posttoday

ส่องชื่อ "กลุ่มทุน" เบื้องหลังสำคัญ"พรรคการเมือง"สู้เลือกตั้ง

26 เมษายน 2561

เปิดท่อน้ำเลี้ยงพรรคการเมืองสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่ รวมทั้งกลุ่มนายทุนที่เข้ามาสนับสนุน "พรรคลายพราง"

เปิดท่อน้ำเลี้ยงพรรคการเมืองสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่ รวมทั้งกลุ่มนายทุนที่เข้ามาสนับสนุน "พรรคลายพราง"

****************************

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

การเมืองไทยในยุคเปลี่ยนผ่านเริ่มคึกคักนับแต่ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจในรัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ยอมรับแล้วว่าจะลุยการเมืองต่อ “สมคิด” ออกหน้าเชียร์เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยหน้า พร้อมตั้งพรรครองรับ “บิ๊กตู่” นั่งเป็นกุนซือ โดยมีคนในรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มาจากฟากกลุ่มทุนสนับสนุนเพียบ อาทิ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” คอนเนกชั่นกับเจ้าสัวเมืองไทยทุกคน แน่นอนพรรค คสช. จึงถูกมองว่ากระสุนเลือกตั้งเพียบ บรรดานักการเมืองพรรคจิ๋วๆ ต่างอยากต่อท่อน้ำเลี้ยงด้วย

ต่างจากพรรคเก่าแก่อย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” นำโดย “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มทุนหน้าเดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นคนตระกูลดัง หรือนิติบุคคล ที่ล้วนมีสายสัมพันธ์กับการก่อตั้งพรรค ผู้บริหาร หรือ สส.ในพรรค อาทิ ตระกูลโสภณพนิช หรือกลุ่มนิติบุคคล ที่สนับสนุนในรูปแบบเงินบริจาค เช่น เบญจจินดา โฮลดิ้ง ยิบอินซอย อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น เสริมสงวน กรุงธนเอนยิเนียร์ สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) สงขลาฟินิชชิ่ง

ยังรวมถึงนายทุนใหญ่ อาทิ กลุ่มเมโทรแมชีนเนอรี่ สนับสนุนผ่านลูกสาว ทยา ทีปสุวรรณ ภรรยาของ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ สส.กทม. และกลุ่มสิงห์ของตระกูลภิรมย์ภักดี ส่งทายาท จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี หรือ “ตั๊น” มาชิมลางงานการเมือง รวมถึงเครือดุสิตธานี คอนเนกชั่นผ่านทาง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะเขยดุสิตฯ หรือกลุ่มทุนขาประจำที่มักสนับสนุนทุกข้างไม่ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ชนะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ เช่น แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส น้ำตาลมิตรผล หรือเครือสหพัฒน์ รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือพฤกษา เรียลเอสเตท ดังนั้น กลุ่มทุนที่สนับสนุนพรรคมีตั้งแต่ทุนระดับชาติไปจนถึงระดับทุนท้องถิ่น

ฟาก พรรคเพื่อไทย แน่นอนนายทุนพรรคเบอร์หนึ่งยังคงเป็น “ทักษิณ ชินวัตร” ตระกูลชินวัตร เป็นนายทุนใหญ่ตลอดกาล ส่วนรายอื่นๆ ที่ร่วมจ่าย อาทิ พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน พรรคเพื่อไทย องอาจ เอื้ออภิญญกุล พี่ชาย วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เจ้าของธุรกิจกลุ่มบ้านปู และบริษัท เฉลิมโลก ของ วิรุฬ เตชะไพบูลย์ อดีต รมช.พาณิชย์ สมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช รวมถึง พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 หรือสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีตเหรัญญิกพรรคพลังประชาชน เป็นต้น

