posttoday

“อนุดิษฐ์”เล็งชง กมธ.เชิญ“แอร์บูล”แจงปมแก้TOR บิ๊กโปรเจกต์

28 กันยายน 2564

“อนุดิษฐ์” เกาะติดปมแก้ TOR บิ๊กโปรเจกต์ ทอ.เล็งชง กมธ.เชิญ “แอร์บูล” เข้าชี้แจง ลือหึ่ง “แก๊ง อบจ.” หากินใน ทอ.

น.อ.นุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวกรณีที่ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า กองทัพอากาศ มีความจำเป็นต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลง TOR การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ 3 โครงการ มูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาท เนื่องจาก TOR เดิมทำให้กองทัพอากาศ (ทอ.) เสียเปรียบ และเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของทอ. ว่า ตนเองรู้สึกแปลกใจและผิดหวังกับคำชี้แจงของ ผบ.ทอ. เพราะข้อมูลที่ ผบ.ทอ. ชี้แจงนั้นขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้วโดยสิ้นเชิงและต้องขอทำความเข้าใจกับผบ.ทอ. ว่าเรื่องการที่ กมธ.ป.ป.ช. และตน ตรวจสอบโครงการของทอ. นั้น ไม่ใช่การโจมตีทางการเมือง แต่เป็นประเด็นความถูกต้องของระเบียบและกฎหมาย ที่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่ให้เกิดการลุแก่อำนาจจนเกิดความเสียหายกับ ทอ. อย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ยกตัวอย่างเช่น ผบ.ทอ. ชี้แจงว่าการเปลี่ยนแปลง TOR ทั้ง 3 โครงการในครั้งนี้เป็นไปตามระเบียบ และ ทอ.ได้สอบถามกรมบัญชีกลางแล้วว่า สามารถกระทำได้ แต่จากการให้ถ้อยคำของผู้แทนจากกรมบัญชีกลางที่มาให้ข้อเท็จจริงกับ กมธ.ป.ป.ช. พบว่า ทอ.ไม่เคยมีหนังสือสอบถามกรมบัญชีกลางในเรื่องนี้เป็นลายลักษณ์อักษรเลย สอดคล้องกับคำให้การของผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารอากาศ ที่ระบุว่า หาก ทอ. มีความประสงค์จะเปลี่ยน TOR จะต้องทำหนังสือหารือไปที่ คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง เสียก่อน แต่ ทอ. ก็ละเลยไม่ดำเนินการ

“โดยฝ่ายเสนาธิการของ ผบ.ทอ. อ้างคำสั่ง ผบ.ทอ. แจ้งให้ข้าราชการผู้รับผิดชอบไม่ต้องทำหนังสือไปสอบถามกรมบัญชีกลาง แต่ให้ดำเนินการเปลี่ยนแปลง TOR ไปได้เลย ซึ่งหลักฐานชัดเจนแบบนี้ ผบ.ทอ. กลับออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าทำถูกต้องได้อย่างไร”

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ที่แย่ไปกว่านั้นคือคำชี้แจงของ ผบ.ทอ. เรื่องการจัดหาวิทยุพื้นดิน-อากาศทดแทน ที่ ผบ.ทอ. ระบุว่าช่วยประเทศชาติประหยัดงบประมาณไป 510 ล้านบาทนั้น แสดงว่า ผบ.ทอ.ไม่ได้ให้ความสำคัญ หรืออาจรู้เห็นเป็นใจกับกระบวนการฉ้อฉลในครั้งนี้ เพราะเรื่องนี้ตนอภิปรายในสภาฯอย่างชัดเจนว่า ใครก็ตามโปรดอย่าอ้างว่าปรับปรุง TOR แล้ว ทำให้ ทอ.ซื้อของถูกลง เพราะ กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ ทอ.ส่งมาให้แล้วพบว่าโครงการมูลค่า 900 ล้านบาท มีการตัดเนื้องานออกไป 2 รายการ มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท แต่กลับไม่ปรับราคากลางให้เหลือ 400 ล้านบาทตามรายละเอียดใหม่ของโครงการ เพราะเมื่อ ทอ.ดำเนินกระบวนการจัดซื้อยังคงกำหนดราคากลางไว้เหมือนเดิมคือประมาณ 900 ล้านบาท และเมื่อ กมธ.ป.ป.ช. ตรวจเชิงลึกไปที่การเสนอราคาของบริษัทที่ ทอ.เชิญให้มาเสนอราคานั้นพบว่า มี 2 รายที่เสนอราคามาที่ 834 ล้านบาท แต่มีบริษัทอีกรายที่เสนอราคาตามความเป็นจริงตามรายละเอียดของงานที่ปรับใหม่ และต่ำกว่าราคากลางถึงราว 400 ล้านบาท

