posttoday

รมว.ดีอีเอสรับคำสั่งระงับออกอากาศสื่อเป็นของจริง เตรียมฟ้องสถานีข่าว 2-3 ราย

19 ตุลาคม 2563

รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยอมรับคำสั่งระงับออกอากาศสื่อของหัวหน้าผู้รับผิดชอบแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นของจริง เตรียมดำเนินคดีเพจสถานีข่าว 2-3 ราย

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 63 เพจเฟซบุ๊กจุลสารราชดำเนิน ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เผยแพร่ คำสั่งพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ 4/2563 เรื่อง ให้ตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการที่มีลักษณะตามข้อ 2 ของข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

เนื้อหาตอนหนึ่งของคำสั่งระบุว่า เนื่องจากปรากฏว่าได้มีการออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนทางโทรทัสน์ด้วยการนำเสนอเนื้อหารายการบางส่วนของ วอยซ์ทีวี และ/ หรือสื่อสังคมออนไลน์ อันได้แก่ 1. Voice TV 2. ประชาไท 3. The reporter 4. THE STANDARD 5. เยาวชนปลดแอก Free YOUTH

โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ดีอีเอส) ดำเนินการเพื่อตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศหรือระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์แล้วแต่กรณีตามหน้าที่และอำนาจ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2563

ด้าน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ยอมรับว่าเอกสารคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) ให้ตรวจสอบสำนักข่าวออนไลน์ ระงับการออกอากาศ เผยแพร่ และลบข้อมูลบางส่วน โดยอ้างกระทบความมั่นคงของรัฐที่มีการเผยแพร่ออกมานั้นเป็นของจริง แต่ไม่ใช่ทุกราย และจะต้องดูว่าบังคับใช้กับใครบ้าง

ส่วนกรณีที่ตำรวจประสานงานให้ตรวจสอบและปิดเว็บไซต์ข่าว และช่องทางในการนัดหมายชุมนุมนั้น นายพุทธิพงษ์ ระบุว่า ในการแจ้งความดำเนินคดี จะมีสำนักข่าวที่เข้าข่ายความผิดด้วย แต่จะถึงขั้นปิดหรือไม่ต้องตรวจสอบตามขั้นตอน ซึ่งหากมีคำสั่งศาลให้ปิดก็จะประสานให้ปิดทันที

ส่วนสื่อดิจิทัลก็จะประสาน กสทช. ขณะที่สื่อออนไลน์ที่รายงานสถานการณ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียก็จะตักเตือนก่อน และจะดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นมีประมาณ 2-3 ราย ที่ใช้แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กออกอากาศ และเป็นสถานีข่าว

"วันนี้มีประมาณ 2-3 ราย มีทั้งใช้แพลตฟอร์ม Facebook ในการออกเป็นข่าว เป็นช่องสถานีข่าวเลย และมีการเก็บหลักฐานไว้ เมื่อเข้าฐานความผิด เราก็ส่งทั้งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และส่งดำเนินคดีวันนี้" นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้านี้ได้มีการประชุมจากกรณีที่พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่มีคำสั่งให้กสทช. และ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำเนินการเพื่อตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการ หรือระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หลังจากมีการออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง

ทั้งนี้ หลังการประชุมเสร็จสิ้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะเป็นผู้แถลงข่าว

รมว.ดีอีเอสรับคำสั่งระงับออกอากาศสื่อเป็นของจริง เตรียมฟ้องสถานีข่าว 2-3 ราย