ปชป.อัดพท.กดดันเลือกตั้ง
"ประชาธิปัตย์"อัด"เพื่อไทย"ใช้เงื่อนไขรุนแรงกดดันเลือกตั้ง ด้าน"เกียรติ"ชี้จำนำราคาข้าวล้มเหลว ย้ำประกันถูกกว่าทั่วถึงกว่า
"ประชาธิปัตย์"อัด"เพื่อไทย"ใช้เงื่อนไขรุนแรงกดดันเลือกตั้ง ด้าน"เกียรติ"ชี้จำนำราคาข้าวล้มเหลว ย้ำประกันถูกกว่าทั่วถึงกว่า
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีนายประเกียรติ นาสิมมา สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยืนยัน ว่า แกนนำของพรรคเพื่อไทยได้ทำงานร่วมกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงโดยระบุว่าขอให้ชะลอการชุมนุมวันที่ 19 มิ.ย. ออกไป จนกว่าจะรับทราบผลการเลือกตั้ง และระบุชัดว่าถ้าหากพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จก็จะไม่ชุมนุมทางการเมือง แต่หากไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ตัวใครมัน เป็นการยืนยัน 3 ข้อว่า 1.พรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงถือว่าเป็นคนนกลุ่มเดียวกันทางการเมือง
นพ.บุรณัชย์
2.พรรคเพื่อไทยสามารถสั่งให้มีหรือไม่มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง 3.พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงใช้วิธีการข่มขู่ว่าหากผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามที่ตนเองต้องการ ความวุ่นวายทางการเมืองจะตามมาอีกใช่หรือไม่ จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันตรวจสอบและปฏิเสธแนวทางในการสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนที่จะมีความวุ่นวายทางการเมืองมาเป็นงื่อนไขในการเลือกตั้งเพราะจะเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดที่จะทำให้ความปรองดองเกิดขึ้นก็จะไม่เกิดขึ้น หากกลุ่มเหล่านี้ยังเคลื่อนไหวในลักษณะอย่างนี้
น.พ.บุรณัชย์ กล่าวว่า กรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศตัดความสัมพันธ์กับนายจักรภพ เพ็ญแขและนายใจ อึ๊งภากรณ์ นั้น ได้แสดงให้เห็นว่า การพาดพิงสถาบันที่เคยทำไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเหล่านี้ แต่ขณะเดียวกันมีหลักฐานปรากฎชัดว่าคนเหล่านั้นทำงานใกล้ชิดกับบุคคลที่ นายอัมเตอร์ดัม ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่าจ้างให้เคลื่อนไหว ซึ่งพรรคเพื่อไทยต้องออกมาชี้แจงที่ยังมีความเคลื่อนไหวในการสร้างความเสียหายต่อประเทศไทย
“เกียรติ”อัดจำนำราคาข้าวพท.ล้มเหลว
นายเกียรติ สิทธีอมร ผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำทีมเศรษฐกิจ กล่าวว่า กรณีนายพิชัย นริพทะพันธ์ ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าโครงการจำนำราคาสินค้าเกษตร และบัตรเครดิตเกษตรกร สามารถรักษาได้ทุกโรค ทั้งปัญหาสต๊อกลม ราคาสินค้า งตามข้อเท็จจริงในช่วงปี 47-48 มีการใช้โครงการจำนำสินค้าเกษตร ซึ่งใช้เงินถึง5 แสนล้านบาท ครอบคลุมเกษตรกร 1 ล้านครัวเรือน แต่ถึงมือประชาชนจริงๆ แค่ 30 เปอร์เซนต์
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาเรื่องสต๊อกลมและสต๊อกของรัฐบาลมีอยู่หลายล้านตันที่ยังขายไม่ได้ ผู้ส่งออกไม่มารับซื้อข้าวจากสต๊อกเพราะราคาสูงกว่าระดับราคาตลาดทำให้ไม่สามารถส่งออกได้ เมื่อข้าวเหลือระบายไม่ออกทำให้เกิดคุณภาพเสื่อม ต้องขายในราคาขาดทุน1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้นายพิชัยสามารถไปถามนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ซึ่งเป็นอดีตรมว.พาณิชย์ในขณะนั้น และเป็นตัวเลขที่รายงานมายังคณะกรรมาธิการพาณิชย์ และคณะกรรมาธิการการเกษตรของสภา ดังนั้นจึงถือว่าเป็นการนำข้อมูลที่ไม่จริงมาเล่าเพื่อให้ประชาชนเลือก
นายเกียรติ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วง2 ปีที่ผ่านมาเราใช้ระบบประกันรายได้ ใช้งบประมาณ5 หมื่นล้านบาท ในการประกันราคาพืช3 ประเภท ครอบคลุมเกษตรกร 4 ล้านครัวเรือน เป็นการใช้งบประมาณที่น้อยว่าและเข้าถึงประชาชนและครอบคลุมได้มากกว่า เกษตรกรรายเล็กรายน้อยสามารถเข้าถึงได้ การออกมาให้ข่าวของพรรคเพื่อไทยมีความสับสนไปคนละทิศละทาง จึงอยากให้นำเสนอข้อมูลที่พิสูจน์แล้ว