posttoday

"ภูมิธรรม"ย้ำเจตนารมณ์'เพื่อไทย'ยันทำทุกทางเพื่อลดอำนาจเผด็จการ

23 มิถุนายน 2564

"ภูมิธรรม"ยันพรรคเพื่อไทยทำทุกทางเพื่อลดอำนาจเผด็จการ เพิ่มความเป็นประชาธิปไตย

วันที่ 23 มิ.ย. นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษา หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เลขาฯ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นเรื่อง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ระบุว่า เดินหน้าทำทุกทางแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 เพื่อลดทอนอำนาจ“ระบบเผด็จการ” เพิ่มเติมความเป็น “ประชาธิปไตย มาถึงวันนี้คงไม่ต้องพูดแล้วว่า รัฐธรรมนูญ ปี 60 นั้นก่อให้เกิดปัญหามากมายอย่างไรกับประเทศ เพราะผลงานเชิงประจักษ์ของรัฐธรรมนูญ คือ ทำให้ประเทศต้องอยู่ภายใต้การบริหารของผู้นำรัฐบาล และ คณะรัฐมนตรี ที่ “ไร้ศักยภาพ”

ความล้มเหลวในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด และ เศรษฐกิจ ในวันนี้ ที่ทำให้ผู้คนทั้งประเทศเห็นแต่ความมืดมน ล้วนมาจาก “ความไร้ศักยภาพ” ของรัฐบาล หาก “วัคซีน” คือทางออก ในการหยุดการระบาดของโควิด-19 “การแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ก็คือทางออกของประเทศที่จะนำพาแสงสว่างเข้ามาท่ามกลางความมืดมน ในเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจที่ต้องการสืบทอดระบบเผด็จการได้สร้างกลไกปกป้องตนเองไม่ให้สามารถแก้ไขได้ง่าย ทำให้การแก้ไข เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ทำได้ยากมาก ยกเว้นการใช้กำลังอำนาจมาล้มล้าง ซึ่งเป็นการกระทำ ที่ “ฝ่ายทหาร” ใช้เป็นวิถีในการยึดอำนาจไปจากประชาชนเสมอมา

ดังนั้น เราจึงต้องทำทุกช่องทางในการลดทอนอำนาจของ “ระบบเผด็จการ” และเพิ่มเติมความเป็น “ประชาธิปไตย”เข้าไปในรัฐธรรมนูญ

1.การแก้รธน.โดยผ่านการแก้ มาตรา 256 ที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอคือกระบวนการ เปิดทาง ให้มี “การแก้รธน.ทั้งฉบับ “โดยจัดตั้งสสร.ที่มาจากประชาชน เพื่อทำหน้าที่ จัดทำรธน.ใหม่ ถือเป็นการ ยืนยัน อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ของประชาชน …

2.การแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ควบคู่ไปกับการแก้ไขทั้งฉบับ เป็นความจำเป็นที่ต้องกระทำควบคู่กันไป เพราะเราไม่อาจแน่ใจได้เลยว่า…”การแก้ไขทั้งฉบับจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ หรือเกิดขึ้นได้เร็วหรือช้า แค่ไหนหากการแก้ไขกระทำได้ไม่ลุล่วง หรือไม่สามารถกระทำได้ ไม่ว่าอุบัติเหตุการเมืองใดๆเกิดขี้น ตามกติกาที่พวกเขากำหนดไว้ “เรา ต้องกลับไปใช้ กติกาที่ฝ่ายมีอำนาจเขียนไว้ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อ…ความเป็นประชาธิปไตย การปลดล็อครัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำคู่ขนานกันไป

3.”พลังของประชาชน” ที่ตื่นตัวและส่งเสียงอย่างมีพลัง คือปัจจัยหลักของความสำเร็จ ในการแก้ไขรธน.ซึ่งต้องเข้ามามีส่วนร่วมและเกี่ยวข้องด้วย ให้ได้มีส่วนร่วมรับรู้ตั้งแต่เริ่มต้น เพราะ “เสียงที่ทรงพลังของประชาชนทั้งแผ่นดิน” เป็นหลักประกันเดียวที่จะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ สุดท้าย ขอยืนยันว่า

…รัฐธรรมนูญ ปี 60 คือต้นตอของความล้มเหลวทั้งปวง …รัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องเขียนใหม่ …รัฐธรรมนูญรายมาตรา ก็ต้องแก้ไข ประชาชนต้องส่งเสียงที่ทรงพลังแสดงเจตจำนงมิให้ผู้มีอำนาจ ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญ ที่ดี …….ต้องเป็นรัฐธรรมนูญ ที่เคารพสิทธิประชาชน และส่งเสริมบทบาทของประชาชนอย่างเต็มที่ ……มิใช่รัฐธรรมนูญที่ออกแบบมา..ควบคุมและลดทอนของอำนาจประชาชน“ทำทุกช่องทาง เพื่อลดทอนอำนาจเผด็จการ และคืนความเป็นประชาธิปไตยให้เพิ่มมากขึ้น”