posttoday

พท. ติง รบ.หวังใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารปิดหู ปิดตาลิดรอนเสรีภาพตรวจสอบทุจริต

02 เมษายน 2564

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ติงรัฐบาล หวังใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ปิดหู ปิดตาลิดรอนเสรีภาพการตรวจสอบทุจริตซุกความไม่ชอบธรรม

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 64 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ และเตรียมส่งให้รัฐสภาพิจารณาว่า เป็นสัญญาณร้ายของรัฐบาลสืบทอดเผด็จการ ที่ต้องการปิดหูปิดตาประชาชน ไม่ให้เกิดการตรวจสอบการกระทำที่ไม่ชอบหรือการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐและเอกชน เหมือนกับที่เคยปิดปาก ปิดกั้นการแสดงออกของประชาชนได้สำเร็จ ด้วย พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ที่เพิ่มความเข้มข้นในการให้อำนาจกับเจ้าหน้าที่ในการจับกุมผู้เห็นต่างอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในเนื้อหาของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ เขียนด้วยภาษาที่สื่อความหมายกว้าง ๆ และครอบจักรวาล จงใจที่จะหวงแหนปกปิดข้อมูลฝ่ายความมั่นคงของรัฐ ด้านการทหารและการป้องกันประเทศ รวมทั้งข้อมูลในส่วนของภาคเอกชนโดยเฉพาะนายทุนที่ทำธุรกรรมกับรัฐ อาจจะถูกปกปิดและถูกปกป้องด้วย ทำให้หลังจากนี้ไปการตรวจสอบการทำธุรกิจของภาคเอกชนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับรัฐ อาจจะถูกเหมารวม และยากที่จะตรวจสอบ จึงอดคิดไม่ได้ว่าข้อมูลที่เคยอยู่ในกระแสวิพากย์วิจารณ์ในอดีต เช่น งบทหารในการจัดจ้างโครงการต่างๆ หรืองบจัดซื้ออาวุธ ที่มาจากเงินภาษีของประชาชน รวมถึงการประมูลโครงการของรัฐโดยกลุ่มนายทุน ที่อาจจะมีการเอื้อประโยชน์ต่อกัน จะถูกทำให้เป็นความลับและสุดท้ายจะถูกทำให้ผ่านไปพร้อมกับการสร้างความเสียหายให้กับประเทศ

นายชนินทร์ กล่าวว่า พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ที่เหมาะสม ควรจะคำนึงถึงกระบวนการเข้าถึงข้อมูลรัฐอย่างเสรี หรือ open data ที่จะส่งเสริมให้ประชาชนสามารถร่วมตรวจสอบกระบวนการบริหารงานต่างๆของภาครัฐได้ ช่วยลดงบประมาณส่วนเกินที่ไม่จำเป็น เพิ่มศักยภาพในการใช้งบประมาณ ลดโอกาสการคอร์รัปชั่น เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่การพัฒนาประเทศสูงที่สุดมากกว่า

“หากเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภา แล้วพรรคร่วมรัฐบาลยังร่วมสังฆกรรมกับกระบวนการฉ้อฉลนี้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการฯ คงกลายเป็นโซ่ตรวนพันธนาการอีกชั้น ลิดรอนเสรีภาพของคนไทยทั้งประเทศ ให้จมอยู่ในความไม่รู้ไม่เห็น และพูดอะไรไม่ได้อีกเลย” นายชนินทร์กล่าว