posttoday

'นิวยอร์ก' คุมโซเชียล บังคับขึ้นคำเตือนอันตรายต่อสุขภาพจิตเยาวชน

28 ธันวาคม 2568

นิวยอร์กออกกฎหมายใหม่ บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีฟีเจอร์เสี่ยงต่อการเสพติด ติดคำเตือนต่อสุขภาพจิตเด็กและเยาวชน เหมือนป้ายเตือนบุหรี่!

KEY

POINTS

  • รัฐนิวยอร์กออกกฎหมายใหม่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องแสดงป้ายคำเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพจิตของเยาวชน
  • กฎหมายมุ่งเป้าไปที่ฟีเจอร์ที่ก่อให้เกิดการเสพติด เช่น ฟีดที่ขับเคลื่อนด้วยอัลกอริทึม การเล่นอัตโนมัติ และการเลื่อนฟีดแบบไม่สิ้นสุด
  • อัยการสูงสุดของรัฐมีอำนาจดำเนินคดีและเรียกค่าปรับทางแพ่งได้สูงสุด 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อการละเมิดหนึ่งครั้ง

แคที โฮชูล (Kathy Hochul) ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ธันวาคม 2568) ระบุให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีฟีเจอร์เลื่อนฟีดอัตโนมัติ และฟีดที่ขับเคลื่อนด้วยอัลกอริทึม จะถูกบังคับให้แสดงป้ายคำเตือนเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพจิตของเยาวชน ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ของรัฐนิวยอร์ก

โดยกล่าวว่าเป็นการปกป้องเด็กและเยาวชนจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากฟีเจอร์ของโซเชียลมีเดียที่กระตุ้นให้ใช้งานมากเกินไป

 

 

กฎหมายดังกล่าวออกมาในช่วงเดียวกับที่ 'ออสเตรเลีย' ออกมาตรการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งนิวยอร์กเป็นรัฐที่ 3 ที่ใช้กฎหมายควบคุมดังกล่าวต่อจากแคลิฟอร์เนีย และ มินนิโซตา ที่มีกฎหมายในลักษณะใกล้เคียงกัน

ทั้งนี้กฎหมายของรัฐนิวยอร์กระบุว่า แพลตฟอร์มที่มีฟีดเสพติด (addictive feeds) ระบบเล่นอัตโนมัติ หรือการเลื่อนฟีดแบบไม่สิ้นสุด จะอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว โดยกฎหมายครอบคลุมพฤติกรรมที่เกิดขึ้นทั้งหมดหรือบางส่วนภายในรัฐนิวยอร์ก แต่ไม่ครอบคลุมกรณีที่ผู้ใช้งานอยู่นอกเขตรัฐ

 

ที่สำคัญคือ กฎหมายเปิดทางให้อัยการสูงสุดของรัฐสามารถดำเนินคดีและเรียกค่าปรับทางแพ่งได้ สูงสุดถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.6 แสนบาทต่อการละเมิดหนึ่งครั้ง

 

สำหรับการเตือนที่ระบุไว้นั้นจะมีลักษณะเหมือนป้ายเตือนบนโซเชียลมีเดียกับคำเตือนบนผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น บุหรี่ ที่เตือนความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง หรือ บรรจุภัณฑ์พลาสติก ที่เตือนความเสี่ยงต่อการขาดอากาศหายใจของเด็กเล็ก

 

ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ด้านบริษัทโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้องอย่าง TikTok, Snap, Meta และ Alphabet ยังไม่ตอบคำขอแสดงความคิดเห็นในทันที

 

ผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตเด็กและเยาวชนกำลังกลายเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความกังวลมากขึ้น โดยเขตการศึกษาในสหรัฐฯ หลายแห่งได้ยื่นฟ้องบริษัทเมตาและบริษัทโซเชียลมีเดียรายอื่นๆ

 

ในขณะเดียวกันสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ในปี 2023 ศัลยแพทย์ใหญ่ของสหรัฐฯ (U.S. Surgeon General) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็กจากโซเชียลมีเดีย และต่อมาเรียกร้องให้มี ป้ายคำเตือนบนโซเชียลมีเดีย เช่นเดียวกับที่รัฐนิวยอร์กกำหนดในครั้งนี้

สำหรับคำเตือนดังกล่าวอธิบายว่า วัยเด็กและวัยรุ่นเป็นช่วงที่สมองโดยเฉพาะส่วนที่ควบคุมอารมณ์ การตัดสินใจ และการเห็นคุณค่าตนเอง ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ฟีเจอร์ของโซเชียลมีเดีย เช่น การเลื่อนฟีดไม่สิ้นสุด (infinite scroll) ระบบแนะนำคอนเทนต์ด้วยอัลกอริทึม และการเล่นวิดีโออัตโนมัติ (auto-play) ถูกออกแบบมาเพื่อดึงความสนใจให้อยู่กับหน้าจอให้นานที่สุด ซึ่งอาจรบกวนการนอน เพิ่มความวิตกกังวล กระทบภาพลักษณ์ร่างกาย และเชื่อมโยงกับอาการซึมเศร้าในวัยรุ่นบางกลุ่ม

หนึ่งในประโยคที่ถูกอ้างถึงมากที่สุดจากศัลยแพทย์ใหญ่ คือ การเปรียบโซเชียลมีเดียกับบุหรี่ในยุคที่ยังไม่มีป้ายเตือนสุขภาพ
ไม่ใช่เพราะทั้งสองเหมือนกันในเชิงกายภาพ แต่เพราะ ผู้ใช้จำนวนมากไม่รู้ความเสี่ยงที่แท้จริงในระยะยาว และเด็กไม่ใช่กลุ่มที่สามารถตัดสินใจได้อย่างรอบด้านด้วยตัวเอง

ข่าวล่าสุด

'นิวยอร์ก' คุมโซเชียล บังคับขึ้นคำเตือนอันตรายต่อสุขภาพจิตเยาวชน