posttoday

"สุทิน" ย้ำ ฝ่ายค้านโหวตคว่ำ งบประมาณ 66

02 มิถุนายน 2565

ประธานวิปฝ่ายค้าน พอใจภาพรวมอภิปรายงบประมาณ 66 แนะรัฐบาลรับฟังฝ่ายค้าน อภิปรายพร้อมเสนอทางออก คาดลงมติ 22.00 น. ย้ำโหวตคว่ำแน่

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 65 นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี 2566 วานนี้(1 มิ.ย.) ถือว่าบรรยากาศเรียบร้อยดีไม่มีเหตุอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งตนก็พอใจ และการอภิปรายของฝ่ายค้านจะมีข้อแนะนำต่อรัฐบาล เพื่อเป็นทางออก ไม่ใช่แค่ตำหนิอย่างเดียว แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลยังใช้ความคิดเดิมว่าฝ่ายค้าน มีแต่ต่อว่าและตำหนิ เพราะหากฟังให้ดีฝ่ายค้านมีการเสนอทางออก ที่เป็นประโยชน์ทุกคน ประกอบกับการอธิบายว่าทำไมถึงจะไม่รับหลักการ

นายสุทิน กล่าวว่าเมื่อวานนี้(1 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรีมีการใช้อารมณ์ และออกมาตำหนิว่าฝ่ายค้านใช้เวทีนี้หาเสียง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ควร เพราะควรรับฟังเพื่อปรับปรุงแก้ไขมากกว่า ขณะที่การอภิปรายมีประเด็นสำคัญ ซึ่งฝ่ายค้านมีความห่วงใหญ่ว่าการจัดสรรงบประมาณเป็นแบบเดิมและไม่ปรับตามสถานการณ์ ซึ่งรัฐมนตรีก็ยอมรับว่าการจัดสรรงบประมาณเป็นแบบเดิม และยังไม่มีใครอธิบายว่ามีอะไรที่ใหม่จากเดิมบ้าง อีกทั้งยังไม่มีรัฐมนตรีคนใดชี้แจงเรื่องของการจัดซื้ออาวุธของกองทัพเรือที่จัดซื้ออากาศยานไร้คนขับ และติดอาวุธ แต่ให้แก้ไขทีโอาร์ ให้ซื้อแบบไม่ซื้ออาวุธ จึงอยากให้กองทัพออกมาชี้แจงถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น

นายสุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนการประชุมวันสุดท้าย ในวันนี้ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะอภิปรายกับ ส.ส.อีกหลายคน จะพูดเรื่องทุจริตและไปขมวดในช่วงสุดท้าย โดยจะเสนอชุดทางออก จากนั้นจะพูดปิดสรุปให้รัฐบาลทราบ โดยคาดว่าจะลงมติได้ไม่เกิน 4 ทุ่ม หากไม่มีอะไรคาดเคลื่อน ซึ่งขอย้ำว่าการจัดงบครั้งนี้ยังใช้งบแบบเดิมในกรอบความคิดและสถานการณ์เดิม และจัดสรรงบโดยประมาณการณ์จีดีพีผิดพลาด สวนทางความเป็นจริงและไม่ตอบโจทย์ประชาชนและยังไม่เห็นว่าจะจัดงบอย่างไรให้เครื่องยนต์ 4 ตัวประเทศเดินต่อไปได้ จึงเป็นงบที่สิ้นหวังเหมือนขอทานจัดงานเลี้ยงวันเกิด ในยามที่ยากจน ก็ยังใช้จ่ายเงินเฟอะฟะ มีการทุจริตมุ่งหวังเอาเงินมาแจก แม้จะมีการแก้ไขในคณะกรรมการมาธิการ (กมธ.) ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ดังนั้นฝ่ายค้านคิดว่าจะลงมติไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.งบไม่ใช่งดออกเสียงและควรนำกลับไปทบทวนใหม่ตามรัฐธรรมนูญ