posttoday

“ชวน”เผยเหตุสภาฯล่มเพราะส.ส.แก้แค้นกันเอง ย้ำรัฐบาลต้องมีเสียงข้างมาก

07 กุมภาพันธ์ 2565

ประธานสภาฯ เผยเหตุสภาฯล่มเพราะแก้แค้นกันเอง ชี้หน้าที่รักษาองค์ประชุมเป็นของทั้งสองฝ่าย แต่ฝ่ายรัฐบาลต้องครองเสียงข้างมาก

วันที่ 7 ก.พ.นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการมุมการเมืองทางThaiPBS ถึงปัญหาสภาล่มซ้ำซากโดยเฉพาะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ล่มถึง2ครั้ง ว่า ยอมรับเป็นเรื่องที่ทำให้ภาพพจน์ของสภาฯเสียหาย ซึ่งเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ก.พ. ที่สภาฯล่ม ซึ่งฝ่ายค้านเองก็ยอมรับว่าจะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมเพราะต้องการขับไล่นายกรัฐมนตรี และตอนนี้ก็เป็นข้อถกเถียงว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบองค์ประชุม ซึ่งตามหลักแล้วคือต้องร่วมรับผิดชอบทั้งสองฝ่าย แต่ระบบรัฐสภาคนที่จะเป็นรัฐบาลได้ต้องมีเสียงข้างมาก ดังนั้นรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากก็ต้องดูแลองค์ประชุมของตัวเองด้วย ทั้งนี้เมื่อมีการลงมติเหมือนแก้แค้นกัน เช่นรายงานผลการพิจารณาศึกษาการขุดคลองไทยฯ ไม่ผ่านเจ้าของเรื่องก็โกรธ ดังนั้นเรื่องต่อมาคือ รายงานปัญหากัดเซาะชายฝั่งทะเล เลยไม่รับ ซึ่งก็ต้องลงมติ และตรวจสอบองค์ประชุม

“ส่วนตัวผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ รอให้สมาชิกเข้ามาร่วมในห้องประชุม แต่ก็มีสมาชิกไม่พอใจที่รอนานไปในที่สุดองค์ประชุมก็ไม่ครบ และข้อเท็จจริงดูในช่วงนั้นองค์ประชุมครบ แต่สมาชิกไม่กดบัตรแสดงตน ซึ่งก็สามารถทำได้ โดยปัจจุบันมีการใช้บ่อยต่างจากสมัยก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวัง”นายชวน กล่าว

นายชวนยังกล่าวว่า ปัจจุบัน มีคณะกรรมการประสานงาน จะติดต่อประสานงานกัน แต่ก็ต่างจากสมัยก่อน ที่สมัยก่อนนายกรัฐมนตรีจะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองและจะมีตัวแทนชัดเจน แต่ปัจจุบันยังไม่ชัดว่าต้องติดต่อใคร จึงต้องติดต่อกับตัวแทนผู้ควบคุมเสียง ที่อาจคุมเสียงไม่ได้ต่างจากอดีตที่หัวหน้าพรรคการเมืองจะคุมเสียงได้ ทำให้ความร่วมมือเข้าประชุมไม่มีปัญหาเหมือนปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นข้อแตกต่าง

นายชวน กล่าวถึงมาตรการแก้ปัญหา สภาล่ม ว่า ในรัฐธรรมนูญมีกำหนดบทลงโทษหากผู้ใดขาดประชุม แต่ปัจจุบันมีการลงชื่อเข้าร่วมประชุมเพียงแต่ไม่ยอมแสดงตนเป็นองค์ประชุม จึงจะถือว่าไม่มาร่วมประชุมไม่ได้

ส่วนการทำหน้าที่ประธานควบคุมการประชุมสภาฯ ที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตถึงความลำเอียงในการทำหน้าที่ นายชวน กล่าวยืนยันว่า ไม่ลำเอียง เพราะทำเช่นนั้นไม่ได้ เนื่องจากอยู่ในสายตา แต่ยอมรับว่า อาจทำให้ใครไม่ถูกใจ เนื่องจากต้องยึดความเป็น กลาง และยึดความถูกต้อง ซึ่งไม่ใช่ปัญหา เพราะสมาชิกเกือบทุกคนยอมรับว่าตนทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางมากที่สุด ให้โอกาสทุกคนมากที่สุด และเหตุการณ์เมื่อวันที่4 ก.พ.ที่ผ่านมา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่พูดกลางสภาฯไปตามอารมณ์ ว่าตนลำเอียง ซึ่งก็มาขอโทษแล้ว