posttoday

เปิดบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาป.ป.ช. สอบเข้าร.ร.นายอำเภอปี52สุดอัปยศ

12 ตุลาคม 2553

เป็นเรื่องเป็นราวยาวนานข้ามปี สำหรับกรณีการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ปี 2552 หรือเรียกสั้นๆว่า “การสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ” 

เป็นเรื่องเป็นราวยาวนานข้ามปี สำหรับกรณีการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ปี 2552 หรือเรียกสั้นๆว่า “การสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ” 

ล่าสุด  คณะกรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว   ได้แก่นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง, นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่, นายครรชิต สลับแสงเลขานุการกรมการปกครอง และนายสำราญตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านกรมการปกครอง ซึ่งเป็นตำแหน่งขณะนั้น รวม 4 คน มีความผิดวินัยและอาญา รวมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้เข้าสอบคัดเลือกอบรมหลักสูตรนายอำเภอปีงบประมาณ 2552 จำนวน 142 คน ว่ามีความผิดวินัย ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเล็ดลอดออกมาเป็นระยะว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์รายละหลายแสนบาท บ้างก็ว่าคนที่ผ่านการสอบคัดเลือกล็อตนี้ได้พระดีเป็นรุ่น “หลวงพี่ห้อย”   โดยเฉพาะ “ชวลิต  วิชยสุทธิ์”  ส.ส.สัดส่วน  พรรคเพื่อไทย (พท.)ที่ระบุในเรื่องนี้ว่า  “มหาดไทยยุคนี้มีการทุจริตในหลายเรื่อง  แค่จะเข้าโรงเรียนนายอำเภอก็รู้กันว่าต้องมีของดีแขวนคอถึงจะเข้าได้  ลองไปขอดูว่าทั้งหมดที่เข้าได้ต้องมีเหรียญนายอำเภอรุ่นคุณห้อย ซึ่งตกเหรียญละ 8 แสนบาทอยู่ด้วยหรือไม่”  บ้างก็ว่า คนบุรีรัมย์เก่งกว่าคนจังหวัดอื่นๆ  เพราะสามารถสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ได้มากที่สุด  

 

เปิดบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาป.ป.ช. สอบเข้าร.ร.นายอำเภอปี52สุดอัปยศ

แต่ที่มากไปกว่านั้นยังมีข่าวว่าการสอบครั้งนี้มีการลอกข้อสอบ เขียนคำตอบเหมือนกันหมด   เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้นึกถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเด็กมัธยม ถ้ามีการทุจริตข้อสอบแบบนี้ เด็กคนนั้นคงหมดอนาคตอย่างแน่นอน   เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก และคงเป็นตราบาปสำคัญไปตลอดชีวิต ถ้ามีการกระทำการทุจริตแบบนั้น   ดังนั้นเมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ซึ่งคนเหล่านี้จบไปแล้วจะต้องไปเป็นนักปกครองของบ้านเมือง  ถ้าข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. ที่ระบุว่า การสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอปี 2552 มีการทุจริตอย่างโจ๋งครึ่ม  จึงถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจยิ่งนัก

ทั้งนี้การสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอปี 2552  ที่มีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. 2552  โดยมีข้าราชการระดับ 7 ที่มีสิทธิสอบจำนวน 1,642 คน  โดยมีผู้ได้รับการคัดเลือกแบ่งเป็น 3 รุ่น  รวมประมาณ  288  คน โดยมีผู้มีปัญหาเรื่องการทุจริตในการสอบเข้า 142 คน    ส่วนที่เหลือถือว่าคุณสมบัติผ่าน  ซึ่งทั้ง 3รุ่นได้ผ่านหลักสูตรโรงเรียนนายอำเภอแล้วระหว่างที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) ตรวจสอบเรื่องนี้   อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้การมีการเลื่อนการสอบคัดเลือกเข้าโรงเรียนในปี  2553 เลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด เพื่อรอให้การพิจารณาเรื่องนี้เสร็จก่อน

บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวมีความยาว 12 หน้า   มีการระบุพฤติกรรมการทุจริตสำคัญ อาทิ เช่น ก่อนถึงวันการประชุมการออกข้อสอบอัตนัยที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 มี.ค. 2552   นายวงศ์ศักดิ์  สวัสดิพาณิชย์  อธิบดีกรมการปกครองในขณะนั้น  ได้เชิญนายวุฒิชัย เสาวโกมุท  ซึ่งเป็นคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัยเข้าไปพบและแจ้งว่า  "ผู้มีอำนาจทางการเมือง"ในกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการผ่านมาทางนายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรมการปกครอง ว่า ในการสอบคัดเลือก นอ.ครั้งนี้ ผู้มีอำนาจดังกล่าวได้มอบรายชื่อผู้เข้าสอบประมาณ 150 คนมาให้ และแจ้งว่าบุคคลเหล่านี้จะต้องสอบได้ ซึ่งหมายความว่าจะให้นายวุฒิชัยหาทางช่วยเหลือให้สอบผ่านให้ได้

