posttoday

ฝ่ายค้านแฉครม.ซื้อซิโนแวคแพงหูฉี่ จ่อยื่นป.ป.ช.เชือดซ้ำ

15 กันยายน 2564

ฝ่ายค้านเตรียมยื่นป.ป.ช.หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครม.เพิ่งเคาะซื้อซิโนแวคโดสละ10.8เหรียญ ทั้งที่รองนายกฯแจงสภาว่า ซื้อล็อตสุดท้ายที่ราคา 8.9 เหรียญ

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 ที่รัฐสภา 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมแถลงข่าว นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยพท. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคพท. นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อชาติ (พช.) นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคพท.

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ประเด็นที่ฝ่ายค้านได้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 6 คน วันนี้ได้สรุปคำอภิปรายมาตรวจสอบดูว่าจุดไหนที่เราสามารถยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้ ซึ่งเมื่อรวบรวมแล้วได้ 8 เรื่องที่จะยื่น ป.ป.ช. และอีก 1 เรื่องเกี่ยวกับเงิน 5 ล้านบาท เราจะยื่นต่อพล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ประธานคณะกรรมาธิการปปช.สภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคฝ่ายค้านได้ให้แต่ละพรรคกลับไปเตรียมร่างญัตติเพื่อให้ ส.ส.ฝ่ายค้านทั้งหมดร่วมเซ็น คาดว่าสัปดาห์วันที่ 29 ก.ย.จะประชุมพรรคอีกครั้งเพื่อสรุปและนำเรียนยื่น

นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องที่จะยื่นประกอบด้วยยื่น ป.ป.ช. 8 เรื่อง เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับโควิด 6 เรื่อง เรื่องการระบายสต๊อกยางพารา 1 เรื่อง และเรื่องดาวเทียมของ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) 1 เรื่อง และกมธ.ป.ป.ช. 1 คือเรื่องแจกเงิน 5 ล้านบาทที่เป็นข่าว คนที่จะถูกยื่น ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม,นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ,นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส ส่วนคนอื่นๆเราจะติดตามดู โดยก่อนหน้านี้เราเคยยื่นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไปแล้ว โดยประเด็นที่จะยื่นคือกรณีทุจริต การจงใจปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหาย

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า เรื่องที่ยื่นส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่นายกฯ ไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจนได้ เช่น ส่วนเรื่องเงินทอนจากการซื้อวัคซีนซิโนแวค จำนวนกว่า 2 พันล้านบาท ที่ไม่สามารถตอบได้ว่าไปอยู่ตรงไหน และวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ตนตรวจทราบมาว่า ครม. เพิ่งอนุมัติจัดซื้อซิโนแวคอีก 12 ล้านโดส ในราคา 10.80 เหรียญ ถ้าไม่มีการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา อาจจะยังจัดซื้อวัคซีนที่ 17 เหรียญอยู่ก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจะซื้อที่ราคา 10.80 เหรียญ เราก็ยังเห็นว่าเป็นราคาที่สูงอยู่ดี เพราะตามที่รองนายกฯได้ชี้แจงในสภา การซื้อรอบสุดท้ายอยู่ที่ราคา 8.9 เหรียญเท่านั้น ดังนั้น มติ ครม. เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมายังอนุมัติซื้อในราคาที่สูงกว่า ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยอยู่ และยังเดินหน้าจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค ทั้งที่หน่วยงานอื่นๆคัดค้าการซื้อแล้วให้จัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ประเด็นนี้เราก็ต้องสืบหาข้อเท็จจริง และยื่นต่อ ป.ป.ช.ต่อไปอีก

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า การยื่นป.ป.ช.เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ในการยื่นเพื่อตรวจสอบการทุจริตหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่อาจจะรอดจากการยกมือในสภา แต่ก็อาจจะถูกดำเนินการทางกฎหมายได้ ทั้งนี้ ที่เรายื่นไม่ได้เป็นเพราะเราโกรธแค้น หรือต้องการหาเสียง แต่เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านตามรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน

ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการยื่นให้ป.ป.ช.สอบเรื่องการกล่าวหาว่ามีการแจกกล้วยในรัฐสภา เหตุที่เราต้องยื่นให้ กมธ.ป.ป.ช. สอบก่อน เพราะเป็นประเด็นที่กมธ.ชุดนี้มีหน้าที่ และอำนาจในการแสวงหาข้อเท็จจริงทั้งหมด ทั้งการเรียกบุคคล เรียกเอกสาร พยานหลักฐานทั้งหมดมาสอบ จากนั้น เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะเป็นหน้าที่ของ กมธ.ในการยื่นต่อ ป.ป.ช. ดำเนินการพิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234 ต่อไป ไม่ได้หยุดอยู่เพียงที่ กมธ.ป.ป.ช.เท่านั้น คือเราต้องการหาหลักฐานเพื่อมัดให้แน่นที่สุดก่อนจะยื่นไปตามขั้นตอน ถ้ายื่นไปที่ ป.ป.ช. เลยจะช้า หลักฐานบางอย่างอาจจะหายไปก่อน

เมื่อถามถึงการพิจารณายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 นายสมพงษ์ กล่าวว่า ได้มีการหารือไว้เช่นกันแต่ยังไม่ได้ปักหลัก ขณะที่นายประเสริฐ กล่าวว่า เราคิดว่าจะใช้สิทธิ์เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามม. 152 แต่ไม่รู้รัฐบาลจะอยู่ถึงหรือไม่