“นภาพร”ค้านขอขยายเพดานเงินกู้อีก1ล้านล้านอัดเป็นวงจรอุบาทว์

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการขอขยายเพดานเงินกู้จาก 60 เป็น 70 % ของรัฐบาลเพื่อเตรียมกู้เงินเพิ่มอีกกว่า 1 ล้านล้านบาท ว่า เป็นไปตามที่ได้เคยอภิปรายเอาไว้ว่า ตราบใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังเป็นผู้นำอยู่ก็จะกู้จนตัวตา” ประเทศก็จะเวียนว่ายตายเกิดอยู่กับการ กู้แล้วแจก แจกแล้วกู้ วนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์อยู่อย่างนี้ โดยแทบจะไม่มีโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับประเทศสำหรับประชาชนเลย

ทั้งนี้ แนวทางการหาเงินเข้าประเทศด้วยการเปิดทางให้ชาวต่างชาติ สามารถซื้อบ้านหรือเป็นเจ้าของที่ดินในประเทศได้ ก็เป็นแนวคิดที่สะท้อนให้เห็นถึงความจนตรอกของรัฐบาล เพราะการให้คนต่างชาติที่ร่ำรวยเข้ามาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านหรือที่ดินในเมืองไทยได้ ก็จะยิ่งเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำข้ามประเทศ เพราะยังมีคนไทยอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่มีบ้านหรือที่ดินเป็นของตัวเอง ขณะที่รัฐบาลให้มหาเศรษฐีจากที่ไหนก็ไม่รู้ เข้ามาเป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรได้ แล้วอย่างนี้ต่อไปคนไทยจะอยู่กันอย่างไร จะต้องกลายเป็นผู้เช่าอาศัยบ้านของคนต่างชาติใช่หรือไม่

“ก่อนจะกู้เงินก้อนใหม่เพิ่มขึ้นอีก รัฐบาลต้องตอบคำถามให้ได้ก่อนว่ามีแผนการใช้หนี้อย่างไร จะนำเงินที่ไหนมาใช้หนี้และจะต้องใช้เวลาเท่าไรจึงจะสามารถใช้หนี้ได้ทั้งหมด ตอนนี้การกู้หนี้ของรัฐบาลเกินขีดความสามารถในการใช้หนี้ไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ดีแต่กู้ แต่ไม่มีแผนสร้างรายได้เข้าประเทศ สุดท้ายผู้ที่ต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อคือคนไทยทั้งแผ่นดิน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่กำลังประท้วงขับไล่รัฐบาลอยู่ในขณะนี้”น.ส.นภาพรกล่าว

น.ส.นภาพรยังเชื่อด้วยว่า การขยายเพดานเงินกู้ครั้งนี้เป็นการเตรียมเงินสำหรับแจกทิ้งทวนก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ หวังซื้อใจประชาชนผ่านโครงการเยียวยาต่างๆ โดยคาดว่าจะมีการปรับฐานข้อมูลของประชาชนใหม่อีกครั้งเพื่อการนี้โดยเฉพาะ และเมื่อชนะเลือกตั้งก็หวังจะอาศัยเสียง 250 สว.กลับมาเป็นนายกฯอีกเพื่ออยู่ให้ครบ 20 ปี ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ จึงขึ้นอยู่กับประชาชนแล้วว่ายังจะยอมรับให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมากู้จนตัวตายอีกหรือไม่ หรือจะลองใช้บริการของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยดูซักครั้ง