posttoday

กางแผน 5 ข้อเร่งด่วน! แก้วิกฤต"รถติดลาดพร้าว"

08 สิงหาคม 2561

การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่งผลให้การจราจรบนถนนลาดพร้าวเข้าสู่ภาวะวิกฤตรถติดหนัก ตำรวจจึงเตรียม 5 แผนเพื่อแก้ไข

การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองส่งผลให้การจราจรบนถนนลาดพร้าวเข้าสู่ภาวะวิกฤตรถติดหนัก ตำรวจจึงเตรียม 5 แผนเพื่อแก้ไข

**********************

โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ

ระยะทาง 13.4 กิโลเมตรบนถนนลาดพร้าว ถนนซึ่งถูกจัดอันดับเอาไว้ว่าเป็นถนนที่รถติดที่สุดในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ชั่วยามนี้กำลังเป็นพื้นที่ที่คนขับขี่และสัญจรต้องขยาดมากที่สุด เพราะล่าสุดจากการที่วางแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (เส้นทางลาดพร้าว-สำโรง) ด้วยการปิดช่องทางจราจร ทางขวาชิดเกาะกลาง 1ช่อง ระหว่างซอยลาดพร้าว 61 ถึงลาดพร้าว 87 และช่วงคลองลาดพร้าวถึงคลองบางซื่อหรือลาดพร้าว 43 ถึงตลาดลาดพร้าวสะพาน 2

เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผู้คนที่สัญจรทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถเมล์ หรือแม้แต่รถจักรยายนต์ก็ต้องติดอยู่บนท้องถนนเพิ่มขึ้นอีกราว 1-2 ชั่วโมง โดยเฉพาะยามเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็น

แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐอย่างตำรวจ กทม. และผู้รับเหมาสัมปทานก่อสร้าง หรือเจ้าของการก่อสร้างรถไฟฟ้าจะประชาสัมพันธ์เอาไว้แล้วว่าจะเกิดการปิดถนน แต่ผู้ขับขี่ก็ไม่คิดว่าสถานการณ์จะรุนแรงถึงขนาดนี้ บ้างก็ต้องเลี้ยวเข้าห้างสรรพสินค้าเพื่อกินข้าว หรือทำธุระส่วนตัว กลับออกมารถก็ยังไม่ขยับไปไหน และที่สำคัญคือรถติดที่ถนนลาดพร้าว ก็ลามไปยังถนนอื่นๆ ที่เชื่อมต่อด้วยเช่นกัน ทั้งทางด่วนหรือทางปกติ

แนวทางการแก้ปัญหาล่าสุดถูกวางไว้ที่ตำรวจ ซึ่งนับเป็นโจทย์หินพอดูในการแก้ปัญหาเพื่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งล่าสุด แหล่งข่าวจากกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) เปิดเผยแผนในการแก้ไขปัญหาจราจรเบื้องต้นสำหรับถนนลาดพร้าวไว้ โดยถอดแผนออกมาเป็น 5 ข้อ คือ

1.ปัญหาหลักเกิดจากป้ายรถเมล์จำนวนมากในถนนลาดพร้าวที่มีถึง 21 ป้าย ซึ่งทั้งหมดเมื่อมองจากองค์ประกอบแล้วขวางเส้นทางจราจรอย่างมาก อีกทั้งการก่อสร้างจะทำให้ต้องเสียพื้นผิวจราจรไปอีก 1 ช่องทางในเบื้องต้น ตำรวจจะทำการขยับป้ายรถเมล์ และสร้างป้ายชั่วคราวตามจุดต่างๆ ที่เหมาะสมและให้สอดรับกับการก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งป้ายรถเมล์จะอยู่ระหว่างจุดใดนั้นยังอยู่ในขั้นตอนหารือ แต่เบื้องต้นคาดว่าจะขยับจากป้ายเดิมแต่ละแห่งไปราว 50 เมตร