นอกจากนี้บันทึกดังกล่าวยังระบุว่า      วันที่ 25 มี.ค.-31 มี.ค. 2552 นายวุฒิชัยได้นำกระดาษคำตอบทั้งปกสีเหลืองและปกสีชมพูออกมาตรวจโดยนำรายชื่อที่ได้รับมาจากนายวงศ์ศักดิ์ประมาณ 150 คน มาช่วยเหลือให้คะแนนสูง ทั้งๆ ที่เขียนคำตอบได้ไม่ดี และได้จัดลำดับว่ารายชื่อใดควรอยู่ในลำดับที่และรุ่นใด ซึ่งท้ายสุดก็ได้ลำดับที่และรุ่นที่ตามความต้องการของผู้มีอำนาจทางการเมืองในกระทรวงมหาดไทย    จนต่อมาเรื่องดังกล่าวมีการกล่าวขวัญกันมากว่าผู้บริหารกรมการปกครองมีการเรียกรับเงินถึง8แสนบาท/ราย เพื่อช่วยเหลือผู้เข้าสอบคัดเลือกให้สอบจนกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร ได้สอบสวนเรื่องนี้และตั้งข้อสังเกตว่าทำไมมีการให้คะแนนข้อสอบอัตนัยโดยไม่มีการตรวจกระดาษคำตอบหรือเขียนคำตอบน้อย หรือไม่เขียนเลยแต่กลับได้คะแนนดี ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกและตรวจข้อสอบดังกล่าว  ทำการปลอมแปลงเอกสาร

โดยดำเนินการปลอมกระดาษคำตอบด้วยการนำกระดาษคำตอบเปล่าที่ยังไม่ได้ใช้ แล้วเรียกให้ประธานรุ่นของนักเรียนโรงเรียนนายอำเภอทั้ง 3  รุ่น  ได้แก่นายคิม ปรีเปรม รุ่นที่68 นายธีรเกียรติ ทะแพงพันธ์ รุ่นที่69 นายวิสุทธิ์ โรมินทร์ รุ่นที่70 และนายวัฒนา หัสจันทร์ รุ่นที่69 มาพบนายวงศ์ศักดิ์ และนายวุฒิชัย ที่ห้องทำงานของนายวงศ์ศักดิ์ ในวันหยุดประจำสัปดาห์ในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์เพื่อนำกระดาษคำตอบเปล่าไปให้รายชื่อบุคคลที่ช่วยเหลือไว้ไปเขียนคำตอบใหม่   โดยให้ตัวอย่างการเขียนที่ทำให้คะแนนได้สูงประมาณ 3-4 ตัวอย่าง  ให้แต่ละคนไปคัดลอกให้คล้ายตัวอย่างดังกล่าว  แล้วนำกลับมามามอบให้นายวุฒิชัย ซึ่งตัวแทนทั้ง 3 รุ่น ก็ได้เดินทางมาพบและรับไปดำเนินการโดยมอบคำตอบให้กับเพื่อนทั้ง 142 คน  เพื่อเขียนคำตอบใหม่ทั้งหมดและนำมาเย็บใส่สมุดคำตอบที่ใช้ทำการสอบคัดเลือก  จนส่งผลทำให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 142 รายเขียนคำตอบที่คล้ายกันทั้งหมด  

ซึ่งทางป.ป.ช.ได้บุกไปถึงวิทยาลัยการปกครอง  เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยการให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 142 คนเขียนข้อความเลียนข้อความในกระดาษคำตอบของกลาง  ผลปรากฎว่า  ลายมือเขียนเหมือนกันและผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 142 คน  ยืนยันรับรองว่าตนเองเป็นผู้เขียนข้อความในกระดาษคำตอบของกลางด้วยตนเอง

ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดโดยย่อของบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 144 คน ฐานผิดวินัยประพฤติชั่วร้ายแรง และทางอาญาฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และสนันสนุนให้มีการทุจริต  โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา จากนั้นจะให้มีการชี้แจงข้อเท็จจริงและสอบสวนพยานต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกมาก   ต้องติดตามว่าหากบันทึกข้อกล่าวหานี้เป็นความจริง ต้องติดตามว่านอกจาก  ป.ป.ช.จะต้องเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตัวผู้สอบที่ไร้ยางอาย  ไม่เคารพในความสามารถตัวเองแล้ว  ป.ป.ช. จะสามารถเอาผิดผู้มีอำนาจทางการเมือง  ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นปัญหาการทุจริตทั้งหมดนี้ได้หรือไม่ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้ความอัปยศเกิดขึ้นอีก

ทั้งนี้รายละเอียดของบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. มีรายละเอียด ดังนี้

ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งที่179/2553 ลงวันที่ 4 พ.ค. 2553 และที่328/2553 ลงวันที่ 5 ส.ค. 2553 แต่งตั้งผู้รับผิดชอบสำนวนการไต่สวนและคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ช่วยในการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีตามคำร้องขอให้ถอดถอนนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกจากตำแหน่ง กรณีส่อว่าทุจริตต่อหน้าที่และส่อว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ (นอ.) ปี 2552 และกล่าวหาข้าราชการกรมการปกครอง (ปค.) อีกหลายคนมีส่วนร่วมกระทำความผิดดังกล่าว ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย

บัดนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเสร็จแล้ว เห็นว่าข้อกล่าวหานั้นมีมูลความผิด จึงขอแจ้งข้อกล่าวหาดังนี้

วันที่ 16 ก.พ. 2552 ปค.ออกประกาศเรื่องการสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนอ.ประจำปี 2552 จำนวน 3 รุ่น (รุ่น 68-70) สอบข้อเขียน วันที่ 22 มี.ค. 2552 ที่เมืองทองธานี แบ่งเป็น 2 ภาค ภาคเช้า ภาคความรู้ความสามารถทั่วไปมีข้อสอบปรนัย ซึ่งมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช(มสธ.) เป็นผู้ออกข้อสอบและตรวจกระดาษคำตอบและข้อสอบอัตนัย 1 ข้อ ซึ่ง ปค.เป็นผู้ออกข้อสอบและตรวจกระดาษคำตอบ (ปกสีเหลือง) ภาคบ่าย ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง มีข้อสอบปรนัย ซึ่ง มสธ.เป็นผู้ออกและตรวจกระดาษคำตอบและข้อสอบอัตนัย 1 ข้อ ซึ่ง ปค.เป็นผู้ออกข้อสอบและตรวจกระดาษคำตอบ (ปกสีชมพู)

เปิดตัวคณะกรรมการคัดเลือก-ออกข้อสอบ-ตรวจข้อสอบ

วันที่ 16 ก.พ. 2552 ปค.มีคำสั่งที่135/2552 ลงวันที่ 16 ก.พ. 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกข้าราชการ เพื่อเข้าศึกษาอบรมหลักสูตร นอ.ปี 2552 มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการคัดเลือกข้าราชการเข้าศึกษา ประกอบด้วย

1.นายสุรพล ภาษิตนิรันดร์ รองอธิบดี ปค. กลุ่มภารกิจด้านการบริหารงานปกครอง ประธาน 2.นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่(ผอ.กกจ.) 3.นายสุรพล สุวรรณานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานวินัย 4.หัวหน้ากลุ่มงานบรรจุและแต่งตั้ง 5.นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน เป็นกรรมการ

วันที่ 9 มี.ค. 2552 ปค.มีคำสั่งที่ 205/2552 ลงวันที่ 9 มี.ค. 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการออกข้อสอบอัตนัย มีนายวุฒิชัย เสาวโกมุท และนายครรชิต สลับแสง เลขานุการ ปค. รวมอยู่ด้วย และภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง ซึ่งมีนายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นกรรมการรวมอยู่ด้วย โดยข้อสอบของผู้ใดได้รับการคัดเลือก ผู้นั้นจะเป็นผู้ตรวจข้อสอบอัตนัย

วันที่ 9 มี.ค. 2552 ปค.มีคำสั่งที่ 206/2552 ลงวันที่ 9 มี.ค. 2552 แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ประกอบด้วย 1.นายวงศ์ศักดิ์สวัสดิ์พาณิชย์ อปค. ประธาน 2.นายสุรพล ภาษิตนิรันดร์ 3.นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รอง อปค. 4.นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผอ.กกจ. 5.นายวีรเดช วิภูษาภรณ์หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน เป็นกรรมการ

ปค.มีคำสั่งที่ 207/2552 ลงวันที่ 9 มี.ค.2552 แต่งตั้งคณะกรรมการเก็บรักษาโจทย์ข้อสอบอัตนัย ประกอบด้วย

1.นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผอ.กกจ. ประธาน2.นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน 3.นายสุรพลสุวรรณานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานวินัย 4.นายอรรถพันธ์สงวนเสริมศรี นักทรัพยากรบุคคล เป็นกรรมการ

วันที่ 13 มี.ค. 2552 ปค.ได้ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบจำนวน 1,642 คน

วันที่ 17 มี.ค. 2552 มีข่าวแพร่หลายออกไปว่าผู้บริหาร ปค.เรียกรับเงิน 800,000 บาท เพื่อช่วยเหลือให้สอบคัดเลือกได้ ปค. โดยนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ จึงมีหนังสือถึงทุกหน่วยงานรายงานพฤติการณ์ทุจริตที่พบเห็นไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

