2 ปีที่ผมเป็นรัฐมนตรี มีเงินเหลือจ่ายแต่ละปีหลายพันล้านซึ่งปกติเงินเหลือจ่ายอยู่ในอำนาจของรัฐมนตรี แต่ผมไม่มีโครงการอะไรที่จะนำงบประมาณที่เหลือไปใช้เลย คืนให้ครูหมด ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมสาธารณูปโภค จ่ายค่าสาธารณูปโภค ซ่อมบ้านพักครู คูปองครู ก็มาจากเงินเหลือจ่ายนี่แหละ ผมจึงมองว่านโยบายปราบทุจริตของเราเดินมาถูกทางแล้ว

ในอนาคตคนจะได้เห็นผลจากความเปลี่ยนแปลงจากที่เราได้ทำอยู่ มันจะออกดอกผลกว่าไปถึงลูกหลาน โรงเรียนมีความทันสมัยจะดีขึ้นนี่ใช้เวลา แต่ด้วยความภูมิใจ ผมสามารถบอกได้ว่า หลายอย่างมันเปลี่ยนไปจริงๆ เอาตั้งแต่เริ่มต้น ลองถามข้าราชการตั้งแต่เรื่องการบริหารบุคคลว่า รู้สึกว่าเปลี่ยนไปหรือไม่ ผมมั่นใจได้เลยว่ายุคนี้ขาวสะอาดที่สุดไม่มีใครวิ่งเต้นขึ้นตำแหน่งสูงๆ ไม่มีการต้องใช้เงิน ถ้าใช้ก็คือระดับล่างไปติดสินบนกันเอง คนทำงานมีความสุข ไม่มีนักการเมืองไปสั่งให้ทำโครงการต่างๆ” รมว.ศธ. กล่าว