posttoday

"สุเทพ-39 กปปส."ลุ้น! ศาลอาญานัดตัดสินคดีกบฎล้ม"รบ.ยิ่งลักษณ์" พรุ่งนี้

23 กุมภาพันธ์ 2564

ศาลอาญา นัดพิพากษาคดี "เทพเทือก-39 กปปส." ร่วมกบฎชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พรุ่งนี้ 24 ก.พ. เตรียมพร้อมห้องขนาดใหญ่รองรับ -มาตรการปลอดภัยโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.) เวลา 09.00 น.ศาลอาญา รัชดาภิเษก กำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดีกล่าวหา แกนนำ กปปส. และแนวร่วม รวม 39 คน ร่วมกันกบฏ กรณี กลุ่ม กปปส.ที่นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้จัดชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ช่วงปี 2556-2557 ที่มีการชัตดาวน์กรุงเทพฯ

โดยเลขานุการศาลอาญา เปิดเผยว่า ศาลอาญา มีความพร้อมสำหรับการอ่านคำพิพากษาคดี กปปส. โดยใช้ห้องพิจารณา 704 ซึ่งเป็นห้องพิจารณาใหญ่ที่สุดของศาล สามารถรองรับจำนวนคนได้นับร้อยคน อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ก็ต้องจัดที่นั่งเว้นระห่าง โดยบริเวณประตูทางเข้าอาคารศาลอาญาจะมีเจ้าหน้าที่ ใช้อุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิ ซึ่งมีเจลแอลกอร์ฮอล์ล้างมือไว้บริการด้วย และขอความร่วมมือให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย สำหรับการรักษาความเรียบร้อยภายในบริเวณศาลจะมีเจ้าพนักงานตำรวจศาล (คอร์ทมาแชล หรือ Court Marshal), เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.พหลโยธิน, รปภ.ศาล คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเครื่องสแกนตรวจค้นอาวุธ วัตถุระเบิดและสิ่งผิดกฎหมาย บริเวณประตูทางเข้าอาคารศาลด้วย

ผู้ข่าวรายงานอีกว่า สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อายุ 71 ปีเศษ อดีตเลขาธิการ กปปส. ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และยังเป็นประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) กับพวกรวม 39 คน ซึ่งทยอยยื่นฟ้องแยกสำนวนเป็นกลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.61 โดยทั้งหมดยื่นฟ้อง 8 ข้อหาเช่นเดียวกันฐานร่วมกันกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดที่ไม่ใช่การกระทำในความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ, อั้งยี่, ซ่องโจร, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ, เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกการกระทำนั้นแต่ไม่เลิก, ยุยงให้ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างเพื่อบังคับรัฐบาล, ร่วมกันบุกรุก, สนับสนุนกบฏ, ขัดขวางการเลือกตั้งฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 117, 209, 210, 215, 216, 362, 364, 365, พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 76, 152

ขณะที่นายสุเทพ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับ นายชุมพล จุลใส ถูกฟ้องเพิ่มอีกข้อหาฐานก่อการร้าย ตามมาตรา 135/1 ด้วย ซึ่งจำเลยทั้งหมดต่อสู้คดีโดยให้การปฏิเสธ

โดยคดีนี้กล่าวหาว่า เมื่อระหว่างวันที่ 23 พ.ย. 56 – 1 พ.ค.57 กปปส.ที่มีนายสุเทพ เป็นผู้นำการชุมนุม ได้ร่วมชุมนุมกันเพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการพาผู้ชุมนุมบุกรุกปิดสถานที่ราชการหลายแห่ง รวมทั้งขัดขวางการเลือกตั้ง ซึ่งท้ายคำฟ้องอัยการโจทก์ยังได้ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของจำเลยด้วยมีกำหนด 5 ปี

ขณะที่ชั้นพิจารณาได้มีการขอรวมสำนวนพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน เนื่องจากพยานหลักฐานชุดเดียวกัน ซึ่งศาลรวมสำนวนพิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ อ.247/2561 ส่วนจำเลยทั้งหมดได้รับการประกันตัวคนละ 600,000 บาท พร้อมเงื่อนไขห้ามออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ซึ่งคดีแกนนำ กปปส.นี้ เริ่มสืบพยานนัดแรก เมื่อวันที่ 14 พ.ค.62 ที่ผ่านมา โดยศาลกำหนดให้สืบพยานแบบต่อเนื่องทุกสัปดาห์

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับกลุ่ม กปปส.นั้นก่อนหน้านี้เมื่อปี 2562 ศาลอาญา ได้มีคำพิพากษาแกนนำกปปสชุดแรกจำนวน 4 คนไปแล้ว ประกอบด้วย นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม อายุ 58 ปีเศษ, นายสกลธี ภัททิยกุล อายุ 43 ปีเศษ (อดีต ส.ส.กทม.ขณะร่วมชุมนุม) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม., นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อายุ 69 ปีเศษ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และอดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง และสภาปฏิรูปการเมือง (สปช.), นายเสรี วงศ์มณฑา" อายุ 71 ปี เศษ นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาดโดยมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ก.ค.62 ให้ยกฟ้องซึ่งคดีขณะนี้ รอฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ในวันที่ 6 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.