วันที่ 18 มี.ค. 2552 มีหนังสือจากนายวุฒิชัยเสาวโกมุท เชิญประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัย นัดหมายประชุมวันที่ 20 มี.ค. 2552 เวลา17.00 น. ที่ห้องปฏิบัติการ อปค. เนื่องจากในวันที่22 มี.ค. 2552 นายวงศ์ศักดิ์ติดราชการอื่นต้องเดินทางไปต่างจังหวัด

“ผู้มีอำนาจทางการเมือง” ขอฝากเด็ก 150 คน

ก่อนถึงวันประชุม (ระหว่างวันที่ 16-20 มี.ค.2552 เวลากลางวัน) นายวงศ์ศักดิ์ไปเชิญนายวุฒิชัยเข้าไปพบที่ห้องทำงาน อปค.และแจ้งว่า "ผู้มีอำนาจทางการเมือง"ในกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการผ่านมาทางนายครรชิต สลับแสง เลขานุการกรม ว่า ในการสอบคัดเลือก นอ.ครั้งนี้ ผู้มีอำนาจดังกล่าวได้มอบรายชื่อผู้เข้าสอบประมาณ 150 คนมาให้ และแจ้งว่าบุคคลเหล่านี้จะต้องสอบได้ ซึ่งหมายความว่าจะให้นายวุฒิชัยหาทางช่วยเหลือให้สอบได้ นายวุฒิชัยจึงตกลงทำตามคำสั่ง โดยหารือกันว่าในการคัดเลือกข้อสอบจะให้นำข้อสอบที่นายวุฒิชัยออกในวิชาความรู้ความสามารถทั่วไปมาเป็นข้อสอบเพื่อสะดวกกับการให้คะแนนช่วยเหลือบุคคลตามรายชื่อทั้ง 150 คนได้

นอกจากนี้ นายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัยยังรู้จักและสนิทกับนายสำราญ ตันเรืองศรี ผู้อำนวยการส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน โดยนัดแนะกันจะเลือกข้อสอบที่นายสำราญเป็นผู้ออกในวิชาความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง เพื่อให้นายสำราญช่วยเหลือในการให้คะแนนกับบุคคลตามระบุชื่อดังกล่าวได้

วันที่ 20 มี.ค. 2552 เวลา 17.00 น. มีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบตามนัดหมายณ ห้องทำงานของนายวงศ์ศักดิ์ มีผู้เข้าร่วมประชุมคือนายวงศ์ศักดิ์ นายสุรพล ภาษิตนิรันดร์ นายวุฒิชัยเสาวโกมุท และนายวีรเดช วิภูษาภรณ์ ทั้งนี้ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รอง อปค.ไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจากติดราชการอื่น ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมแล้วได้มีเจ้าหน้าที่กองการเจ้าหน้าที่จัดพิมพ์บัญชีลงชื่อผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง 5 คนไปให้บุคคลทั้ง 5 คนลงนามในภายหลังโดยระบุวันประชุมเป็นวันที่ 22 มี.ค. 2552 เพื่อให้ตรงกับคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ โดยได้นำไปให้นายนิรันดร์ลงชื่อด้วย

ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบได้ตกลงเลือกข้อสอบที่นายวุฒิชัยและนายสำราญเป็นผู้ออกข้อสอบ เป็นไปตามที่นายวงศ์ศักดิ์และนายวุฒิชัยตกลงกันล่วงหน้า โดยมีการปรับเปลี่ยนคำตอบของนายสำราญเล็กน้อย แต่ยังคงมีเค้าโครงเดิมอยู่ และเก็บรักษาข้อสอบและคำตอบดังกล่าวทั้ง 2 ข้อไว้ในกล่องเก็บรักษาในความครอบครองของนายวีรเดชทั้งนี้ กุญแจกล่องดังกล่าวมีนายวุฒิชัยและนายวีรเดชเป็นผู้ถือ

วันที่ 22 มี.ค. 2552 มีการนำข้อสอบทั้ง 2 ข้อมาพิมพ์และให้ผู้เข้าสอบทำ โดยข้อสอบอัตนัยภาควิชาความรู้ความสามารถทั่วไปใช้สมุดกระดาษคำตอบปกสีเหลือง ภาควิชาความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งใช้สมุดกระดาษคำตอบปกสีชมพู มีข้อสอบ 2 วิชา คือ วิชาความรู้ความสามารถทั่วไปและวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง

เมื่อสอบเสร็จ กระดาษคำตอบปรนัย มสธ.เป็นผู้นำไปตรวจด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วส่งผลการตรวจให้ ปค.ในวันที่ 23 มี.ค. 2552 โดยไม่ปรากฏพฤติการณ์ทุจริตในการตรวจข้อสอบปรนัยแต่อย่างใด