สำหรับพรรคลายพราง ในการกุมบังเหียนโดย “สมคิด” แน่นอนส่วนใหญ่ย่อมเป็นนายทุนหรือนักธุรกิจใหญ่ที่อยู่ในเครือข่ายประชารัฐ ที่ให้การสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลภายใต้โครงการประชารัฐจำนวน 12 บริษัท ดังนี้ 1.ธนาคารกรุงเทพ 2.บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ 3.บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย 4.ธนาคารไทยพาณิชย์ 5.บริษัท น้ำตาลมิตรผล 6.บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป 7.บริษัท ปตท. 8.บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล 9.บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ 10.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร 11.บริษัท ซีพี ออลล์ และ 12.บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น

นายทุนหน้าใหม่ที่อาจเข้ามาสนับสนุนอาจรวมถึงกลุ่มศรีสุบรรณฟาร์มของสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ที่ประกาศหนุน “บิ๊กตู่” มาโดยตลอด ซึ่ง “สมคิด” ประกาศแล้วว่าความชัดเจนชื่อพรรคจะเปิดตัวภายในเดือน มิ.ย.นี้

แน่นอนว่านายทุนใหญ่ระดับเจ้าสัวล้วนลงขันช่วย 3 พรรคใหญ่ ประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และพรรคลายพรางที่สนับสนุนทั้งในแบบออกนอกหน้าและลับหลัง ที่ว่ากันว่าอาจจะระดมได้สูงถึง 4 หมื่นล้านบาท ในการตั้ง “พรรคพลังประชารัฐ”

ส่วนพรรคระดับกลางที่ตอนนี้ “บิ๊กตู่” กำลังตามจีบ คือ “พรรคภูมิใจไทย” แกนนำเบอร์หนึ่ง คือ “เนวิน ชิดชอบ” พรรคนี้นายทุนใหญ่เพียบ รวยอันดับต้นๆ ของประเทศ อาทิ เจ้าสัวรับเหมาก่อสร้างแห่งบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ของชวรัตน์ ชาญวีรกูล ซึ่งมีทายาทอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล หรือ “เสี่ยหนู” หัวหน้าพรรคคอยสั่งการรองจากเนวิน อีกทุนใหญ่ คือ วิชัย ศรีรักอักษร เจ้าของคิงเพาเวอร์ ต้องจับตาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรวันที่ 7-8 พ.ค.นี้ ที่ จ.บุรีรัมย์ “บิ๊กตู่”บุกมาเยือนถึงถิ่นขนาดนี้จะปิดดิวจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้ากับ “บิ๊กเนฯ” ได้หรือไม่

ส่วนพรรคกะทัดรัด หรือพรรคจิ๋ว อาทิ พรรคพลังชล นำโดย สนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรี และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชลบุรี (สส.ชลบุรี) หลายสมัยทุนใหญ่มาจากเงินคนในตระกูล “คุณปลื้ม” เป็นหลัก ซึ่งขณะนี้ทราบดีว่าเข้าร่วมกับ คสช.ไปแล้ว

เช่นเดียวกับ “พรรคชาติพัฒนา” นำโดย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ทุนใหญ่ในการหาท่อน้ำเลี้ยงให้พรรค หรือด้าน “พรรคชาติไทยพัฒนา” ที่พอหมดยุค “บรรหาร ศิลปอาชา” นายทุนพรรคเอง แน่นอนในรุ่นลูก ย่อมไม่เฟื่องฟูเหมือนรุ่นพ่อ ที่นายทุนระดับเจ้าสัวจะมาล่มหัวจมท้ายสนับสนุนเหมือนรุ่นพ่อที่แม้ลมการเมืองจะเปลี่ยนทิศไปอย่างไร พรรคของ “มังกรเติ้ง” ยังได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลเสมอ แต่ในยุคลูกท็อป หรือ “วราวุธ ศิลปอาชา” จะเป็นเช่นไร ต้องรอพิสูจน์ ว่าจะถูกดูดเหมือนพรรคพลังชลหรือไม่