posttoday

กอร.ฉ.เพิ่มมาตรการเข้มข้นรับมือม็อบชุมนุม ปิด 3 เส้นทางรอบแยกราชประสงค์

16 ตุลาคม 2563

กอร.ฉ. เพิ่มมาตรการบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นขึ้น ปิดการจราจร 3 เส้นทางรอบแยกราชประสงค์ 14.00 น.วันนี้ รับมือม็อบชุมนุม

เมื่อวันที่ 16 ตค.63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงภายหลังการประชุม กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) ว่า จะมีการปิด 3 เส้นทางรอบแยกราชประสงค์ ในเวลา 14.00 น. วันนี้ เพื่อรักษาความสงบและจัดระเบียบผู้เดินทางทั่วไปและกลุ่มผู้ชุมนุม ได้แก่ ถ.ราชดำริ (แยกราชดำริ ถึงแยกประตูน้ำ) ถ.พระราม 1 (แยกเฉลิมเผ่า ถึง แยกราชประสงค์)และถ.เพลินจิต (แยกราชประสงค์-แยกชิดลม) พร้อมแนะใช้ 12 เส้นทางเลี่ยงการเดินทาง ประกอบด้วย ถ.ราชปรารภ ถ.เพชรบุรี ถ.พญาไท ถ.พระราม 4 ถ.อังรีดูนังต์ ถ.สารสิน ถ.สีลม ถ.สาทร ถ.วิทยุ ถ.สุขุมวิท ซอยต้นสน และถ.หลังสวน

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า สำหรับห้างสรรพสินค้าในบริเวณแยกราชประสงค์ ขณะนี้ยังเปิดตามปกติ แต่เนื่องจากต้องปิดการจราจร ด้านถ.ราชดำริ จึงขอแนะนำเส้นทางเลี่ยง สามารถเข้า-ออกได้ ด้านถ.พระราม 1 และ ถ.พญาไท ใช้ได้ตามปกติ

กอร.ฉ.เพิ่มมาตรการเข้มข้นรับมือม็อบชุมนุม ปิด 3 เส้นทางรอบแยกราชประสงค์

ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. กล่าวว่า ขอชี้แจงให้ประชาชนทำความเข้าใจ ประการที่ 1. พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตาม ม.9 และ 11 เนื้อหาใจความสำคัญคือ ห้ามมีการจับกลุ่มมั่วสุมชุมนุมตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพฯ ห้ามมีการเสนอข่าวจำหน่ายทำให้แพร่หลายสิ่งพิมพ์ หรือสิ่งอื่นใดทั้งข้อมูลอิเล็คทรอนิคส์ทำให้เกิดความหวาดกลัว ยุงยงส่งเสริมให้เกิดการชุมนุมหรือความรุนแรงในสถานการณ์ ห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะ โดยเฉพาะช่วงเย็นวานนี้ (15 ต.ค.) ยังมีการฝ่าฝืนกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ด้วยความเรียบร้อย ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการใช้กฎหมายแบบเต็มรูปแบบ

ประการที่ 2.การควบคุมสถานที่ที่คาดว่าจะมีการชุมนุม ขัดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในวันนี้เราได้มีการควบคุมพื้นที่การจราจรบางเส้นทางเพื่อป้องกันเหตุตามข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เผยต่อว่า ส่วนประการที่3.คือการใช้สื่อโซเชี่ยล หรือสื่ออิเล็คทรอนิคก์ ต้องระมัดระวังอาจตกเป็นผู้กระทำความผิดได้ โดย พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง บผก.ปอท.ได้ขยายความว่า การโพสต์หรือการส่งต่อข้อมูลสามารถทำได้เพียงปลายมือ เมื่อมีข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฝากไปยังประชาชน นักเรียนนักศึกษา โดยเฉพาะข้อ 2.ห้ามเสนอข่าวจำหน่ายหรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือสิ่งพิมพ์และสื่ออื่นใดตลอดทั้งข้อมูลอิเล็กทรอนิคก์ที่อาจมีข้อความทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดีของประชาชนทั่วราชอาณาจัก เพราะฉะนั้นการแสดงความคิดเห็นการส่งต่อข้อมูล หรือแสดงความคิดเห็นเข้าข่ายการกระทำความผิดเรื่องความั่นคงอาจถูกดำเนินคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อัตราโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท นอกจากนั้นกฎหมายที่มีอยู่แล้ว พ.ร.บ.คอมฯฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 นำเข้าข้อมูลที่มีลักษณะเป็นความผิดต่อความมั่นคงต่อราชอาณาจักอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100.000 บาท การแสดงความคิดเห็น การโพสต์ขอให้ใช้วิจารณญาณเป็นพิเศษ ฝากความห่วงใยไปยังผู้ปกครองดูแลบุตรหลานที่อาจเข้าถึงสื่อและแสดงความคิดเห็นอาจผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวด้วยว่า ขอส่งสารไปยังใครก็ตามที่พยายามจะจับกลุ่มเพื่อดำเนินการชุมนุม ตำรวจทำตามหน้าที่ ปฏิบัติตามกฎหมายที่ออกมาห้วงเวลาเฉพาะ จะจัดการชุมนุมไม่ได้โดยเด็ดขาด เราจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหากพบการกระทำความผิด ตามหลักสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล มั่นใจว่าความรุนแรงไม่เกิดขึ้นถ้ามีการเคารพกติกา ต่อไปนี้มาตรการบังคับบใช้กฎหมายจะเข้มข้นขึ้นเพื่อไม่ให้มีการชุมนุมและความรุนแรงเกิดขึ้น แต่การบังคับใช้กฎหมายกับการชุมนุมไม่เหมือนกับการบังคับบใช้กฎหมายคดีอาญาทั่วไป เพราะผู้มาชุมนุมมีทั้งเยาวชน การบังคับใช้กฎหมายต้องดูสภาพแวดล้อมเป็นหลัก ต้องดูความจำเป็นผลที่จะได้ตามมา แต่ยืนยันว่าจัดการชุมนุมไม่ได้อย่างเด็ดขาด หลังจากนี้จะส่งข้อมูล ข้อความทั้งหมด ไป ให้กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยร่วมปฎิบัติในกอร.ฉ. ให้สื่อสารไปยังสถานทูตทุกแห่ง ชาวต่างชาติ ที่อาศัยอยู่รอบๆ บริเวณ ให้เข้าใจหลักการเหตุผล ความจำเป็น และการใช้เส้นทางจราจรในช่วงนี้