"วิภูแถลง-พายัพ"ลั่นอุดมการณ์เหมือนเดิมก้าวข้ามเสื้อเหลือง-เสื้อแดง

เมื่อวันที่3ต.ค.63 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้ปล่อยตัว นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และนายพายัพ ปั้นเกตุ ผู้ต้องขัง 2 แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)โดยนายวิภูแถลง ถูกตัดสินจำคุกในคดีการชุมนุมหน้าบ้านพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตรัฐบุรุษ สี่เสาเทเวศร์ เมื่อปี 2550 ส่วน นายพายัพ ปั้นเกตุ ซึ่งถูกตัดสินจำคุกในคดีล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเมื่อปี 2552 และได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามมาตรา 6 (1) และ (2) (จ) เช่นเดียวกับผู้ต้องราชทัณฑ์อื่นๆ ที่เข้าเกณฑ์ได้รับการปล่อยตัวประมาณ 27,000 คน

ทั้งนี้ผู้ต้องขังจะที่เตรียมการปล่อยตัวจะต้องทยอยเข้ารับการอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ในโครงการโคกหนองนา เป็นเวลา 15 วัน ซึ่งในวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ปล่อยตัวไปรอบแรกซึ่งมี นพ.เหวง โตจิราการ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และ นายวรชัย เหมะ

นายวิภูแถลง กล่าวภายหลังได้รับอิสรภาพ ว่า ซาบซึ้งใน พระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 10 ส่วนสาเหตุ ที่ออกมาช้าเพราะต้องอบรบโครงการโคก หนอง นา เพราะเป็นเรื่องที่ดีส่วนเรื่องทัศนคติทางการเมืองยังคงชัดเจนเช่นเดิมอำนาจประชาธิปไตยต้องเป็นของคนไทย และ รัฐบาลจะต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเพื่อเดินหน้าทางการเมือง ซึ่งการเมืองทุกวันนี้เดินทางมาไกลกว่าคำว่าเสื้อเหลือง-เสื้อแดงแล้ว แต่จะต้องเป็นไปตามเสียงส่วนใหญ่

ขณะที่ นายพายัพที่ ระบุว่า ส่วนตัวเข้าคุก มาหลายรอบแล้ว แต่ในเรื่องของอุดมการณ์ก็ยังมั่นคงและชัดเจนเช่นเดิม ยอมรับว่า ปัจจุบันการเมืองเป็นหน้าที่ของรุ่นลูก รุ่นหลานที่จะต้องกำหนดอนาคตของประเทศแล้ว ขอให้คนรุ่นใหม่เดินหน้าประชาธิปไตยในทางที่ถูกต้อง

ทั้งนี้มีอดีตแกนนำนปช. และสมาชิกเสื้อแดงจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจ อาทิ น.พ.เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก

นอกจากนี้ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยังได้ปล่อยตัว เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริอดีตรมช.ศึกษาธิการ ผู้ต้องขังในความผิดคดีฉ้อโกงเงินซื้อปูนของบริษัทเอกชน สัญชาติกัมพูชา จำนวนเงิน 11 ล้านบาท ก่อนมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2562 ทั้งนี้ ก่อนได้รับพระราชทานอภัยโทษ นายเชาวริน ถูกถอดยศ ร.ต.ท. โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศอดีตข้าราชการตำรวจ ออกจากยศตำรวจ จำนวน ทั้งสิ้น 10 ราย ซึ่งนายเชาวริน เป็นหนึ่งในนั้น โดยนับตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2557 ซึ่งเป็นวันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด เนื่องจากกระทำความผิดอาญาฐานฉ้อโกงประชาชน และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์

ด้าน เพจเฟซบุ๊กณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ที่ปัจจุบันยังต้องคำพิพากษาจำคุก โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 2 ต.ค.2563 ระบุว่า...พี่เต้นฝากข้อความผ่านทนาย..

“ยินดีกับอิสรภาพของสหายร่วมสู้..วันที่ 3 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯจะปล่อยตัว วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย กับพายัพ ปั้นเกตุ ขอเป็นกำลังใจให้ทั้ง2คน มั่นคงในหลักการ ซื่อตรงต่อประชาชน”