posttoday

นายกฯชี้คนไทยหลายสิบล้านไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงแบบ "วุ่นวาย-อลหม่าน"

26 ตุลาคม 2563

"บิ๊กตู่" แจงสถานการณ์ประเทศ รับปากพร้อมเดินหน้าสู่อนาคต แต่ต้องไม่ลืมรากเหง้า-อดีตไทย ชี้หลายสิบล้านคนไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงแบบวุ่นวาย-อลหม่าน ยันดูแลม็อบ ยึดกฎหมาย ผ่อนปรน ป้องกันพวกฉวยโอกาส

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กล่าวชี้แจงในการเปิดประชุมร่วมรัฐสภา โดยมีเนื้อหาสรุปดังนี้

-ขณะนี้มีปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ครม.จึงมีมติรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภา ตามมาตรา 165

-ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 มีผู้ป่วย เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทั่วโลก ไทยสามารถควบคุมได้เป็นที่น่าพอใจ ขณะเดียวกันมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายได้ที่สำคัญ เพื่อช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่หนักหนาสาหัส รัฐบาลกำลังหามาตรการในการผ่อนปรนเพื่อให้มีผลทั้งด้านสุขภาพ และเศรษฐกิจไปพร้อมกัน

-สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้นทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด มีการแออัด ประชิดตัวอยู่บ่อยครั้ง ก็อาจมีปัญหาด้านสุขภาพ และยังมีปัญหาอุทกภัยที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก

-ในสถานการณ์เช่นนี้รัฐบาลต้องระมัดระวังในการเดินหน้าบริหารราชการแผ่นดิน จะเดินหน้าลดปัญหาความขัดแย้งต่างๆได้อย่างไร เดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างไร หลายอย่างมีความก้าวหน้าดีขึ้นตามลำดับ วันนี้ต้องสร้างความเชื่อมั่นทั้งใน และต่างประเทศด้วย

-สำหรับสถานการณ์ชุมนุมที่มีต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น การชุมนุมมีการพักค้างคืนบ้าง มีการกำหนดเวลาอยู่บ้าง ส่อให้เห็นว่าอาจจะมีความยืดเยื้อ รัฐบาลเกรงว่าอาจมีความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ พ.ศ.2558 อาจมีผู้ฉวยโอกาสเข้ามาแทรกซึมทำให้เกิดความวุ่นวายได้

-เหตุการณ์ในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ประเทศมาแล้วก่อนปี 2557 เพราะฉะนั้นรัฐบาลจึงอาศัยอำนาจออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กทม. ตั้งแต่เมื่อวันที่15 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ต่อมารัฐบาลได้ประกาศยกเลิกสถานการณ์ดังกล่าวไปแล้ว

-เจ้าหน้าที่ได้พยายามดูแลสถานการณ์ให้ดีที่สุด มีการใช้กฎหมายทุกประการในลักษณะที่อะลุ่มอล่วย ผ่อนผันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการห้ามปราม เตือน หยุดยั้ง ชี้แจงข้อกฎหมายต่างๆ แต่การชุมนุมได้มีการขยายตัวไปอย่างต่อเนื่อง

-เราพยายามหยุดยั้งการชุมนุมที่แม้ว่าจะมีเสรีภาพได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 44 วรรคแรก แต่การใช้อำนาจหน้าที่ของรัฐในการควบคุมการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ได้รับข้อยกเว้นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 วรรคสอง

-วันนี้มีการชุมนุมเกือบทุกวัน ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัยมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญคือ 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม และข้อเรียกร้องให้ปล่อยผู้ถูกควบคุมตัว ผมทราบดี หลายเรื่องอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่แล้ว หลายครั้งแม้การชุมนุมจะเรียบร้อย แต่มีบางแห่งมีความรุนแรงเกิดขึ้น ปฏิบัติในสิ่งที่ไม่สมควร ผมก็เป็นห่วงตรงนี้ รัฐบาลก็เห็นชอบร่วมกัน จนเกิดการประชุมในวันนี้ เราไม่อยากให้เกิดการปะทะกัน เกิดการจลาจลในบ้านเมือง รัฐบาลพยายามรักษาสิทธิของคนไทยทุกคนทั้งประเทศ

-เชื่อว่าทุกคนรักชาติ รักวัฒนธรรม รักรากเหง้า และคุณค่าความเป็นไทย ขณะเดียวกันเรารู้ว่าเราต้องการอนาคตที่ดี และการรักในรากเหง้าของประเทศ เราต้องไม่ทำลายอดีตที่มีคุณค่าสำหรับเรา เพื่อที่จะได้สังคมที่แข็งแรง สังคมที่มีรากเหง้า ที่หยั่งรากลึกเข้าไปในหัวใจของคนไทยทุกคน และมีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

-ในนามรัฐบาล ทราบดีว่าทุกอย่างอาจต้องเปลี่ยนไปตามโลก แห่งปัจจุบัน โลกแห่งเทคโนโลยี ดิจิทัล แต่เราต้องยอมรับว่าประชาชนในประเทศไทยจำนวนหลายสิบล้านคนไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่เกิดความวุ่นวาย สับสนอลหม่าน ทุกคนมีความเชื่อของตัวเอง เขาเห็น เขาเชื่อมาตลอดชีวิตของเขา เพราะฉะนั้นเราต้องมีความสมดุลระหว่างความต้องการตัวเอง และความต้องการของคนอื่นๆ ในสังคมอย่างสร้างสรรค์

-ผมหวังว่าจะใช้โอกาส 2 วันนี้ในรัฐสภาปรึกษาหารือ ท่ามกลางสภาวการณ์ที่จะมีการหยิบยกหลายเรื่องขึ้นมาหารือกัน จะต้องรวบรวมสติปัญญาทั้งหมดที่มี ความคิด ความสามารถ และหัวใจทุกคน รวมทั้งเลือดรักชาติทุกหยดในตัวของพวกเรา ร่วมกันคิดทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทำให้ประเทศเดินหน้าไปอย่างแข็งแรง มั่นคง ยั่งยืน ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์กับคนไทยในระยะยาว เพื่อนำพาประเทศไปพร้อมกับอนาคตที่ดี แต่ก็ต้องปกป้องอดีตอันมีคุณค่าไว้ด้วย

-รัฐบาลจึงเห็นสมควรฟังความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน หากสมาชิกรัฐสภามีข้อเสนอใดที่นำมาปฏิบัติได้ เป็นประโยชน์ และไม่ก่อให้เกิดปัญหาใหม่แทรกซ้อนตามมา รัฐบาลจะรับไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ผมเชื่อว่าพื้นฐานสังคมไทยคือการเป็นห่วงใยซึ่งกันและกัน เมื่อเราทำแบบนั้นได้ การเป็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวเดียวกันครอบครัวประเทศไทย แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกันบ้างแต่เราก็ยังจะรักกันได้ตลอดไป