posttoday

"ชวน" รับ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกขัดรธน. มีผลผูกพันกมธ.-ส.ส.-ส.ว.

08 ตุลาคม 2563

ประธานรัฐสภา ชี้ คำวินิจฉัยศาลรธน. พรบ.คำสั่งเรียกขัดรธน. มีผลผูกพันกมธ.-ส.ส.-ส.ว. ขอเวลาดูมีผลต่องานหรือไม่ ด้าน "เสรีพิศุทธ์" ยัน กระทบกมธ.ไม่มาก ให้รมต.สั่งหน่วยงานชี้แจงได้

เมื่อวันที่ 8 ตค. นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดคำวินิจฉัยเต็ม กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ว่า พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2545 มาตรา 5 ที่บัญญัติอำนาจของคณะกรรมาธิการในการออกคำสั่งเรียกเอกสารจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นในกิจการที่กระทำ หรือในเรื่องที่พิจารณาสอบสวน หรือศึกษาอยู่นั้นได้ มาตรา 8 ที่บัญญัติขั้นตอน การออกคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการ และมาตรา 13 ที่กำหนดโทษแก่ผู้ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการ ขัดหรือแย้งและมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันกับรัฐสภาแล้ว จากนี้ขอรอดูว่าจะมีผลต่อการทำงานกรรมาธิการอย่างไรบ้าง และต้องไปดูว่ามีกรรมาธิการกี่ชุดที่ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ. คำสั่งเรียก

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤตมิชอบ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีวินิจฉัยให้พ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ.2554 ขัดต่อรัฐธรรมนูญว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจมีผลกระทบต่อการทำงานของคณะกรรมาธิการฯในส่วนของตนบ้าง แต่อาจจะไม่มากนัก เพราะถ้าเป็นการเชิญหน่วยงานหัวหน้าส่วนราชการมาชี้แจง ก็ยังสามารถประสานงานกับรัฐมนตรีให้ดำเนินการสั่งการให้หัวหน้าส่วนราชการมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯได้ แต่จะเป็นปัญหาในกรณีของการเชิญภาคเอกชนมาชี้แจงเพื่อให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงที่คณะกรรมาธิการฯอาจจะดำเนินการได้ไม่เต็มที่ เพราะไม่มีอำนาจในการออกคำสั่งเรียกตามกฎหมายแล้ว ซึ่งจะทำให้การสรุปข้อเท็จจริงทำได้ไม่สมบูรณ์

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า แม้จะไม่มีอำนาจตามพ.ร.บ.คำสั่งเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 129 ยังได้ให้อำนาจคณะกรรมาธิการในการทำงานได้อย่างเต็มที่อยู่ โดยมาตรา 129 ระบุว่า คณะกรรมาธิการมีอำนาจเรียกเอกสารจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความเห็นในกิจการที่กระทำหรือในเรื่องที่พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงหรือศึกษาอยู่นั้นได้ แต่การเรียกเช่นว่านั้นมิให้ใช้บังคับแก่ผู้พิพากษาหรือตุลาการที่ปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในกระบวนวิธีพิจารณาพิพากษาอรรถคดี หรือการบริหารงานบุคคลของแต่ละศาล และมิให้ใช้บังคับแก่ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามหน้าที่และอำนาจโดยตรงในแต่ละองค์กรตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญหรือตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