posttoday

ปชป.ครบรอบ 76 ปี "จุรินทร์" ยังไม่ตั้งเป้าสส. ไม่ขอตอบร่วมรัฐบาลสมัยหน้า

06 เมษายน 2565

จุรินทร์ เผย "ครบรอบ 76 ปี พรรคประชาธิปัตย์" ตอกย้ำความเป็นสถาบันการเมืองของคนทุกรุ่น ยัน 3 ปีขับเคลื่อนเงื่อนไขเข้าร่วมรัฐบาลสำเร็จ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ยังไม่ตั้งเป้า ส.ส.เลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ขอตอบร่วมรัฐบาลสมัยหน้า

เมื่อวันที่ 6 เม.ย.65 พรรคประชาธิปัตย์ จัดงานทำบุญครบรอบ 76 ปี มีบรรดานักการเมืองที่มีชื่อเสียงของพรรคเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค รมต.เกษตรและสหกรณ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค รมช.มหาดไทย นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค รมช.สาธารณสุข คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รมช. ศึกษา นายสินิตย์ เลิศไกร รมช. พาณิชย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ นายสรรเสริญ สมะลาภา รองหัวหน้าพรรค ผอ. ศูนย์เลือกตั้ง กทม. และ ส.ก. นายนราพัฒน์ แก้วทอง นายชัยชนะ เดชเดโช ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ รองเลขาธิการพรรค พร้อมด้วย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.เขตของพรรค อาทิ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุราษฎร์ธานี และอดีต ส.ส. ของพรรค รวมทั้งสมาชิกพรรค อีกทั้งมีคนรุ่นใหม่ และผู้สนใจร่วมงานกับพรรคเข้าร่วมงานคับคั่ง ทั้งนี้ ทางพรรคได้จัดเต้นท์เจ้าหน้าที่ และพยาบาลเพื่อตรวจคัดกรอง เพื่อป้องกันโรคโควิด19 ก่อนร่วมงาน

ทั้งนี้งานครบรอบ 76 ปี พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประกอบพิธีทางศาสนาอย่างเช่นทุกปี โดยในช่วงเช้าเริ่มประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม ตามมาด้วยพิธีพราหมณ์ และพิธีพุทธ ซึ่งได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดชนะสงครามเพื่อเจริญน้ำพุทธมนต์ให้เป็นสิริมงคลให้กับสถาบันที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศอีกด้วย

ปชป.ครบรอบ 76 ปี "จุรินทร์" ยังไม่ตั้งเป้าสส. ไม่ขอตอบร่วมรัฐบาลสมัยหน้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนา ว่า วันนี้เป็นวันครบรอบ 76 ปี ของการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนับจากวันนี้เป็นต้นไปก็จะเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 77 ประชาธิปัตย์ไม่ใช่เป็นแค่พรรคการเมืองที่มีอายุยืนยาวที่สุดของประเทศเท่านั้น แต่ยังถือเป็นสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศที่อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาต่อเนื่องยาวนานและยังจะอยู่ต่อไป ซึ่งตนมั่นใจว่าตราบชั่วฟ้าดินสลาย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะประชาธิปัตย์ประกอบด้วยคนทุกรุ่น ไม่ใช่พรรคการเมืองของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่งเท่านั้น ผู้อาวุโสของพรรคก็จะทำหน้าที่เป็นหางเสือ สำหรับคนรุ่นปัจจุบันก็จะทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนพรรคไปสู่ทิศทางเป้าหมาย และคนรุ่นใหม่ก็จะผู้ที่มาสืบทอดอุดมการณ์ของพรรคต่อไปในวันข้างหน้า ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น และเรามีทั้งอดีต ปัจจุบัน และมีอนาคต นี่คือความเป็นประชาธิปัตย์

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ตนภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเมืองที่ทรงเกียรติแห่งนี้ ซึ่งตนมั่นใจว่าก็เป็นเช่นเดียวกับสมาชิกพรรคทุกคนที่อยู่ร่วมอุดมการณ์กันมาจนถึงวันนี้ และจะอยู่ร่วมกันต่อไปในวันข้างหน้า ในฐานะหัวหน้าพรรคขอถือโอกาสนี้ขอบคุณบรรพบุรุษของพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณเพื่อนร่วมงาน ขอบคุณกรรมการบริหารพรรค ขอบคุณสมาชิกพรรคทุกคนที่จับมือร่วมกันในการทำให้พรรคประชาธิปัตย์สามารถก้าวเดินมาจนกระทั่งถึงวันนี้ และจะเดินต่อไปในวันข้างหน้า

“ผมยืนยันว่าผมจะทำงานร่วมกับกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคทุกคนที่จะนำพรรคประชาธิปัตย์ไปสู่ความสำเร็จต่อๆ ไป และนำอุดมการณ์ของพรรคไปสู่การทำหน้าที่เพื่อประชาชนให้ประสบความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นต่อไป” นายจุรินทร์ กล่าว

ปชป.ครบรอบ 76 ปี "จุรินทร์" ยังไม่ตั้งเป้าสส. ไม่ขอตอบร่วมรัฐบาลสมัยหน้า

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับทางเดินในวันข้างหน้าก็คิดว่ามีความชัดเจนอยู่แล้วประชาธิปัตย์อยู่ได้มาสืบเนื่องยาวนาน เพราะเรามีอุดมการณ์ที่มีความชัดเจนและไม่เคยเปลี่ยน อุดมการณ์ที่ว่าก็คืออุดมการณ์ที่เรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และอุดมการณ์ในการทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนเป็นหลัก รวมทั้งอุดมการณ์ในความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นสิ่งที่เรายึดมั่นไม่เคยเปลี่ยนแปลง นี่คือสิ่งที่ทำให้เรายืนหยัดอยู่ได้มาจนถึงวันนี้และจะอยู่ต่อไปในวันข้างหน้า

