posttoday

ดอน” แจงปม ตปท.ไม่ยอมรับ เผย“บิ๊กตู่”ห่วงภาพพจน์คนไทย

16 กุมภาพันธ์ 2564

รมว.ต่างประเทศ ป้องนายกฯ ยัน ต่างประเทศยอมรับทั่วโลก ชี้มีองค์ประกอบอื่นสำคัญกว่ากองเกียรติยศต้อนรับ

วันที่ 16 ก.พ. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ ชี้แจงแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กรณีที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่า นายกฯ ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ว่า ถ้าไม่มีเลยคงอยู่มาไม่ถึง 6 ปี จนวันนี้ ทั้ง 6 ปีที่ได้สัมผัสกับต่างประเทศของนายกฯ มีหลากหลายมาก หลักๆ คือ เรื่องการขอเปิดประตู ให้นายกฯ ไปเยือน แล้วเราก็เปิดประตูบ้านให้เขามาหา โดย 2 หลักใหญ่นั้น มี 27 ประเทศด้วยกันที่เปิดประตูให้นายกฯไป ซึ่งก็ไปมา 70 กว่าครั้ง ไปเยือนอย่างเป็นทางการและเป็นการไปทำงาน ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกครั้งจะต้องมีกองเกียรติยศมาต้อนรับตามที่กล่าวหา เพราะการมีกองเกียรติยศอยู่ที่หลักการทูตของแต่ละประเทศว่าจะให้กันแค่ไหนอย่างไร เช่น ฝรั่งเศส และจีน ที่มีกองเกียรติยศมาต้อนรับ แต่องค์ประกอบสำคัญที่จะกำหนดว่าเป็นการให้การต้อนรับ คือ ขบวนรถ รถนำ และการคุ้มกัน ซึ่งทุกครั้งที่ไปเยือนก็ครบองค์ประกอบเหล่านี้ทุกครั้งไป

นายดอน กล่าวต่อว่า ในการที่ประเทศอื่นๆ มาร่วมประชุมที่ประเทศไทย ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา เมื่อเราไปชวนให้เขามา ก็มากันมากมาย ทั้งประธานาธิบดีและนายกฯ แต่ที่มากกว่านั้นคือระดับรัฐมนตรีมีหลายร้อยครั้ง ระดับเจ้าหน้าอาวุโสก็มีร่วมเป็นพันครั้ง นี่คือการยอมรับในการต่างประเทศของนายกฯ พื้นฐานที่สำคัญคือ เรื่องการเชิญนั้นไม่ใช่นึกอยากจะไปก็ไปกันเอง แต่ต้องมีการเชิญที่เป็นหลักเป็นฐาน ทั้งสหรัฐฯ เยอรมนี อังกฤษ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

นายดอน กล่าวอีกว่า เรื่องการได้รับการยอมรับเมื่อปี 2560 สหภาพยุโรปหรืออียู ได้ออกแถลงการณ์ปรับความสัมพันธ์กับประเทศไทยให้เป็นปกติ ถือเป็นการยอมรับของ 28 ประเทศที่เป็นสมาชิก นี่คือความสำเร็จด้านการต่างประเทศที่ได้รับจากนานาประเทศ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการจัดลำดับผลงานของสื่อต่างประเทศและสถาบันต่างๆ เช่น ธนาคารโลก และสำนักข่าวบลูมเบิร์ก มีรายงานว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความทุกข์ยากน้อยที่สุด คือเป็นประเทศหนึ่งที่มีความสุขมากที่สุดจาก 60 ประเทศทั่วโลก และเป็นประเทศที่มีระบบสุขภาพที่ดีเป็นอันดับ 9 จาก 57 ประเทศ ซึ่งทุกครั้งนายกฯ จะกล่าวถึงการทำงานของท่านว่า ได้ทำงานอย่างระมัดระวังอย่างที่สุดเพื่อประโยชน์ของประเทศไทย โดยนายกฯ มีสิ่งหนึ่งที่ทิ้งท้ายไว้เสมอเวลาที่สั่งงานเราคือการไปประชุมหรือกิจกรรมใดจะต้องหาคำตอบให้ได้ว่าประชาชนได้อะไรจากกิจกรรมเหล่านั้น ผลประโยชน์ของประชาชนมีอะไรบ้าง นั่นคือการบ้านที่เราจะต้องคำนึงถึงตลอดเวลา แต่สิ่งที่นายกฯ ระมัดระวังเสมอคือภาพพจน์ของคนไทย เพราะทุกครั้งที่ไปก็จะชี้แจงในเวทีโลกจะไม่เกินเวลาประเทศไทยไม่เคยถูกกดออดไล่ให้หยุดพูด ขณะเดียวกันการนั่งฟังการประชุมก็ไม่ลุกไปไหน