posttoday

เปิดใจขุนพลอีสาน ปชป. ระบบใหม่ได้มากกว่าเดิม

10 มกราคม 2562

สมรภูมิเลือกตั้ง'62- เปิดใจ"วิฑูรย์" ขุนพลอีสานปชป. เชื่อ ระบบใหม่ได้มากกว่าเดิม

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

พื้นที่ภาคอีสานถือเป็นฐานคะแนนสำคัญที่ทุกพรรคต่างให้ความสำคัญทุ่มเข้าไปหาเสียงแข่งขันกันอย่างเต็มที่ ไม่เว้นแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งติดภาพลักษณ์พรรคของคนใต้ จนทำให้พื้นที่ภาคอีสานกลายเป็นจุดอ่อนยากจะเข้าถึง

แต่รอบนี้ วิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคอีสาน แสดงความมั่นใจว่าประชาธิปัตย์จะได้คะแนนเสียงมากกว่าที่ผ่านมา เพราะระบบเลือกตั้งใหม่ทุกคะแนนมีความหมาย ต่างจากระบบเลือกตั้งเดิมที่คะแนนในเขตเลือกตั้งที่แพ้ในระบบเขตไม่มีความหมาย

ทั้งนี้ จากพื้นที่ภาคอีสานทั้งหมด 116 เขต การเลือกตั้งล่าสุด 4-5 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ได้รับคะแนนเสียงประมาณ 1 ล้านคะแนน มี สส.เขต 4 คน แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมานั้นคะแนนที่แพ้เลือกตั้งไม่มีผล คิดเฉพาะ 4 คนที่ชนะเท่านั้น

"ครั้งที่แล้วเราจะได้คะแนนเฉพาะเขตที่เราได้ สส. แต่เที่ยวนี้เราสู้ทุกเขต เราเอาจริงทุกเขต ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง เที่ยวนี้โอกาสที่จะได้คะแนนรวมเกิน 1 ล้าน แต่จะเกินเท่าไหร่นั้น ต้องรอวิเคราะห์คู่แข่ง คู่ต่อสู้ว่าเล่นเกมหนักแค่ไหน" วิฑูรย์ กล่าววิฑูรย์ อธิบายว่า ในพื้นที่ภาคอีสานพรรคที่น่าจะได้คะแนนอันดับ 1 น่าจะเป็นพรรคเพื่อไทยเพราะ สส.เพื่อไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ยังอยู่กับเพื่อไทย ถัดมาคือพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ ส่วนพรรค อื่นๆ ก็พอมี แต่โอกาสที่จะได้ สส.นอกจาก 4 พรรคนี้ยังมองไม่เห็น สำหรับประชาธิปัตย์รอบนี้คาดว่าจะได้มากกว่า 10 ที่นั่ง ทั้ง อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด ส่วนจะได้จริงเท่าไหร่ขึ้นกับฟอร์มของคู่แข่ง

ทั้งนี้ ต้องดูฟอร์มของพลังประชารัฐ ว่าของจริงดีหรือไม่ เพราะจากที่พรรคพลังประชารัฐเปิดตัวกันมาเยอะ ทั้งอดีต สส. อดีตรัฐมนตรี จะเห็นว่าเป็นอดีต สส. ก่อนเลือกตั้งครั้งสุดท้าย ไม่ใช่เป็นอดีต สส. หรืออดีตรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย จึงถือว่ายังไม่สด แต่เนื่องจากเขามีอำนาจรัฐ แจกนู่นนี่ ส่วนจะทำให้เสียงดีขึ้นหรือไม่ก็ต้องรอดู

"แต่ใจจริงยังคิดว่าพรรคภูมิใจไทยน่าจะเบียดขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในพื้นที่ภาคอีสาน เพราะประกาศตัวชัดเจนแน่นอน เขาไม่สู้ทุกเขตเลือกตั้ง เขาเลือกสู้เฉพาะเขตเป้าหมาย ถึงจะส่งผู้สมัครครบทุกเขต แต่เขาจะเลือกสู้เฉพาะเขตเป้าหมายของเขา ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ตอนนี้เขาสู้แบบสะเปะสะปะ"