ลอคสเปคกรอกคะแนนให้เด็กนาย      

สำหรับกระดาษคำตอบอัตนัย ได้ถูกบรรจุแบ่งออกเป็น 2 กล่อง เป็นสมุดคำตอบปกสีเหลือง 1 กล่อง และสมุดคำตอบปกสีชมพู 1 กล่อง เจ้าหน้าที่กองการเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำไปเก็บไว้ในห้องทำงานของนายวุฒิชัย เสาวโกมุท และปิดล็อคไว้มีเพียงนายวุฒิชัย และเจ้าหน้าที่หน้าห้องอีก 2 คนได้แก่ น.ส.สรัญญา ใจงาม และนายดุสิต ศิริวราศัยเท่านั้นที่มีกุญแจเปิดได้

วันที่ 23 มี.ค. 2552-24 มี.ค. 2552 นายอรรถพันธ์ สงวนเสริมศรี นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ กกจ. และเจ้าหน้าที่ กกจ.อีก 7 คนช่วยกันนำกระดาษคำตอบทั้ง 2 กล่อง มาลบข้อความหรือเครื่องหมายที่พิสูจน์ตัวบุคคลเพื่อให้ผู้ตรวจไม่สามารถรู้ได้ว่ากำลังตรวจกระดาษคำตอบของผู้ใด โดยใช้วิธีตีหมายเลขรหัสไว้กับปกสมุด 2 ตำแหน่ง ตำแหน่งแรกอยู่กลางปก ตำแหน่งที่สองอยู่หัวมุมขวาด้านบน ซึ่งจะมีหมายเลขประจำตัวสอบของผู้เข้าสอบอยู่ จากนั้นจะตัดหัวมุมด้านบนออก แล้วนำมาเก็บแยกต่างหากโดยนายอรรถพันธ์จะเป็นผู้เก็บรักษารหัสไว้เพียงคนเดียว โดยทำงานเสร็จสิ้นในวันที่ 24 มี.ค. 2552 เวลาประมาณ 16.30 น. หลังจากนั้นได้เก็บสมุดกระดาษคำตอบทั้ง 2 กล่องกลับเข้าไปยังห้องทำงานของนายวุฒิชัย จากนั้นนายอรรถพันธ์ได้นำรหัสที่ตนเก็บรักษาไว้ใส่ข้อมูลลงในไฟล์คอมพิวเตอร์ ซึ่งในไฟล์ดังกล่าวเมื่อเปิดดูจะสามารถรู้ได้ว่าผู้เข้าสอบชื่อใดสังกัดใด หมายเลขประจำตัวสอบใด และรหัสสมุดคำตอบเลขที่ใด

วันที่ 25 มี.ค. 2552 เวลากลางวัน นายวุฒิชัยได้เรียกนายอรรถพันธ์เข้าไปพบในห้องทำงานของตนและขอไฟล์รหัสดังกล่าวนายอรรถพันธ์จึงมอบไฟล์ข้อมูลดังกล่าวให้ไปโดยพิมพ์เป็นกระดาษ เอ 4 ทั้งนี้นายอรรถพันธ์ไม่เคยทราบมาก่อนว่านายวุฒิชัย เป็นกรรมการตรวจข้อสอบด้วย และต่อมานายอรรถพันธ์ได้เล่าเรื่องดังกล่าวให้นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้าส่วนให้ทราบ แต่นายวีรเดชก็มิได้ทักท้วงแต่อย่างใดทั้งๆ ที่ทราบว่านายวุฒิชัยเป็นกรรมการตรวจข้อสอบอัตนัยด้วย

ตอบยังไงก็ได้คะแนนดี

วันที่ 25 มี.ค.-31 มี.ค. 2552 นายวุฒิชัยได้นำกระดาษคำตอบทั้งปกสีเหลืองและปกสีชมพูออกมาตรวจโดยนำรายชื่อที่ได้รับมาจากนายวงศ์ศักดิ์ประมาณ 150 คน มาช่วยเหลือให้คะแนนสูง ทั้งๆ ที่เขียนคำตอบได้ไม่ดีหรือเขียนจำนวนน้อยแผ่น แต่ในกรณีของบุคคลอื่นๆ ที่นอกเหนือรายชื่อที่ได้รับมาหากเขียนคำตอบได้ดีมาก นายวุฒิชัยก็จะให้คะแนนมากด้วย แต่คนที่เขียนได้ดีนั้นมีจำนวนน้อย เป็นผลให้รายชื่อที่ได้รับมาเมื่อนำคะแนนที่ให้ไปรวมกับข้อสอบปรนัยแล้ว เป็นผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับการคัดเลือกอย่างไรก็ตาม เมื่อนำรายชื่อดังกล่าวมาเรียงลำดับที่และลำดับรุ่นแล้วยังไม่เป็นไปตามความประสงค์ของผู้สั่งการ นายวุฒิชัยจึงประสานงานกับนายครรชิตสลับแสง เลขานุการ ปค. เพื่อจัดลำดับว่ารายชื่อใดควรอยู่ในลำดับที่และรุ่นใด ซึ่งท้ายสุดก็ได้ลำดับที่และรุ่นที่ตามความต้องการของผู้มีอำนาจทางการเมืองในกระทรวงมหาดไทย