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ นั้น เป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวบุคคล เรื่องของนโยบาย เรื่องทิศทางดำเนินการในทางการเมืองที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเพราะพรรคการเมืองก็จะต้องมีพลวัตเพื่อให้เหมาะสมกับกาลเวลา กาลสมัย เพราะฉะนั้นสโลแกนที่กำหนดไว้สำหรับประชาธิปัตย์ยุคนี้จึงเป็นสโลแกนที่มีความชัดเจนในตัวเอง ซึ่งประกอบด้วย คำสองคำที่อยู่ด้วยกัน คือคำว่า “อุดมการณ์” ที่เราไม่มีวันเปลี่ยน และคำว่า “ทันสมัย” เพื่อให้สอดคล้องกับโลก สถานการณ์และความเป็นไปของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้ประชาธิปัตย์สามารถสนองตอบได้อย่างตรงประเด็น และเป็นที่พอใจของพี่น้องประชาชนต่อไป

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ตนมาเป็นหัวหน้าพรรค ยืนยันว่าเราได้ทำหน้าที่ของเราครบถ้วนและทำได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล 3 ข้อ เราก็ปฏิบัติได้ครบถ้วนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสามารถ “ทำได้ไว ทำได้จริง” เพราะร่วมรัฐบาลได้เพียง 4-5 เดือนเราก็เริ่มโอนเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรได้แล้ว เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญก็เป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งที่เราชัดเจนว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคหนึ่งที่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น และเราก็ทำสำเร็จแม้จะไม่ทั้งหมดเพราะเรามีข้อจำกัดเรื่องจำนวนเสียง ประชาธิปัตย์มีแค่ 50 แต่การแก้รัฐธรรมนูญต้องเสนอด้วยเสียง 100 เสียง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องร่วมมือกับพรรคการเมืองอื่นในการดำเนินการ และเราก็ไม่ได้ดั่งใจทุกเรื่อง แต่อย่างน้อยรัฐธรรมนูญที่บอกว่าแก้ยาก บัดนี้ก็ก็สามารถแก้ได้ 1 เรื่อง และร่างแก้รัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบก็เป็นร่างของประชาธิปัตย์ อย่างน้อยที่สุดก็ถือเป็นการนับหนึ่งในการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น วันข้างหน้าถ้าเราได้เสียงมากกว่านี้ เราก็จะทำอะไรได้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของนโยบายประกันรายได้ เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น หรือในนโยบายอื่นๆ ส่วนเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตนั้นเราก็ได้ทำหน้าที่ของเราให้เป็นที่ประจักษ์

ปชป.ครบรอบ 76 ปี "จุรินทร์" ยังไม่ตั้งเป้าสส. ไม่ขอตอบร่วมรัฐบาลสมัยหน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ตั้งความหวังจำนวน ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปไว้หรือไม่อย่างไรนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องจำนวนนั้นไม่ได้ไปตั้งเป้า แต่เรามั่นใจว่า 2-3 ปี ที่กรรมการบริหารชุดนี้เข้ามา เราพาพรรคเดินหน้าไปสู่การยอมรับของพี่น้องประชาชนยิ่งขึ้น ตนมีความมั่นใจอย่างนั้น เหมือนกับที่เราได้ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้น เป็นเป้าที่ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชน และเราก็รู้ว่าประชาธิปัตย์จะได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชนยิ่งขึ้นหรือไปนั่งในหัวใจประชาชนได้อีกครั้งหนึ่งนั้น เราต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งประชาธิปัตย์มีความชัดเจนอย่างน้อย 2 เรื่อง ประกอบด้วย

1. การทำหน้าที่ เพราะถ้านับหนึ่ง หากสถาบันการเมืองไม่รู้หน้าที่ ก็จะพาถอยหลัง แต่เรารู้หน้าที่ เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราควรทำอะไร เราต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง

“ผมคิดว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคหลักพรรคหนึ่งในการร่วมรัฐบาลที่ยืนหยัดมั่นคง ว่าคิดทางการเมืองจะต้องไปทางไหนต้องพารัฐบาลไปทางไหน แม้เรามีแค่ 50 เสียง แต่วันเวลามันพิสูจน์”

2. เรื่องผลงาน ซึ่งก็มีความชัดเจน ไม่อย่างนั้นคำว่า “ทำได้ไว ทำได้จริง” มันไม่เกิด

เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าพรรคใดจะขึ้นเป็นรัฐบาล ประชาธิปัตย์จะตั้งเงื่อนไขในการไปร่วมอีกหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบล่วงหน้า เพราะการเลือกตั้งยังมาไม่ถึง และตนชัดเจนว่าประชาชนต้องเป็นคนแรกที่ให้คำตอบ ไม่ใช่พรรคการเมืองให้คำตอบก่อนประชาชน ถ้าเป็นอย่างนั้น การนับหนึ่งก็ไม่ใช่แล้ว เพราะประชาธิปไตยนั้น ประชาชนต้องเป็นผู้ให้คำตอบเสียก่อน แล้วที่เหลือก็เป็นไปตามระบบคือระบบรัฐสภา ใครรวมเสียงข้างมากได้ คนนั้นก็เป็นรัฐบาล ซึ่งสิ่งนี้เป็นกติกาประชาธิปไตยรัฐสภาสากล ประเทศเราก็ปฏิบัติกันอย่างนี้ และรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้อย่างนี้