posttoday

"ประยุทธ์"ย้ำครม.ให้เร่งแก้ปัญหาหนี้สินประชาชน

15 มิถุนายน 2564

นายกฯ ย้ำใน ครม.เร่งแก้ปัญหาหนี้สินประชาชนให้ครอบคลุมทั้งระบบ เผยที่ร้อนใจมากที่สุดคือ หนี้กยศ. ผู้ค้ำประกัน หนี้ครู/ข้าราชการ หนี้เช่าซื้อรถ หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ได้นำเรื่องปัญหาหนี้สินของประชาชนเสนอต่อที่ประชุมครม.ให้ได้รับทราบ ตนมองเห็นถึงปัญหาของประเทศของเรา ถ้าประชาชนของเรามีหนี้สินเป็นจำนวนมาก มีหนี้ตั้งแต่อายุน้อยมันจะมีผลต่อทั้งชีวิตของเขา ซึ่งเราก็พยายามแก้ไขมาโดยตลอด แก้ไขในเรื่องของหนี้นอกระบบที่ต้องเข้มงวดให้มากยิ่งขึ้น ให้ปฏิบัติตามกฎหมายทุกประเด็น ทุกประการ

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราต้องแก้ปัญหาให้ครอบคลุมทั้งระบบ ทั้งหนี้สินกลุ่มต่างๆ ตอนนี้ที่ร้อนใจมากที่สุดคือหนี้ของกยศ.3.6 ล้านคน ผู้ค้ำประกัน 2.8 ล้านคน หนี้ครู/ข้าราชการ 2.8 ล้านบัญชี หนี้เช่าซื้อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ 27.7 ล้านบัญชี หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 49.9 ล้านบัญชี ปัญหาหนี้สินอื่นๆ ของประชาชน 51.2 ล้านบัญชี

โดยเราได้มีการกำหนดมาตรการออกมา ทั้งมาตรการระยะสั้น ระยะต่อไป ซึ่งมาตรการระยะสั้นเราจะทำให้เกิดขึ้นให้ได้ภายใน 6 เดือน ทั้งเรื่องการลดภาระดอกเบี้ยของประชาชนและสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อ PICO และ NANO สำหรับประชาชน ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ของครูและข้าราชการ รวมถึงสหกรณ์ ปรับรูปแบบการชำระหนี้ คุ้มครองความเป็นธรรมให้ประชาชนที่เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ และขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยทบทวนเพดานอัตราดอกเบี้ยและการกำกับดูแลบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อจำนำทะเบียนอีกด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพิจารณาการไกล่เกลี่ยหนี้สินเพื่อลดการดำเนินคดีกับประชาชน เช่นหนี้กยศ. หนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หนี้สหกรณ์ และให้มีการเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ให้ผู้ประกอบการรายย่อย เอสเอ็มอี จัดให้มี softloan สำหรับเอสเอ็มอีที่เป็น NPLs เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ การเพิ่มจำนวนโรงรับจำนำและโรงรับจำนองเพิ่มขึ้นเพื่อดูแลผู้มีรายได้น้อยแต่มีที่ดินจำนวนจำกัดอยู่เพื่อจะเข้าถึงสินเชื่อเหล่านี้

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับมาตรการระยะต่อไปคือการเร่งส่งเสริมการแข่งขันให้อัตราดอกเบี้ยถูกลง การให้ความช่วยเหลือเด็กรุ่นใหม่ คนเกษียนที่มีภาระหนี้สิน โดยจะต้องออกมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายเรื่องที่อยู่อาศัย ค่าเดินทางระบบขนส่งมวลชนในราคาถูก การจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่ เพิ่มการดูแลสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อรายย่อยเป็นการเฉพาะ การจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางธุรกิจและการเงินเพื่อชะลอการฟ้อง อำนวยความสะดวกให้การฟื้นฟูหนี้รายบุคคล ที่มีเจ้าหนี้หลายราย เป็นต้น

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับหนี้ครัวเรือนในปัจจุบันนั้นมีข้อมูลว่า ก่อนปี 2557 มีอัตราเพิ่มขึ้นเดือนละ 88,000 ล้านบาท แต่จากปี 57 จนถึงปัจจุบัน มีการเพิ่มขึ้นเดือนละประมาณ 5 หมื่นล้านบาท