posttoday

ย้อนรอยคดีระเบิด "สมัย วงศ์สุวรรณ์"

07 ตุลาคม 2553

หลังเกิดเหตุระเบิดที่แมนชั่นย่านบางบัวทอง ข้อมูลจึงเริ่มปรากฎว่า สมัย วงศ์สุวรรณ์ เจ้าของห้องต้นตอระเบิด เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีคดีก่อเหตุปาระเบิดที่ตำรวจเชียงใหม่กำลังติดตาม....

หลังเกิดเหตุระเบิดที่แมนชั่นย่านบางบัวทอง ข้อมูลจึงเริ่มปรากฎว่า สมัย วงศ์สุวรรณ์ เจ้าของห้องต้นตอระเบิด เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีคดีก่อเหตุปาระเบิดที่ตำรวจเชียงใหม่กำลังติดตาม....

โดย...ชีวิน ศรัทธา

ระเบิดสะเทือนเมือง สมานเมตตาแมนชั่น ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ของวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีต้นตอระเบิดมาจากห้องพักหมายเลข202 ที่มีชื่อ นายสมัย วงศ์สุวรรณ์ อายุ 46 ปี เป็นผู้เช่า

หลังเกิดเหตุ ข้อมูลจึงเริ่มปรากฎว่า นายสมัย เป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีคดีค้างเก่าที่ตำรวจเชียงใหม่กำลังติดตาม เพื่อนำตัวมาส่งฟ้องศาลในวันที่ 27 ต.ค.นี้ หลังจากที่หลบหนีคดีมาหลายเดือน

พ.ต.ท.สัมพันธ์ ศิริมา รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่ปิง อ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ ระบุว่า นายสมัยเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีในหลายข้อหา ทั้ง ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันทำให้เกิดความเสียหาย ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง และร่วมกันทำให้ทรัพย์ได้รับความเสียหาย 

คดีดังกล่าว หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ กว่า 20 คน บุกรุกเข้าไปยังศูนย์เฮาฮักพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ขนาด สามชั้นของ สำนักงานของกลุ่มพันธ์มิตรเลขที่ 133 ถนนกองทราย ต.วัดเกตุ อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2552 และได้สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของกลุ่มพันธมิตรในจ.เชียงใหม่ ส่วนการจับกุมตำรวจได้หลักฐานหมายเลขทะเบียนรถยนต์ของนายสมัย ที่เข้าไปร่วมก่อเหตุในวันเวลาดังกล่าว ก่อนที่จะนำมาซึ่งการออกหมายเรียกในเวลาต่อมา

พ.ต.ท.สัมพันธ์ กล่าวว่า นอกจากนายสมัยแล้ว ยังมีผู้ต้องหาอีกรายที่ ก่อนคดีในหลายท้องที่ โดยเฉพาะ นายนิยม เหลืองเจริญ หรือ ดีเจแหล่ แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกทั้งคู่มารับทราบข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 3 ก.พ. และภายหลังทั้งคู่ได้มารับทราบข้อกล่าวหา ก่อนที่ตำรวจจะปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสองไป ทั้งนี้ อัยการเสียใหม่ได้มีคำสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทั้งสองรายเมื่อวันที่ 4 ต.ค.2553 และให้นำตัวผู้ต้องหา ไปส่งฟ้องในวันที่ 27 ต.ค. และเบื้องต้นพบว่าทั้งคู่ยังคงหลบหนีคดีอยู่ ส่วนการเสียชีวิตของนายสมัย คงต้องพิสูจน์ดี เอ็น เอ ของนาย สมัยอีกครั้งว่าเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้หรือไม่ ซึ่งหากเป็นจริงก็ยุติคดี และคงเหลือการติดตามจับกุมนายนิม หรือ ดีเจ แหล่ ต่อไป

ย้อนรอยคดีระเบิด \"สมัย วงศ์สุวรรณ์\"

สำหรับนายสมัย นั้นอดีตเคยเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารแห่งหนึ่งในจ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่และได้ออกเคลื่อนไหวหลายครั้ง ก่อนที่นายสมัยจะเข้ามาร่วมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ และถูกตำรวจระบุว่าเป็นหนึ่งผู้ประกอบวัตถุระเบิดตามสถานที่ต่างๆ

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2552 เวลาประมาณ 14.00 น. เกิดเหตุมีการบุกรุกของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่บุกเข้าไปในศูนย์เฮาฮักพระเจ้าอยู่หัวนั้น      เป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ใช้ผ้าปิดหน้าและสวมหมวกไอ้โม่ง เดินทางมาด้วยรถยนต์ 3 คัน ประกอบด้วย รถตู้ 1 คัน รถสี่ล้อแดงรับจ้าง 1คัน และรถกระบะยี่ห้อนิสสันสีดำ 1 คัน ซึ่งทุกคันปิดบังป้ายทะเบียนไว้และมีการติดป้ายกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ขับรถมาจอดและลงมาระดมขว้างก้อนหิน ยิงหนังสติ๊ก 

รวมทั้งขว้างระเบิดปิงปองใส่ทั้งหมด 6 ลูก บุกเข้าไปในศูนย์รักพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นศูนย์ประสานงานของกลุ่มพันธมิตรเชียงใหม่ เลขที่ 133 ถ.กองทราย ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ ตำรวจพบเศษก้อนอิฐและชิ้นส่วนระเบิดปิงปองตกเกลื่อนพื้น และระเบิดทำเองแบบจุดสายชนวน 1 ลูก ที่ไม่ระเบิด รถยนต์ถูกทุบกระจกหน้าแตกเสียหายอีกสองคัน 

สำหรับศูนย์เฮาฮักพระเจ้าอยู่หัว เป็นศูนย์กลางประสานงานสำหรับกลุ่มพันธมิตรในเชียงใหม่ ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เปิดศูนย์มา 2 เดือนและ เป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ ASTV มีนายไชยสิทธิ์ โฆสิตา เป็นประธานศูนย์ มีสมาชิกอยู่ราว 200 กว่าคน ตอนเช้าวันดังกล่าวได้มีการทำบุญเปิดศูนย์ฯ และรับประทานอาหารร่วมกัน ตอนบ่ายวันเดียวกันก็นั่งเสวนาเรื่องการเมืองใหม่ 

หลังจากที่งานเลิก แขกก็ทยอยกันกลับ เหลือคนอยู่ในศูนย์ฯ 10 กว่าคน ก็ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ใช้ผ้าคลุมหน้าและสวมหมวกไหมพรมแบบไอ้โม่ง บุกเข้ามาพร้อมกับโยนลูกระเบิดทำเอง ราว 5-6 ลูก  ระเบิดเสียงดังสนั่น ก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว จะไล่ทุบกระจกและทำลายทรัพย์สินจนเสียหายและมีผู้บาดเจ็บ

สำหรับประวัติของนายสมัย วงศ์สุวรรณ์ เป็นคนภูมิลำเนา อยู่ที่อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ก่อนที่จะมาทำงานที่จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2543 และมาสมัครเป็นพนักงานของโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ และพบรักกับนางบัวคำ เมืองมา ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงแรมดังกล่าวและได้แต่งงานอยู่กิน ในท้องที่อ.อหางดง หลังจากนั้นจึงลาออกไปเป็น รปภ. ธนาคารสแตนดาร์ต ชาร์เตอร์ สาขาช้างเผือก เมื่อ ปี 2544  ก่อนที่จะเข้าร่วมและทำกิจกรรมกับกลุ่มเสื่อแดงมาโดยตลอด