“การที่ ผบ.ทอ.ระบุว่าการเปลี่ยน TOR ทำให้เกิดการแข่งขันและทำให้ประหยัดไปได้ 510 ล้านบาท จึงเป็นแค่คำกล่าวอ้างให้ดูดีเท่านั้น แต่ความสกปรกอยู่ที่คนอนุมัติ TOR และฝ่ายเสนาธิการที่สั่งแก้ TOR รู้ดีว่ามีการลดสเปคด้วยการตัดเนื้องานออกไป 500 ล้านบาท คณะกรรมการราคากลางก็ทราบว่าเนื้องานหายไป แต่เหตุใด ทอ. จึงยืนยันราคากลางไว้เหมือนเดิมไม่ปรับลดลงตามความจริง เช่นเดียวกับบริษัทเอกชนที่เหตุใดกล้าเสนอราคาเกินกว่าเนื้องานที่ปรากฎใน TOR มากกว่า 1 เท่าตัว ยังดีที่มีอีกบริษัทที่เสนอคาคามาเพียง 400 กว่าล้านบาทใกล้เคียงกับเนื้องานจริง”

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวถึงโครงการพัฒนาการป้องกันฐานที่ตั้งทางทหารของกองทัพอากาศ (GBAD) มูลค่าโครงการ 940 ล้านบาทด้วยว่า แม้ ผบ.ทอ.ระบุว่า ได้จรวดป้องกันฐานบินจากอิสราเอล และผ่านการใช้งานในการสู้รบจริง (Combat Proven) ในสมรภูมิต่างๆ มาแล้ว ก็เป็นความเห็นส่วนตีว แต่ กมธ.ป.ป.ช. มีหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องการทุจริต ซึ่งโครงการนี้ส่งกลิ่นเหม็นเน่ามาก เพราะ ทอ.ดำเนินการจัดหาโครงการนี้ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง คือการเลือกบริษัทเพียงรายเดียวให้มาเสนอราคา ทั้งๆ ที่มีบริษัทหลายรายต้องการเข้าแข่งขัน ซึ่งไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 เนื่องจาก ทอ.ระบุตลอดมาว่าต้องการให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม แต่ในโครงการ GBAD นี้มีเอกสารหลักฐานชัดเจนว่า มีการกีดกันไม่เปิดโอกาสให้ผู้เสนอราคารายอื่นๆ เข้าเสนอราคาได้ การที่ ทอ. ปฏิเสธไม่ให้มีผู้เสนอราคารายอื่นเข้าเสนอราคาถือว่ามีพิรุธอย่างชัดเจน เพราะเมื่อมีบริษัทเพียงรายเดียวย่อมสามารถตั้งราคาได้ตามอำเภอใจ และที่สำคัญก็คือ กมธ.ป.ป.ช. มีหลักฐานการเปลี่ยนแปลง TOR ที่มีการลดสเปคอย่างเห็นได้ชัด แต่ ทอ. ก็ไม่ปรับลดราคากลางเหมือนเช่นเคย แถมงวดนี้เลือกบริษัทให้เข้ามาเสนอราคาเพียงรายเดียวด้วย

“เรื่องนี้จึงไม่ใช่แค่คำครหา แต่อาจเป็นกระบวนการหากินงบประมาณแผ่นดิน ที่คนใน ทอ.รู้ดี และเรียกขบวนการนี้ว่า “อบจ” ส่วนใครเป็นใครถามญาติพี่น้องใน ทอ.คงตอบคำถามนี้ได้ไม่ยาก เรื่องผิดปกติแบบนี้และมีการตรวจสอบของสภาฯ ผมเชื่อว่าถ้าเป็น ผบ.ทอ.ท่านอื่น คงรีบตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว แต่ ผบ.ทอ.ท่านนี้กลับฟอกขาวโครงการ ด้วยการยืนยันว่าเป็นเรื่องถูกต้องซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก ผมจึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอมติ กมธ.ป.ป.ช.เพื่อเชิญ ผบ.ทอ.มายืนยันคำพูดต่างๆ ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และให้ถ้อยคำกับเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อฯ ที่ไม่ชอบต่อไป “ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว