posttoday

"ไทยภักดี"ยื่นศาลรธน.เบรกแก้รธน.

03 ธันวาคม 2563

กลุ่มไทยภักดี ยื่นศาลรธน. เบรกแก้รัฐธรรมนูญ ชี้ตั้ง ส.ส.ร. ร่างใหม่ทั้งฉบับ เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 63 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี พร้อมด้วย นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว โฆษกไทยภักดี นำเอกสารหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีล้มล้างการปกครอง ด้วยการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ

นพ.วรงค์ กล่าวว่า เหตุผลในการยื่นที่ทางกลุ่ม มองว่า ล้มล้างการปกครองนั้น เพราะ 1.การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้สิทธิตาม ม.256 โดยแก้ไขให้การแก้รัฐธรรมนูญง่ายขึ้น ซึ่งปกติ รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดสัดส่วนการลงมติด้วย สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แต่การแก้ไขครั้งนี้ตัดสิทธิ์ออก จึงทำให้ขาดการมีส่วนร่วมของสมาชิกรัฐสภา และมีการยกเลิกการทำประชามติในมาตรสำคัญ จึงมองว่ากระบวนการตัดสิทธิ์เหล่านี้ เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง 2.การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการร่างใหม่ทั้งฉบับ ทำให้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 10 ฉบับต้องถูกยกเลิก รวมถึง ส.ส. และ ส.ว. ศาลและองค์กรอิสระตามรัฐธรรม ก็ต้องถูกยกเลิกด้วย จะส่งผลให้คดีต่างๆ อาจหลุดพ้นความผิด เพราะข้ออ้างกฎหมายที่ใช้บังคับถูกยกเลิก 3. การตั้ง ส.ส.ร.เพื่อยกร่างฉบับใหม่ไม่ได้กำหนด ถือว่า ผู้กระทำการมีเจตนาที่ขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย 4.เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ผ่านการทำประชามติ การที่จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจได้ลงประชามติก่อนว่า สมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

ทั้ง 4 เหตุผลที่กล่าวมา จึงเป็นเหตุผลที่เพียงพอว่า ขณะนี้มีการกระทำที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งการ ให้ประธานรัฐสภาระงับการบรรจุวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 และ3 ขอให้ผู้ถูกร้อง คือ ร่างของ ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ร่างของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ถอนระเบียบวาระออกจากที่ประชุมรัฐสภา และขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนมติในชั้นรับหลักการ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่มีมติรับหลักการทั้งสองฉบับ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลว่า จะรับคำร้องหรือไม่ และจะมีการพิจารณาอย่างไร