วันที่ 30 หรือ 31 มี.ค. 2552 เวลากลางวันนายวุฒิชัยได้เชิญนายสำราญ ตันเรืองศรี มาพบที่ห้องทำงานของนายวุฒิชัย จากนั้นได้นำคะแนนที่ตนจัดทำขึ้นทั้งกระดาษคำตอบปกสีเหลืองและปกสีชมพู ส่งให้กับนายดุสิต ศิริวราศัย เลขานุการของนายวุฒิชัย เป็นผู้เขียนตัวเลข ในแบบฟอร์มลงคะแนนวิชาความรู้ความสามารถทั่วไป และวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง วิชาละ 31 หน้า จากนั้นนายวุฒิชัยได้ลงนามรับรองคะแนนในแบบฟอร์มวิชาความรู้ความสามารถทั่วไป ส่วนนายสำราญลงนามรับรองคะแนนในแบบฟอร์มวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่งโดยไม่เคยนำกระดาษคำตอบปกสีชมพูไปให้นายสำราญตรวจแต่ประการใด

จากนั้นได้นำแบบฟอร์มคะแนนทั้ง 2 วิชาไปให้กับนายวีรเดช และนายอรรถพันธ์ ซึ่งเป็นผู้รวมคะแนนที่ได้รับจาก มสธ. และจากปค. ทั้งนี้ คะแนนที่ผู้เข้าสอบทำได้นั้นปรากฏว่าคะแนนจาก มสธ.ของผู้สอบมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ทำให้คะแนนจาก ปค.มีผลเป็นนัยสำคัญที่จะตัดสินว่าผู้ใดจะได้รับคัดเลือกเข้าอบรมครั้งนี้ ซึ่งเมื่อนำใบคะแนนส่วนของ ปค.ไปรวมแล้วเป็นผลให้ผู้ที่มีรายชื่อ 150 คน เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าอบรมนอ.สายผู้สอบคัดเลือก ตรงตามใบสั่งทุกราย

วันที่ 2 เม.ย. 2552 ปค.ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบข้อเขียน โดยมีรายชื่อผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือดังกล่าว เป็นผู้ผ่านการสอบด้วย

วันที่ 21 เม.ย. 2552 ผู้ผ่านการสอบข้อเขียนเข้าสอบสัมภาษณ์ เพื่อจัดอันดับคะแนนในระหว่างรุ่น68-70

วันที่ 23 เม.ย. 2552 ปค.ประกาศผลการคัดเลือกข้าราชการเข้ารับการอบรม นอ.ทั้ง 3 รุ่น คือ รุ่นที่ 68-70 โดยจัดเรียงลำดับสายสอบคัดเลือก 2 คนต่อด้วยสายประสบการณ์ 1 คน ต่อด้วยสายสอบคัดเลือก 2 คน ฯลฯ จนครบตามจำนวน 288 คน และนัดหมายให้รายงานตัวในวันที่ 26 เม.ย. 2552 ณวิทยาลัยการปกครอง ส่วนสายผู้มีประสบการณ์นัดมารายงานตัววันที่ 21 เม.ย. 2552

วันที่ 21 เม.ย. 2552 มีผู้ผ่านการคัดเลือกสายผู้มีประสบการณ์ 2 คน ไม่มารายงานตัว ดังนั้น ในวันที่23 เม.ย. 2552 ปค.จึงมีประกาศผลการคัดเลือกข้าราชการเข้ารับการอบรมเพิ่มเติม โดยเลื่อนลำดับผู้มีประสบการณ์ในลำดับถัดมา ได้แก่ นายอดิศักดิ์ปัญญา และนายชนรัตน์ ชูประสิทธิ์ เป็นผู้ผ่านการคัดเลือกด้วย

