posttoday

เด็กเสรีรวมไทยเชื่อครบ7ปีรัฐประหารคนทุกสีเสื้อออกมาไล่ประยุทธ์

02 เมษายน 2564

“นภาพร”ชี้ “ระบอบประยุทธ์” แค่ทำให้ประชาชนมีชีวิตอยู่ได้ไปวัน ๆ ไม่มั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนตามคำโฆษณา เชื่อครบ7 ปีรัฐประหารคนทุกสีเสื้อออกมาขับไล่

น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงการประกาศสลายสีเสื้อรวมตัวกันขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ในวันที่ 4 เมษายนที่อนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35 ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่เหลืออดกับรัฐบาลชุดนี้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์อยู่มา 7 ปี นอกจากจะไม่มีอะไรดีขึ้น ยังมีแนวโน้มว่าสถานการณ์ต่าง ๆ กำลังย่ำแย่ลง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจปากท้องประชาชนที่มีแต่การกู้มาแจกและการใช้วาทกรรมประโลมโลก

“ระบอบประยุทธ์ ทำให้ประชาชนมีชีวิตอยู่ได้ไปวัน ๆ ด้วยการกู้เงินมาแจก ไม่มั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนอย่างที่โฆษณากัน จนTDRI ต้องออกมาเตือนถึงเงินกู้ที่มากกกว่าเงินลุงทุน การเก็บรายได้ที่ไม่เข้าเป้า ซึ่งถือเป็นสัญญาณอันตรายทางเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนว่าพล.อ.ประยุทธ์จะไม่เข้าใจอะไรเลย เพราะยังออกมาคุยโวว่าสถานะการเงินของไทยแข็งแกร่ง ซึ่งสวนทางกับกระทรวงการคลังที่เพิ่งออกมาเปิดเผยว่ารายได้ 5 เดือนติดลบถึงแสนล้านบาทและมีแนวโน้มจะต้องกู้เพิ่มอีก จึงน่าเป็นห่วงถึงอนาคตของลูกหลานที่จะต้องมาใช้หนี้สินที่ พล.อ.ประยุทธ์ทิ้งไว้ในวันข้างหน้า”น.ส.นภาพรกล่าว

น.ส.นภาพร กล่าวต่อว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ประกาศจะเปิดประเทศเร็ว ๆ นี้เริ่มจากเมืองท่องเที่ยวสำคัญเช่นที่ภูเก็ต แต่ปรากฎว่าการฉีดวัคซีนก็เป็นไปด้วยความล่าช้าเพราะบริหารจัดการไม่เป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ยังไม่เลิก แล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไหนจะมั่นใจว่าไทยปลอดภัยจริง เพราะสถานที่ที่ปลอดภัยจะต้องฉีดวัคซีนจนครบตามเกณฑ์เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และต้องไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรื่องแค่นี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังคิดไม่ได้ แล้วจะปล่อยให้บริหารประเทศต่อไปได้อย่างไร

“ไม่แปลกใจเลยที่ประชาชนสีเสื้อต่าง ๆ แม้จะเคยมีความบาดหมางในอดีตจะวางความขัดแย้งลงแล้วประกาศสลายสีเสื้อเพื่อรวมตัวกันออกมาขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเป็นต้นตอสำคัญของความขัดแย้งทั้งมวล โดยเชื่อว่ากระแสการต่อต้านจากประชาชนทุกสายจะไหลมารวมกันครั้งใหญ่ในวันที่ 22 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันครบรอบ 7 ปีรัฐประหาร หลังทุกฝ่ายเห็นพ้องกันแล้วว่าหากจะหยุดวิกฤตชาติจะต้องเริ่มต้นที่การหยุดระบอบประยุทธ์ให้ได้เสียก่อน”น.ส.นภาพรกล่าว