posttoday

ฝ่ายค้านเห็นพ้องรื้ออำนาจ 250 ส.ว. ฝาก "ชวน" อย่าบรรจุวาระเอาใจรัฐบาล

14 มิถุนายน 2564

พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นพ้องรื้ออำนาจ ส.ว. ชี้ต้องเร่งพิจารณา พ.ร.บ.ประชามติก่อนจึงแก้รัฐธรรมนูญ

วันที่ 14 มิ.ย. มีการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อหารือถึงการยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกัน โดยมีหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ต่อมา เวลา 11.50 น. แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุม โดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคพท. กล่าวว่า สาระสำคัญ 3 ประเด็น คือ 1.พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นพ้องต้องกันว่ารัฐสภาต้องจัดให้มีการประชุมเรื่องร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติเสียก่อน เมื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติเสร็จแล้ว จึงค่อยพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป 2.การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีรายละเอียด ดังนี้ 2.1 การแก้ไขรายมาตราในมาตรา 272 พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะยื่นญัตตินี้พร้อมกัน 2.2 การยื่นแก้ไขมาตรา 256 พรรคพท.จะเป็นผู้นำเสนอ โดยขอยืนยันหลักการเดิมที่เคยเสนอไป แต่พรรคพท.ไม่ปิดโอกาสที่จะให้พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นมาร่วมเสนอ และ 2.3 ประเด็นอื่นๆ เช่น สิทธิเสรีภาพของประชาชน ระบบการเลือกตั้ง และเรื่องอำนาจส.ว. รวมถึงการนิรโทษกรรมคสช. พรรคพท.จะเป็นผู้นำเสนอญัตติ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านใดจะร่วมเสนอก็ยินดี ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านจะร่วมกันเสนอญัตติต่อประธานสภาในวันที่ 16 มิถุนายนนี้

ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลพยายามลากยาวอำนาจ เพราะ ฉะนั้นพรรคก.ก.ไม่ต้องการมีส่วนร่วม หรือร่วมสังฆกรรมกับการแก้รายมาตราของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และหากเรียงลำดับความสำคัญของกฎหมายร่าง พ.ร.บ.ประชามติต้องมาก่อน เป้าหมาย และโจทย์ใหญ่ในการแก้รัฐธรรมนูญธรรมนูญครั้งนี้อยู่ที่ 250 ส.ว.ที่มีส่วนในการเลือกนายกฯ นี่คือจุดร่วมที่พรรคก.ก.เสนอมาตั้งแต่เป็นอนาคตใหม่ เราจึงจะลงชื่อร่วมเสนอเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆที่เป็นร่างตามลงมาก็มีส่วนที่สำคัญ แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดที่เราไม่อยากให้หลุดประเด็นไปคือเรื่อง 250 ส.ว. เราจึงเน้นเรื่องนี้ก่อน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวว่า ตนสนับสนุนหลักการในระบบรัฐสภา ซึ่งในวันที 22-23 มิถุนายนนี้ ที่ฝ่ายค้านได้รับการประสานงานจากเลขานุการของประธานรัฐสภาว่า จะนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามาพิจารณาก่อน โดยทางรัฐบาลขอเป็นวาระพิเศษ ตนเห็นว่า ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะรัฐธรรมนูญฉบับที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาครั้งนี้ ไม่ได้มีฉบับของรัฐบาลเลยแม้แต่ฉบับเดียว แต่เป็นฉบับของพรรคการเมืองหนึ่งเท่านั้น ตนจึงอยากขอร้องให้ประธานรัฐสภาทำหน้าที่ในการบรรจุวาระ ไม่มีเหตุผลใดๆเลยที่รัฐสภาจะนำเรื่องรัฐธรรมนูญเข้ามาพิจารณาก่อนเรื่องพ.ร.บ.ประชามติ ถ้ารัฐสภายอมให้เรื่องใดเรื่องหนึ่งถูกบรรจุเข้ามาเป็นวาระพิเศษได้แปลว่า รัฐบาลมีอำนาจเหนือรัฐสภา อยากให้ประธานวิปฝ่ายค้านประสานกับทางประธานรัฐสภาให้รักษาเกียรติของรัฐสภาไว้ก่อน นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนช่วยกันติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไขวิกฤติของประเทศชาติ ไม่ใช่แก้ไขปัญหาให้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก.ก. กล่าวว่า อยากย้ำว่า ทางเราเห็นว่า สิ่งที่ระบอบคสช.กำลังทำอยู่ ผ่านการเสนอแก้ไขรายมาตราที่นายไพบูลย์เสนอ หัวใจจริงๆเป้าหมายมีเพียง 2 เรื่อง คือ 1.ทำอย่างไรก็ได้ที่จะไม่ให้มีการเปิดช่องจนนำไปสู่การยกเลิกรัฐธรรมนูญ 60 แล้วให้ประชาชนมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และ 2.มีการสร้างเงื่อนไขต่างๆให้นายกฯคนต่อไปยังเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยหัวใจสำคัญที่เขาเสนอคือระบบการเลือกตั้งที่คิดว่าวันนี้ตัวเองได้เปรียบด้วยอำนาจรัฐ และอำนาจอิทธิพลต่างๆ และเปิดช่องให้ให้ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลสามารถเข้าไปเบียดบังงบประมาณแผ่นดิน และแทรกแซงข้าราชการเพื่อประโยชน์ทางการเมืองในอนาคตได้ ดังนั้น พรรคก.ก.ขอย้ำว่า การกำหนดวาระการประชุมร่วมของรัฐสภานี้ เป็นอำนาจเต็มของนายชวน หลีกภัย ประธานสภา เราไม่อยากเห็นว่า ประธานรัฐสภาไปจัดวาระการประชุมเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเมืองของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเพียงพรรคเดียว นี่คือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น และอธิบายไม่ได้