2.ซอยรัชดาภิเษก 32 หรือบริเวณหน้าศาลอาญารัชดา จะประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้นเพื่อให้ประชาชนใช้เป็นเส้นทางลัด รวมถึงจะมีการปาดเกาะกลางถนนบริเวณหน้าศาลอาญาเพื่อทำจุดกลับรถและเลี้ยวเข้าซอยได้ทันที และบังคับห้ามจอดรถกีดขวางในซอยอย่างเด็ดขาด

3.จัดกำลังร่วมระหว่างตำรวจ ขสมก. รฟม. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนตามป้ายรถเมล์ กรณีที่มีการเลื่อนหรือขยับป้ายรถเมลล์ไปยังจุดที่หลีกเลี่ยง

4.ประสานห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีลาดพร้าว หรือห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ขอใช้พื้นที่ถนนหน้าห้างเป็นจุดจอดรับส่งสำหรับรถเมล์ รวมถึงเป็นพื้นที่ระบายรถในชั่วโมงเร่งด่วน

5.รอคำสั่งจากพล.ต.อ.จักรทิพทย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามคำสั่งห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปเข้าพื้นที่ตั้งแต่เวลา 05.30 น. ไปจนถึงเวลา 10.00 น. หรือให้พ้นชั่วโมงเร่งด่วน

กางแผน 5 ข้อเร่งด่วน! แก้วิกฤต"รถติดลาดพร้าว"

ขณะที่ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิต รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ที่รับผิดชอบงานด้านจราจร ที่ยอมรับว่า การก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ต้องกินเวลาไปอีก 4-5 ปีนี้จะหนักหนาอย่างแน่นอนบนถนนลาดพร้าว เนื่องเพราะแนวก่อสร้างที่ถึงอย่างไรก็ต้องมีการใช้พื้นที่ถนนสัญจรอย่างแน่นอน แม้ช่วงนี้ปิดเพียงแค่ 1 ช่องทาง เหลือให้สัญจรกัน 3 ช่องทางก็ยังเกิดการติดขัดอย่างหนัก อนาคตจะต้องปิดถนนเพิ่มอีก 2 ช่องทาง หากทางเลี่ยงทางแยกทางลัดยังไม่อาจรองรับได้ ปัญหาก็จะยิ่งถาโถม

แม้การปิดถนนยังผ่านพ้นไปไม่ถึง 1 สัปดาห์ดี แนวทางแก้ไขการติดขัดเบื้องตัน ตำรวจได้ประสานไปยังผู้รับเหมาก่อสร้างให้รื้อถอนแนวก่อสร้างออกไปก่อนในชั่วโมงหนาแน่นเพื่อให้เกิดการระบายรถอย่างเต็มที่ เมื่อพ้นชั่วโมงเร่งด่วนไปแล้วให้นำแบริเออร์พลาสติกมากั้นเพื่อทำงานได้ ขณะที่ทางเลี่ยงนั้น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ให้ภาพว่า จะให้ประชาชนใช้ถนนในซอยรัชดาภิเษก 32 และซอยรัชดาภิเษก 36 ที่เชื่อมต่อไปยังถนนลาดพร้าว-วังหินได้เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางก่อสร้าง ซึ่งจะวางกำลังตำรวจคอยโบกรถให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง

อีกหนึ่งเส้นทางที่จะบังคับเพื่อระบายรถ คือกระแสรถที่มาจากถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าแยกรัชดา-ลาดพร้าว รถที่ตั้งใจจะเลี้ยวขวามุ่งหน้าถนนลาดพร้าวขาออก จะปิดป้ายห้ามเลี้ยว เพื่อบังคับให้รถตรงไปยังถนนรัชดาภิเษกฝั่งสุทธิสารเพื่อกลับรถและให้เลี้ยวซ้ายออกตรงถนนลาดพร้าวขาออกแทน ขณะที่รถยนต์ที่จะมุ่งหน้าข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าวก็ขึ้นสะพานไปทันทีไม่ปะปนกัน ขณะที่รถยนต์จาก 5 แยกลาดพร้าวก็เช่นกัน เมื่อมาถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าวแล้วจะให้เลี้ยวซ้ายเพื่อนำไปสู่เส้นทางลัดเข้าซอยรัชดาภิเษก 32 และ 36 ต่อไป