posttoday

"ไทยไม่ทน"ปูดคำสั่งลับจากทำเนียบฯกดดันตำรวจออกหมายจับคดีสวนสันติพร

19 มิถุนายน 2564

"ไทยไม่ทน" ชี้มีคำสั่งลึกลับจากทำเนียบฯแทรกแซงคดีกดดันตำรวจออกหมายจับ "คดีสวนสันติพร" เตรียมบุก สน.ชนะสงคราม 20มิ.ย.64

"ไทยไม่ทน" ชี้มีคำสั่งลึกลับจากทำเนียบฯแทรกแซงคดีกดดันตำรวจออกหมายจับ "คดีสวนสันติพร" เตรียมบุก สน.ชนะสงคราม พรุ่งนี้

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย กล่าวบนเวทีปราศรัยไทยไม่ทนออนไลน์วันนี้ว่า วันนี้ทราบมาว่าทำเนียบรัฐบาลได้กดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวน ให้เร่งดำเนินคดีและออกหมายจับ “คดีสวนสันติพร” จำนวนทั้งสิ้น 23 คน ตามที่กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จัดเวทีอภิปรายสาธารณะในวันที่ 4-7 เมษายนที่ผ่านมา ณ สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ซึ่งถูกตั้งข้อหา ดำเนินคดีละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยขัดคำสั่งฉบับที่ 5 เนื่องจาก “ร่วมกันชุมนุม หรือการทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัด ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมาก และมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้โดยง่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อันเป็นการฝ่าฝืน ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่องการห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับที่ 5 ออกตาม พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9

คณะสามัคคีประชาชนฯ โดนดำเนินคดีวันที่ 4 เมษายน จำนวน 18 คน วันที่ 5 เมษายน จำนวน 14 คน และวันที่ 7 เมษายน ที่เป็นวันแถลงประกาศยุติเวทีเนื่องจากโควิดระบาดจำนวน 6 คน โดยโดนดำเนินคดีรวมทั้งสิ้น 23 คน โดยตั้งข้อหาเป็นคดีรายวันรวมทั้งสิ้น 38 คดี ประกอบไปด้วย 1.นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ 2.นายจตุพร พรหมพันธ์ 3.นายการุณ ใสงาม 4.นายวีระ สมความคิด 5.นายยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก) 6.นางพะเยาว์ อัคฮาด 7.นายณัทพัช อัคฮาด 8.นายวสันต์ สิทธิเขตต์ 9.นายเมธา มาสขาว 10.นายศักดิ์ณรงค์ มงคล 11.นายสุวิช สุมานนท์ 12.นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง 13.นายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง 14.นายไทกร พลสุวรรณ 15.นายสมบูรณ์ ทองบุราณ 16.นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ 17.น.ส.วรรณพร ฉิมบรรจง 18.พ.ท.หญิง กมลพรรณ์ ชีวพันธ์ศรี 19.นายเศวต ทินกูล 20.ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี 21.นายธนเดช ศรีสงคราม 22.นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา และ 23.นายจอมพล รุ่งเรืองชูเลิศ

โดยในคดีดังกล่าวทนายความได้ขอเลื่อนรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนเป็นวันที่ 29 กรกฎาคมแล้ว เนื่องจากสถานการณ์โควิดระบาด แต่หลังจากกลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนฯ ประกาศชุมนุมขับไล่รัฐบาลในวันที่ 24 มิถุนายนนี้นั้น ได้มีคำสั่งลึกลับจากทำเนียบรัฐบาลกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวนเพื่อให้ออกหมายจับโดยมิชอบ โดยอ้างเหตุการชุมนุมวันที่ 24 นี้ เพื่อกลั่นแกล้งคุกคามแกนนำไทยไม่ทนทั้ง 23 คนให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาล

ทราบมาว่าคนที่กดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตั้งข้อหาประชาชน เร่งให้ออกหมายจับโดยมิชอบและแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ลิ่วล้อฟ้องหมิ่นประมาทประชาชนไปแล้วกว่า 4 คดี และล่าสุดคือจอห์น วิญญู ที่ผ่านมาถึงกับตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและดําเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (คตส.) ตามคําสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ 32/2563 นี่หรือคือนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

วันนี้ผมสงสารพี่น้องตำรวจที่ต้องมารับใช้ระบอบอำนาจนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ และสุ่มเสี่ยงโดนฟ้องร้องมาตรา 157 ข้อหาเลือกปฏิบัติ ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต การชุมนุมของคณะสามัคคีประชาชนฯ ในต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมถึงในวันที่ 24 มิถุนายน วันครบรอบเปลี่ยนแปลงการปกครองนั้น ได้มีการจัดกิจกรรมตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างถูกต้องทุกประการ ไม่ได้ขัดกับ พ.ร.บ.โรคติดต่อและคำสั่งของ ศบค. แต่อย่างใด มีการใส่หน้ากากอนามัย มีการตั้งจุดตรวจวัดอุณหภูมิ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลตำรวจมาตรวจหาโควิด-19 ในพื้นที่การชุมนุมเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้วย

