posttoday

ครป.วอนศาลรัฐธรรมนูญตัดสินตามหลักรัฐศาสตร์ ชี้อาจส่งผลวิกฤตบ้านเมือง

10 มีนาคม 2564

เลขา ครป.แนะศาลตัดสินตามหลักรัฐศาสตร์ เพราะอาจส่งผลต่อวิกฤตการเมือง ชี้อำนาจศาลทับซ้อนสภาฯ

วันที่ 10 มี.ค. เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติอำนาจสภาฯ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญระบุว่า

พรุ่งนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีและตีความอำนาจของรัฐสภาในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่ามีอำนาจหรือไม่ ซึ่งจะเป็นทางแพร่งประชาธิปไตยว่าประเทศไทยจะเดินไปทางไหนต่อ หรือกลับมาเริ่มต้นใหม่ในความขัดแย้งจากการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ และพวก ที่อยู่ในอำนาจมา 7 ปีแล้วและยังไม่ยอมออกจากอำนาจ ไม่ว่าประเทศไทยจะมีการปฏิรูปอะไรชัดเจนหรือไม่ก็ตาม  โดยใช้รัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจนี้อยู่ในอำนาจต่อไปอย่างน้อยอีกสมัย ตามสูตร 5+4+4 ปี = 13 ปี

เพื่อแก้วิกฤตประชาธิปไตย ผมขอให้ตุลากาลศาลรัฐธรรมนูญโปรดใช้หลักรัฐศาสตร์ในการวินิจฉัยอนาคตประเทศไทยในการตีความอำนาจของรัฐสภา เนื่องจากมติของศาลรัฐธรรมนูญอาจจะส่งผลถึงรูปแบบการเมืองการปกครองและวิกฤตประชาธิปไตยที่จะเกิดขึ้น ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้การเมืองไทยได้เดินหน้าต่อไป หรือนำไปสู่วิกฤตการณ์ความขัดแย้ง เนื่องจากในระบอบประชาธิปไตยโดยรัฐสภา อำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญของปวงชนชาวไทย เป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นอำนาจของรัฐสภาอยู่แล้ว มิใช่องค์กรอิสระองค์กรอื่นใด โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งควรมีอำนาจในการวินิจฉัยการตีความเพียงในรายมาตราที่เห็นต่างกัน

ความผิดพลาดของรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2540 คือการให้มีองค์กรอิสระโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญนี่เอง เนื่องจากไปทับซ้อนกับอำนาจของรัฐสภาโดยตรงที่เป็นสภาของผู้แทนของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง

หากศาลรัฐธรรมนูญเลือกหนทางที่รัฐบาลวางไว้ คือให้แก้ไขได้เฉพาะรายมาตราเท่านั้น กระบวนการทั้งหมดที่ผ่านมาจะกลายเป็นเพียงละครการเมืองหลอกลวงประชาชนเท่านั้น เพื่อคอร์รัปชันเวลาและสืบทอดอำนาจของระบอบประยุทธ์ต่อไป ซึ่งรัฐบาลต้องการแก้ไขบางมาตราที่ได้ประโยชน์แล้วยุบสภาเลือกตั้งใหม่ โดยที่อำนาจ ส.ว.ยังคงมีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี