posttoday

"แอสตร้าฯฉีดเร็วขึ้น ซิโนแวคต้องมีเข็ม3" เพื่อสกัดโควิดพันธุ์เดลต้า

22 มิถุนายน 2564

"ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ" ชี้แนวโน้มจะเกิดการระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้าเพิ่มขึ้น การให้วัคซีนแอสตร้าฯควรฉีดเข็ม2เร็วขึ้น ขณะที่ซิโนแวกต้องให้เข็ม3 เพื่อป้องกันสายพันธุ์เดลต้า

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 64 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า หลังจากการแพร่ระบาดสายพันธุ์อัลฟาจากคลัสเตอร์ทองหล่อ ต่อมาไวรัสโควิด-19 ได้กลายพันธุ์มาเป็นสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งแพร่ระบาดง่ายกว่าสายพันธุ์เดิม ซึ่งตามวัฎจักรจะอยู่ได้อีก 4-5 เดือน ทำให้แนวโน้มที่จะเกิดการระบาดในสายพันธุ์เดลต้าเพิ่มขึ้น และหากหมดสายพันธุ์เดลต้าก็คงจะมีสายพันธุ์อื่นๆ เข้ามาอีก

ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันเชื้อโรค ซึ่งเป็นการพัฒนาจากสายพันธุ์อู่ฮั่น แต่เมื่อมาเจอสายพันธุ์ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ก็เป็นไปได้ที่วัคซีนจะลดประสิทธิภาพการต้านโรคลง จนกว่าจะมีการพัฒนาวัคซีนในระยะที่ 2 ต่อไป

"ขณะนี้หลายคลัสเตอร์เป็นสายพันธุ์เดลต้า เราต้องยอมรับความจริงว่าไวรัสจะมีวิวัฒนาการจนกว่าจะมีวัคซีนมาป้องกันได้"นพ.ยง กล่าว

นพ.ยง กล่าวว่า การป้องกันสายพันธุ์เดลต้าต้องใช้ภูมิต้านทานที่สูง โดยจากการศึกษาของประเทศสก็อตแลนด์ มีการใช้วัคซีนไฟเซอร์ กับแอสตร้าเซนเนก้า พบว่า ประสิทธิภาพของไฟเซอร์ที่ให้ 2 เข็มป้องกันได้ 79% ในขณะที่แอสตร้าฯ 2 เข็ม เหลือ 67% จากเดิม 90% ดังนั้น หากฉีดเพียงเข็มเดียวประสิทธิภาพในการป้องกันอาจไม่เพียงพอ

นพ.ยง กล่าวอีกว่า สิ่งที่ประเทศไทยจะทำได้คือจะต้องชะลอการระบาดของสายพันธ์เดลต้าให้ได้มากที่สุด เพื่อยังยั้งการระบาด โดยการให้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็ม 2 เร็วขึ้นเพื่อสร้างภูมิต้านทาน ส่วนซิโนแวก เข็ม 2 ภูมิต้านทานยังต่ำ อาจจะต้องมีการให้เข็ม 3 เพื่อให้เพียงพอต่อการป้องกันสายพันธุ์เดลต้า และต้องปูพรมฉีดวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มากที่สุด ก่อนที่จะมีวัคซีนไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์น่าที่จะเข้ามาในช่วงต.ค.