ประเด็นร้อน 19 เม.ย.

หลังสงกรานต์สถานการณ์ทางการเมืองก็ร้อนฉ่าขึ้นมาทันที เมื่อมีข่าวลือสะพัดว่าสายตรง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมากุมบังเหียนหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชิงตำแหน่งนายกฯ

ส่วนประเด็นเศรษฐกิจไม่มีเรื่องไหนแย่งความสำคัญของการประกาศลดภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มน้ำมันดีเซลพรวดเดียวลิตรละ 5.70 บาทเพื่ออุ้มราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับไม่เกินลิตรละ 30 บาท ต่อไปอีก 6 เดือน

1.ร้อนฉ่าส่งตรงมาจากพรรคเพื่อไทยหลังเป็นที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการสยบข่าวบรรดาสาวกพรรคโดยเฉพาะนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้มีส่วนต่อความร้าวลึกให้กับผู้ใหญ่ในพรรค เคยออกมายืนยันนอนยัน พล.อ.ชวลิต ไม่ลาออกแน่ประเด็นน่าสนใจ การให้เหตุผลในหนังสือลาออกบอกถึงความอึดอัดที่มีการนำการเมืองไปโยงสถาบันเบื้องสูง ยิ่งเป็นที่ตอกย้ำถึงความไม่สบายใจของบิ๊กจิ๋วต่อแกนนำเสื้อแดงที่ร่วมชายคาเพื่อไทย นับแต่วันนี้ ที่จะมีการเปิดศูนย์อำนวยการพรรคเพื่อไทย คลองสามวาใกล้ซาฟารีเวิลด์ ดูจะกลายเป็นประเด็นเล็กไปถนัดตา เมื่อทุกสายตาจับจ้องเบื้องลึกเบื้องหลังการลาออกของบิ๊กจิ๋ว ไม่เพียงเท่านั้นต้องติดตามความระส่ำหนัก

จากนี้ไป เพราะการลาออกของ พล.อ.ชวลิต มีการมองไปถึงสมาชิกพรรครายอื่นด้วย เนื่องจากส่วนหนึ่งมีสายสัมพันธ์กับบิ๊กจิ๋ว ทั้งอดีตนายทหาร และ สส.จากพรรคอีสานหลายคน จะแสดงจุดยืนท่าทีอย่างไร โดยเฉพาะเงื่อนไข ตราบใดที่มีนายจตุพร และกลุ่มเสื้อแดงคอยก้าวล่วงสถาบัน ตราบนั้น สส.เพื่อไทยสายบิ๊กจิ๋วก็ไม่ขอร่วมวง

2.กระทบต่อเนื่อง คงหนีไม่พ้นผู้เฒ่าการเมือง นายเสนาะ เทียนทองหัวหน้าพรรคประชาราช ที่มีข่าวก่อนหน้านี้เช่นกัน จะไม่ร่วมสังฆกรรมพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุผลเดียวกันกรณีแกนนำคนเสื้อแดงสร้างอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทย เพราะมองระยะยาวหากขึ้นสู่อำนาจรัฐสุ่มเสี่ยงต่อการยุบพรรค หลังจากที่นายจตุพรยังคงยืนกรานว่าไม่ได้ปราศรัยก้าวล่วงสถาบัน จึงต้องติดตามปฏิกิริยาจากเจ้าพ่อวังน้ำเย็นวันนี้ จะมีความชัดเจนอะไรออกมาหรือไม่ ทั้งหมดทั้งปวงนับว่าสร้างความร้อนแรงต่ออนาคตพรรคเพื่อไทยที่ต้องการมีที่ยืนทางการเมืองต่อไป

3.วันนี้ไม่มีประชุม ครม. เหตุเพราะรัฐบาลพลิกเกม ประสานสภา เปิดประชุมร่วมรัฐสภา แม้ทางรัฐบาลจะขอถอนวาระการพิจารณาบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา (เจบีซี) 3 ฉบับ แต่ยังมีวาระที่น่าสนใจ ได้แก่ การพิจารณารับรองรายงานผลการศึกษาและข้อสังเกตของกรรมาธิการเจบีซีชุดที่มีนายเจริญคันธวงศ์ สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์เป็นประธาน ซึ่งค้างจากการพิจารณาครั้งที่แล้ว

นอกจากนี้ ยังมีกรอบการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรีไทย-อินเดีย บันทึกการประชุมกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไปไทยลาว ครั้งที่ 18 ร่างกรอบการเจรจาเพื่อสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-พม่า ตลอดแนวในกรอบของคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-พม่า และกลไกอื่นๆ ภายใต้กรอบนี้

4.นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)จะแถลงสถานการณ์การท่องเที่ยวหลังผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ จากก่อนหน้านี้ ททท.ได้ใช้งบกว่า 34 ล้านบาท สนับสนุนกิจกรรมท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ในภาพรวมจำนวน 13 พื้นที่จัดงานทั่วประเทศ และประเมินว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไปร่วมงานราว1.5-1.6 ล้านคน ส่วนจะเข้าเป้าเป็นไปตามคาดการณ์หรือไม่ยังคงต้องติดตามพร้อมแถลงความสำเร็จจากการที่ ททท.ได้รับรางวัล PATA Gold Award ในฐานะที่ ททท.มีความโดดเด่นจากการจัดกิจกรรมการตลาดออนไลน์ที่โดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา สอดคล้องกับช่วงบ่ายในวันเดียวกัน โดยสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เชิญผู้สนใจทั่วไปร่วมรับฟังแนวโน้มท่องเที่ยวไทยในไตรมาส 4 ว่าจะสดใส หรือต้องวางแผนปรับตัวเพื่อรับมือกันอย่างไรต่อไป

5.ไปต่อกันด้วยราคาน้ำมันดีเซล โดยคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะพิจารณาชดเชยน้ำมันดีเซลเพิ่มเติม จากแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกยังปรับตัวสูงขึ้นอยู่ โดยคาดว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องชดเชยน้ำมันดีเซลทะลุ 6 บาทต่อลิตรสนองนโยบายรัฐบาล

จากนั้นคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.)จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็น "การปรับอัตราค่าไฟฟ้าของประเทศไทย สำหรับปี2554-2558" ณ ห้องบอลรูม โรงแรมดิเอมเมอรัลด์