posttoday

สนง.สลากฯ ชูยุทธศาสตร์ปี 69 ลดสลากใบ เพิ่มสลากดิจิทัล–N3 คุมสมดุลตลาด

19 ธันวาคม 2568

สนง.สลากฯ วางทิศทางปี 69 ปรับโครงสร้างสลาก ลด L6 ใบ เพิ่มดิจิทัล–N3 แบบค่อยเป็นค่อยไป ย้ำไม่เพิ่มปริมาณรวม คุมสมดุลตลาดตามกรอบกฎหมายและเศรษฐกิจ

KEY

POINTS

  • สำนักงานสลากฯ วางยุทธศาสตร์ปี 2569 ปรับสมดุลตลาดโดยจะทยอยลดจำนวนสลากใบ และเพิ่มสัดส่วนสลากดิจิทัลและสลาก 3 หลัก (N3)
  • การเพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลจะใช้วิธีแปลงโควตาจากสลากใบแทนการเพิ่มจำนวนสลากในระบบทั้งหมด โดยพิจารณาจากความต้องการของตลาดเป็นหลัก
  • ปริมาณสลากโดยรวมในปี 2569 จะยังไม่เพิ่มขึ้น แต่จะเน้นการปรับโครงสร้างภายในเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและมุ่งสู่การบริหารจัดการที่ยั่งยืน

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานปี 2569 ว่า สำนักงานสลากฯ จะเดินหน้าปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์สลากให้เกิดความสมดุลมากขึ้น โดยมีแนวโน้ม ลดสลากใบ หกหลัก ( L6 ) และเพิ่มจำนวนของสลากดิจิทัล รวมถึงสลาก 3 หลัก (N3) อย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้กรอบกฎหมาย นโยบายรัฐ และการพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นหลัก

สำหรับภาพรวมสลากใบ L6 ปัจจุบันมีทั้งแบบใบและแบบดิจิทัล เป็นสลากใบอยู่ที่ประมาณ 78 ล้านฉบับต่องวด โดย 15 ล้านใบ เป็นของตัวแทน สมาคมต่างอาทิ สมาคมคนพิการ  โควต้าองค์กรต่างๆ อีก 15 ล้านใบ เป็นสลากโควต้าของรายย่อย และ 48 ล้านใบเป็นสลากจองซื้อของรายย่อย 

ขณะที่สลากดิจิทัลขณะนี้มีอยู่ในระบบที่ 27 ล้านฉบับ และในงวดที่ผ่านมาได้มีการทดลองเพิ่มสลากระหว่างงวดเป็น 28 ล้านฉบับ หลังพบว่ายอดจำหน่ายสลากดิจิทัลในระบบขายหมดต่อเนื่อง 3 งวดติด จึงจะพิจารณาเพิ่มสลากเข้าระบบ โดยจำนวนสลากที่เพิ่มจะมาจากผู้ค้ารายย่อยที่อยู่ในโควต้าที่สนใจนำสลากเข้าจำหน่ายในระบบ

"สำนักงานสลากฯ จะใช้หลักความต้องการตลาดเป็นหลักในการพิจารณาเพิ่มสลากดิจิทัลเข้าระบบ เมื่อ “ขายหมดจึงเพิ่ม” เพื่อทดสอบสมดุลตลาด ซึ่งหากความต้องการยังสูง ก็จะเพิ่มสลากเข้าระบบในลักษณะถาวร และจะเปลี่ยนจากสลากใบมาเป็นดิจิทัล โดยไม่เปิดตัวแทน L6 ใหม่เพิ่มเติม"

ส่วนสลาก N3 ที่ออกแบบมาเพื่อ “ปิดช่องว่างของสลาก 6 หลัก” ทั้งในมิติผู้ซื้อและผู้ขาย ล่าสุดมียอดจำหน่ายต่องวดอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านฉบับ จากเป้าที่ตั้งไว้ 5 ล้านใบ โดยมีตัวแทนที่ 20,200 ราย โดยเป้าหมายหลักไม่ใช่การเพิ่มกำไร แต่เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเลือกเลขเองได้ในราคาที่เหมาะสม และช่วยลดภาระตัวแทนที่ไม่ต้องลงทุนล่วงหน้า ไม่เสี่ยงขายไม่หมด

สำนักงานสลากฯ ย้ำว่า N3 และ L6 จะเติบโตไปพร้อมกัน โดยไม่ให้กระทบซึ่งกันและกัน และยังคำนึงถึงการดูแลตัวแทนเดิมเป็นสำคัญ หากจะขยายในอนาคต จะพิจารณาเพิ่ม N3 เป็นหลัก มากกว่าการเพิ่มสลาก 6 หลัก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนในระบบ

"ทิศทางโดยรวมในปี 2569 จะยังไม่เพิ่มปริมาณสลากรวม แต่จะ “ปรับโครงสร้างภายใน” ให้เหมาะสมกับขนาดเศรษฐกิจที่เติบโตจำกัด พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายการบริหารจัดการสลากอย่างยั่งยืน ลดปัญหาสังคม และสร้างโอกาสอาชีพให้ผู้ค้ารายย่อยในระบบดิจิทัลมากขึ้น" พันโท หนุน กล่าว

ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มองว่า ขนาดสลากใบและสลากดิจิทัลในปัจจุบันอยู่ในระดับเหมาะสมกับอัตราการเติบโตของจีดีพีที่ เฉลี่ยอยู่ที่ 2% ต่อเนื่องมา 3 ปี

ข่าวล่าสุด

บวท. ยกระดับความพร้อมรับปีใหม่ 2569 คาดเที่ยวบินพุ่ง 2.7 หมื่นเที่ยว