วิฑูรย์ ย้ำว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนมากขึ้น ส่วนเขตที่มีการแข่งขันสูง เช่น โคราช ชัยภูมิ เรามีผู้สมัครดีๆ แต่หลายพรรคสู้กันเยอะ เราเลยไม่ค่อยมั่นใจนัก โดยผู้สมัครรอบนี้ดีกว่ารอบที่แล้วมาก เนื่องจากมีความพร้อม มีเวลาในการเตรียมตัว การจัดการ มีเวลาสรรหามากกว่าครั้งที่ผ่านมาเยอะ หากครั้งที่แล้วเต็ม 100% ครั้งที่แล้วเตรียมตัวได้ประมาณ 10% แต่ครั้งนี้ความพร้อมเตรียมตัวได้ถึง 80%

สำหรับการคัดเลือกผู้สมัครของพรรครอบนี้ มีความหลากหลายทั้งคนเก่า คนรุ่นใหม่ นักการเมืองท้องถิ่น นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ คนรุ่นหนุ่มสาว ซึ่งอายุต่ำกว่า 40 ปี มีจำนวนมาก ซึ่งในความเป็นจริงคนรุ่นใหม่ก็อาจมีความเสียเปรียบคนเก่าอยู่บ้าง เพราะคนเก่ามีฐานเสียงเดิมอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว แต่คนรุ่นใหม่ยังไม่มีฐานเสียง และการเลือกตั้งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือน สำหรับการลงพื้นที่หาเสียง แต่คนรุ่นใหม่ก็จะมีฐานของคนรุ่นใหม่

หากวิเคราะห์ฐานคะแนนเดิมที่ได้ 1 ล้านคะแนนนั้น บางเขตประชาธิปัตย์ได้เพียงแค่หลักพัน 3,000-5,000 ขณะที่คู่แข่งได้กันหลักหมื่น แต่เมื่อการเลือกตั้งรอบนี้ทุกคะแนนมีความหมาย จึงต้องทำให้ได้คะแนนทุกเขต ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าจะทำอย่างไรให้ได้คะแนนทุกเขตเกินหมื่นขึ้นไป ซึ่งหากรวมทุกเขต 116 เขต จะได้มากกว่า 1 ล้านคะแนนที่เคยได้ ยังไม่รวมกับคะแนนในเขตที่เสียงดี มีความพร้อม ดังนั้นจึงมั่นใจว่าประชาธิปัตย์จะได้คะแนนมากขึ้น

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในแง่นโยบายพรรคที่จะไปใช้หาเสียงในพื้นที่ภาคอีสานนั้น นโยบายที่ประชาชนชื่นชอบนโยบายแรกคือ เรื่องประกันรายได้ ประกันราคา เช่น ชาวนาทำนาสมมติประกันรายได้ตันละ 1.5 หมื่นบาท แต่ราคาขายในตลาดอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นบาท จะมีส่วนต่าง 5,000 บาท เกษตรกรก็จะไปรับกับรัฐ 5,000 บาท แต่ถ้าราคาขายเกิน 1.5 หมื่นบาท ก็ไม่ต้องมารับจากรัฐ นโยบายประกันราคาตรงนี้ดีกว่าการโครงการรับจำนำของรัฐบาลที่ผ่านมา ยุ่งยากต้องเอาข้าวไปเข้าโครงการรับจำนำ ต้องขนส่งยุ่งยาก ทำให้คนไม่ค่อยชอบ แตกต่างจากโครงการประกันรายได้ของประชาธิปัตย์ที่คนชอบมากกว่า

อีกนโยบายที่คนชอบคือเรื่องสวัสดิการที่ประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรกที่นำเสนอ และมีหลายพรรคมาทำเลียนแบบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะเป็นเรื่องดี ทั้งสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุ ดูแลอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ไปจนถึงเรื่องนโยบายใหม่อย่างเรื่องการกระจาย อำนาจ กระจายความเจริญ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานไปสู่พื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งนโยบายที่บอกไปนี้เชื่อว่าจะจูงใจให้ประชาชนมาเลือกประชาธิปัตย์มากขึ้น

ส่วนบรรยากาศการหาเสียงในพื้นที่ซึ่งเคยเป็นปัญหาในอดีตนั้น วิฑูรย์ กล่าวว่า เที่ยวนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ซึ่งขณะนั้นยังแยกเป็นสีแดง สีเหลือง และพื้นที่อีสานสีแดงแข็งแรง แต่เที่ยวนี้ไม่มีเรื่องสีเสื้อแล้ว จากเดิมครั้งที่แล้วพื้นที่บางพื้นที่ในภาคอีสานเราไปไม่ได้เลยหาเสียงไม่ได้เลย แต่ครั้งนี้หัวหน้าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หาเสียงได้ทุกพื้นที่ เพราะฉะนั้นโอกาสดีขึ้น