"ไม่คิดจะคืบมีแต่จะคาบ" ปชป.อัดกลับ"ไพบูลย์" ชี้สะท้อนปัญหารธน.60
โฆษกปชป. โต้ "ไพบูลย์" ตอกย้ำปัญหารัฐธรรมนูญ 60 สร้าง ส.ส.กาฝาก ยืนยัน “หลักการ” แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.63 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้เชื่อว่าทุกฝ่ายเห็นตรงกันในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านไม่มีปัญหา เพราะมีการเสนอร่างของแต่ละฝ่ายอยู่แล้ว เมื่อถึงวาระรับหลักการคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ขณะที่ฝ่ายวุฒิสมาชิกเชื่อว่า กมธ. วิสามัญ แก้รัฐธรรมนูญก่อนรับหลักการจะได้ทำความเข้าใจเพื่อให้เห็นไปในทิศทางเดียวกัน และหากผู้ที่มีความผูกพันในการแต่งตั้งวุฒิสมาชิกช่วยทำความเข้าใจแล้ว ก็เชื่อว่าจะผ่านไปได้ไม่ยากนัก
สำหรับกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ได้ให้สัมภาษณ์ว่าไม่พอใจพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเอาอย่างเดียว ได้คืบเอาศอก โหนกระแสการชุมนุม โดยกล่าวหาว่าร่างของพรรคร่วมเปิดทางให้แก้ หมวด 1 หมวด 2 นั้น
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง การให้สัมภาษณ์ลักษณะเช่นนี้ทำให้เกิดความรู้สึกที่นอกจากสร้างความไม่พอใจแล้ว ยังทำให้รู้สึกขยะแขยงต่อแนวความคิด เพราะพรรคฯ ไม่เคยคิดว่าได้คืบจะเอาศอก แต่หลักสำคัญของการแก้รัฐธรรมนูญคือต้องทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น
“คุณไพบูลย์ต่างหากที่ไม่คิดจะคืบมีแต่จะคาบ พรรคฯ ไม่คิดโหนกระแสผู้ชุมนุม เพราะมีหลายเรื่องที่มีแนวคิดแตกต่างจากผู้ชุมนุม ส่วนร่างแก้ไข รธน. ของพรรคร่วม ได้กำหนดหลักการไว้ชัดว่าไม่มีการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 คุณไพบูลย์มาด่าพรรคอย่างนี้ได้อย่างไร อย่าไปห้อยโหน สว. เลย พูดจาตรงไปตรงมาตามหลักการดีกว่า” นายราเมศกล่าว
นายราเมศกล่าวต่อว่า ในร่างของพรรคร่วมนี้ นอกจากพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชนแล้ว สิ่งหนึ่งที่หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรต้องทบทวนด้วยคือ กรณีการเลิกกิจการพรรคการเมืองแล้วยื่นยุบพรรคตัวเอง เปิดโอกาสให้มี สส. บัญชีรายชื่อไปอยู่พรรคอื่น และคะแนนจะโอนไปพรรคใหม่หรือไม่ อีกทั้งยังมีข้อสงสัยอีกด้วยว่า สส.ที่ย้ายไปนั้นจะไปอยู่ลำดับบัญชีรายชื่อที่เท่าไหร่ในพรรคใหม่อีกด้วย ซึ่งหากมีการแก้รัฐธรรมนูญก็ควรกำหนดให้ชัดไปเลยว่า การย้ายไปเป็นกาฝากที่พรรคใหม่นั้นจะไปอยู่ตรงไหนอย่างไร