แต่วันนี้มีตำรวจบางนายและนักการเมืองบางคนที่มักใหญ่ใฝ่สูง ต้องการเป็นใหญ่เป็นโตในยุคเรืองอำนาจของระบอบประยุทธ์ ที่เศรษฐกิจสีเทาเฟื่องฟู หลงผิดเป็นชอบในยุคทมิฬถิ่นกาขาว สอพลอรับใช้ผู้มีอำนาจ กลั่นแกล้งคุกคามประชาชนโดยการใช้กฎหมายโดยมิชอบ ไม่ว่าจะแกนนำไทยไม่ทน หรือนักเรียน นิสิต นักศึกษา ขนาดประกาศ พรก.ฉุกเฉินฯ แล้วยังแอบตั้งข้อหาขัดพ.ร.บ.การชุมนุมฯ กับแกนนำราษฎรถึง 7 คน เพื่อกลั่นแกล้งฝากขังดำเนินคดีระหว่างส่งศาลพิจารณา ซึ่งหากอัยการส่งศาล ศาลก็คงยกฟ้องเนื่องจากเมื่อประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะบังคับใช้พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะไม่ได้

วันนี้ คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทันที เนื่องจากประกาศมา 1 ปี 2 เดือนกว่าแล้ว อำนาจพิเศษที่ประชาชนไม่ยอมรับไม่อาจถูกบังคับให้ความร่วมมือได้ การใช้อำนาจเหนือระบบนิติรัฐนิติธรรมพิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถแก้สถานการณ์โควิดระบาดได้เลยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา จนประชาชนหมดความอดทนกับรัฐบาลแล้ว การใช้อำนาจดังกล่าวก็เพื่อสถาปนาอำนาจนำเพื่อเป็นรัฏฐาธิปัตย์แต่เพียงผู้เดียวที่เคยชินมาตั้งแต่การรัฐประหารและคำสั่งหัวหน้า คสช. วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและข้าราชการทุกคนต้องหยุดรับใช้อำนาจฉ้อฉล สามารถปฏิเสธคำสั่งที่ออกโดยพรก.ฉุกเฉินฯ ได้เลย

วันที่ 24 มิถุนายนนี้ ครบรอบ 89 ปีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย แต่เผด็จการทหารและระบอบอำนาจนิยมช่วงชิงบ้านเมืองไปปกครองโดยมิชอบ ดังนั้นถึงเวลาที่ประชาชนจะสร้างประวัติศาสตร์ของตนเองแล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะต้องลงจากอำนาจ ถึงเวลาประชาชนจะสร้างประวัติศาสตร์ของตนเอง History in the making ประวัติศาสตร์ในโลกนี้ไม่เคยมีผู้เผด็จการใดลงจากอำนาจได้อย่างสง่างาม หายนะทุกคน

โดยกิจกรรมของไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย หลังจากจัดปราศัยออนไลน์ในสัปดาห์นี้ วันพรุ่งนี้แกนนำทั้งหมดจะไปที่ สน.ชนะสงครามในเวลา 10.00 น. เพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหาใน “คดีสวนสันติพร” และเตรียมฟ้องร้องเอาผิดพล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมิชอบตามกฎหมายจนบ้านเมืองเสียหายย่อยยับ พร้อมจะรณรงค์ให้ประชาชนออกมาฟ้องร้องต่อนายกรัฐมนตรีทั่วประเทศ

และวันอังคารที่ 22 มิ.ย. เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อชี้แจงมูลเหตุแห่งการประกาศชุมนุมขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ต่อผู้แทนรัฐบาล วันพุธที่ 23 มิ.ย. จะขอเชิญชวนประชาชนประกาศเจตนารมณ์โดยการเฟซบุ๊ค Live สด เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ในเวลา 19.00 น. พร้อมกันทั่วประเทศ และวันพฤหัสบดีที่ 24 มิ.ย. คือการรวมพลังแม่น้ำร้อยสาย ณ ทำเนียบรัฐบาล ขับไล่รัฐบาลทรราชย์ที่ทรยศประชาชน โดยกลุ่มไทยไม่ทนจะนัดชุมนุมในเวลา 16.00 น. เป็นต้นไปหน้าทำเนียบรัฐบาล