posttoday

นครบาลแถลงจับผู้ต้องหาเผารถยกตำรวจ ร่วมม็อบทะลุแก๊สป่วนดินแดง

17 กันยายน 2564

นครบาลแถลงจับผู้ต้องหาเผารถยกตำรวจ ร่วมกลุ่มทะลุแก๊สป่วนดินแดง ตั้งข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ มั่วสุม ฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉินคุมโควิด

เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ฐานะโฆษกบช.น. กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า มีกลุ่มทะลุแก๊ส นัดชุมนุมยังไม่ทราบเวลาที่สามเหลี่ยมดินแดง บช.น. ขอเตือนว่าการกระทำดังกล่าวถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อฯ กรณีการชุมนุมในวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยทำกิจกรรมชุมนุมปราศรัยที่สกายวอร์ค แยกปทุมวัน ไม่มีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด ส่วนกลุ่มทะลุแก๊สที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มีการขว้างปาสิ่งของ ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว ประทัดยักษ์ พลุไฟ ระเบิดต่างๆ บริเวณหน้ากรมดุริยางค์ทหาร และรวมตัวก่อความวุ่นวายอีกครั้ง บริเวณถนนมิตรไมตรี กลุ่มวัยรุ่นยิงพลุใส่เจ้าหน้าที่ และปาระเบิดขวดบนถนนวิภาวดีขาออก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย ช่วงเวลา 22.00 น ถึง 00.10 น. เจ้าหน้าที่จึงเข้าบังคับใช้กฎหมายและผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองต่อไป บช.น.จะสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ความรุนแรง และก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

โฆษก บช.น. กล่าวอีกว่าตอนค่ำวันที่ 16 ก.ย. ชาวแฟลตดินแดงและประชาชนที่แสดงไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มทะลุแก๊ส จับกุมชายต้องสงสัยเข้าไปในบริเวณแยกข้างสวนป่า ถนนมิตรไมตรี 1 ตรวจสอบพบระเบิดแสวงเครื่องไว้ในครอบครอง 5 ลูก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทำการจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว ดำเนินคดีในข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 3 ราย 1 ใน 3 เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับก่อเหตุเผารถยกตำรวจเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ฯ มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯและ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สรุปการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนก.ค. รวมทั้งสิ้น 211 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 774 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 529 คน

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวถึงการจับกุมแกนนำได้ 5 คนว่า เป็นการประสานงานหรือลงพื้นที่ตรวจสอบกลุ่มเป้าหมายผู้ต้องหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงไม่ว่าในกรุงเทพและปริมณฑล ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 20 เป้าหมาย ช่วงระหว่างวันที่ 15-17 ก.ย.จับกุมแล้วประมาณ 5-6 ราย