เฉลยคำตอบก่อนให้เอากลับไปลอก 

ทั้งนี้ในช่วงเดือนมี.ค. 2552 มีข่าวแพร่หลายว่าผู้บริหารกรมการปกครองเรียกรับเงินถึง8แสนบาท/ราย เพื่อช่วยเหลือผู้เข้าสอบคัดเลือกให้สอบได้โดยลงข่าวในหนังสือพิมพ์มติชน ในวันที่25มี.ค. 2552 และข่าวดังกล่าวได้ส่งถึงกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่7พ.ค. 2552 คณะกรรมาธิการ จึงมีหนังสือลงวันที่21พ.ค. 2552 ถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เชิญอธิบดีกรมการปกครองไปชี้แจงในวันที่28พ.ค. 2552  ซึ่งนายวงศ์ศักดิ์ และนายวุฒิชัยได้เข้าชี้แจงตามกำหนดนัดและในระหว่างการชี้แจงมีคำถามว่าผู้ตรวจข้อสอบอัตนัยให้คะแนนไปโดยไม่มีการตรวจกระดาษคำตอบหรือเขียนคำตอบน้อย หรือไม่เขียนกลับได้คะแนนดี

ซึ่งนายวงศ์ศักดิ์ และนายวุฒิชัย เกรงว่าจะมีการตรวจสอบกระดาษคำตอบในรายที่ตนให้ความช่วยเหลือ เมื่อกลับจากการชี้แจงแล้วนายวงศ์ศักดิ์ และนายวุฒิชัย จึงหารือกันที่ห้องทำงานของนายวงศ์ศักดิ์ ณ กรมการปกครอง และมีข้อตกลงที่จะปกปิดความผิด โดยจะดำเนินการปลอมกระดาษคำตอบเนื้อในซึ่งเป็นกระดาษสีขาว ทั้งในเล่มปกสีเหลืองและปกสีชมพู โดยจะนำกระดาษคำตอบเปล่าที่ยังไม่ได้ใช้ที่เก็บไว้ในห้องทำงานของนายวีรเดช ออกมาจำหน่วนหนึ่งตามจำนวนรายชื่อที่ช่วยเหลือไว้ พร้อมทั้งตรวจดูคำตอบของผู้ได้รับการช่วยเหลือไว้ว่า เขียนข้อคำตอบได้สมควรกับคะแนนที่ให้ไปหรือไม่ หากรายใดได้คะแนนไม่สมควรก็ได้ดำเนินการปลอมเอกสารต่อไป

โดยนำกระดาษคำตอบที่เหลือใช้ไปดำเนินการ และให้นายคิม ปรีเปรม เลขานุการของนายวงศ์ศักดิ์ ซึ่งเป็นประธานรุ่นที่68ไปติดต่อให้ตัวแทนรุ่น3รุ่น ได้แก่นายคิม ปรีเปรม รุ่นที่68 นายธีรเกียรติ ทะแพงพันธ์ รุ่นที่69 นายวิสุทธิ์ โรมินทร์ รุ่นที่70 และนายวัฒนา หัสจันทร์ รุ่นที่69 มาพบนายวงศ์ศักดิ์ และนายวุฒิชัย ที่ห้องทำงานของนายวงศ์ศักดิ์ ในวันหยุดประจำสัปดาห์ในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์เพื่อนำกระดาษคำตอบเปล่าไปให้รายชื่อบุคคลที่ช่วยเหลือไว้ไปเขียนคำตอบใหม่   โดยให้ตัวอย่างการเขียนที่ทำให้คะแนนได้สูงประมาณ 3-4 ตัวอย่าง  ให้แต่ละคนไปคัดลอกให้คล้ายตัวอย่างดังกล่าว  แล้วนำกลับมามามอบให้นายวุฒิชัย ซึ่งตัวแทนทั้ง 3 รุ่น ก็ได้เดินทางมาพบและรับไปดำเนินการตามคำสั่งของนายวงศ์ศักดิ์ฯ ดังกล่าว

หลังจากนั้นตัวแทนรุ่นได้นำกระดาษคำตอบเปล่าไปให้ผู้เข้าสอบที่มีรายชื่อรวม142 คน  ดำเนินการเขียนข้อความดังกล่าวเพื่อนำไปใช้สอดแทรกแทนเนื้อหาในคำตอบเดิมทั้งในสมุดปกสีเหลืองและปกสีชมพู  เมื่อดำเนินแล้วเสร็จตัวแทนรุ่นก็ได้นำกระดาษคำตอบมาส่งให้นายวุฒิชัยฯ  ซึ่งนายวุฒิชัย ฯ ก็ได้ดำเนินการปลอมเอกสารกระดาษคำตอบโดยวิธีแกะเนื้อกระดาษคำตอบสีขาวที่อยู่ด้านในของชุดเดิมซึ่งเก็บอยู่ที่ห้องทำงานของนายวุฒิชัยฯ ออก  คงเหลือแต่ปกสมุดทั้ง 2 สีไว้ (เนื่องจากปกสมุดมีรายชื่อผู้คุมห้องสอบและเลขรหัส กำกับอยู่ยากต่อการปลอมชิ้นใหม่)

จากนั้นได้นำกระดาษคำตอบที่ทำขึ้นใหม่ที่รับจากตัวแทนรุ่น แกะเนื้อกระดาษคำตอบสีขาวที่เขียนชิ้นใหม่ออกมาแล้วสวมเข้ารวมไปกับปกสมุดคำตอบเดิม     ทั้งนี้ร่องรอยการปลอมนั้นสามารถเปิดสมุดคำตอบในหน้าที่ 4ถึง 5  ออกมาดูจะปรากฎว่ามีร่องรอยรูตรงจุดรอยเย็บกระดาษเก่าค้างอยู่  มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ป.ป.ช.อึ้งคำตอบ 142 คนคล้ายกันหมด

วันที่ 12 และ 15 มิ.ย. 2552 เจ้าพนักงาน ป.ป.ช. ได้เดินทางไปขอรับกระดาษคำตอบอัตนัยทั้งสมุดจากกองการเจ้าหน้าที่ และได้นำกระดาษคำตอบมาเก็บรักษาไว้

เจ้าพนักงาน ป.ป.ช.ได้จำแนกกลุ่มผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งมีลักษณะการเขียนคำตอบที่คล้ายกันออกเป็น 3 กลุ่ม  โดยกลุ่มที่ 1 จำนวน 47 ราย

กลุ่มที่ 2 จำนวน  36 ราย

กลุ่มที่ 3 จำนวน 24 ราย

ทั้งนี้ผลการจำแนกกลุ่มดังกล่าวสอดคล้องกับผลการไต่สวนข้างต้นว่ามีการมอบตัวอย่างประมาณ 3-4 แบบ ให้ตัวแทนรุ่นที่ 68,69 และ 70 นำไปให้ผู้ได้รับการช่วยเหลือและเป็นผู้เข้าสอบ 142 รายเขียนขึ้นใหม่

เจ้าพนักงาน ป.ป.ช.  ได้ตรวจสมุดคำตอบที่เหลือจากการสอบของกองการเจ้าหน้าที่แล้วผลการตรวจสอบได้ความว่า  โดยปกติจะต้องเหลือสมุดคำตอบภาคเช้าปกสีเหลือง  510 เล่ม  และภาคบ่ายปกสีชมพู 513 เล่ม  แต่กลับเหลือจริงเพียง ภาคเช้าสีเหลือง 299 เล่ม  และ ภาคบ่ายสีชมพู 342 เล่ม  ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าสมุดคำตอบที่สูญหายไปได้ถูกนำไปใช้กระทำความผิดตามที่กล่าวมาข้างต้น

สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือ ที่ ปช 00140/6676 ลงวันที่ 9 ก.ย. 2552 ถึงอธิการบดีวิทยาลัยการปกครอง  เพื่อให้อำนวยความสะดวก โดยนัดหมายให้ เจ้าพนักงาน ป.ป.ช.  พบกับผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นนักศึกษาหลักสูตรนายอำเภอทั้ง 142 คน  ในวันที่ 9 ก.ย. 2552 และดำเนินการให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 142 คนเขียนข้อความเลียนข้อความในกระดาษคำตอบของกลาง  ผลปรากฎว่า  ลายมือเขียนเหมือนกันและผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 142 คน  ยืนยันรับรองว่าตนเองเป็นผู้เขียนข้อความในกระดาษคำตอบของกลางด้วยตนเอง

ประพฤติชั่วร้ายแรงพฤติกรรมทุจริต

คณะกรรรมการ ป.ป.ช.  พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของนายวงศ์ศักดิ์  สวัสดิพาณิชย์  อธิบดีกรมการปกครอง  นายวุฒิชัย เสาวโกมุท  ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่   นายครรชิต  สลับแสง  เลขานุการกรม และนายสำราญ  ตันเรืองศรี  ผู้อำนวยการส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  มีความผิดดังนี้

ทางวินัย

ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ  เพื่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการทุจริต  ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วร้ายแรง  ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน 2551

ทางอาญา

ฐานเป็นเจ้าพนักงาน  ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยที่มิชอบ  เพื่อให้เกิดความเสียหายหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารกรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสารกระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้นฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร  รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารกระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการตามหน้าที่รับรองเป็นหลักฐานว่า   ตนได้กระทำการบางอย่างได้ขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำการต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จประมวลกฎหมายอาญา

ผู้เข้าสอบคัดเลือกมีอบรมหลักสูตรนายอำเภอ จำนวน 142 คน  มีมูลความผิดดังนี้

ทางวินัย

ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการพลเรือน 2551

ทางอาญา

ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน  ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติโดยที่มิชอบ  เพื่อให้เกิดความเสียหายหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารกรอกข้อความลงในเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสารกระทำการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น  ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร  รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารกระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการตามหน้าที่รับรองเป็นหลักฐานว่า    ตนได้กระทำการบางอย่างได้ขึ้นหรือว่าการอย่างใดได้กระทำการต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จประมวลกฎหมายอาญา