posttoday

"สุรพล"จ่อฟ้องกกต.เรียก70ล้านหลังศาลยกฟ้อง"ใบส้ม"

29 กันยายน 2563

ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งยกคำร้องอดีตส.ส.เพื่อไทยเชียงใหม่เขต"ศรีนวล" คดีใส่ซองทำบุญช่วงเลือกตั้ง ปี 2562 พร้อมเตรียมเรียกร้องค่าเสียหายจาก กกต. 70 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส. เขต 8 จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำพิพากษายกคำร้องกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ให้ใบส้มหรือเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตนไว้เป็นการชั่วคราว 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. 2562 หลัง กกต. กล่าวหาว่า การใส่ซองทำบุญให้กับพระสงฆ์ จำนวน 2,000 บาท มีมูลความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (2) ฐานให้เงิน หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม แก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใดในช่วงที่มีการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ตนเองได้ยื่นคัดค้านไปแล้วก่อนหน้านี้ และในช่วงเช้าวันนี้( 29 ก.ย.) ศาลได้พิพากษาคืนความยุติธรรมให้แก่ตน โดยได้ยกคำร้องข้อกล่าวหาเนื่องจากศาลเห็นว่า เงินดังกล่าวเป็นค่าเทียนสะเดาะเคราะห์ และในวันที่ไปทำบุญนั้นไม่ได้พูดหาเสียง เพียงแต่ทักทายกับประชาชนเท่านั้น ไม่ได้ฝากเนื้อฝากตัวกับชาวบ้านจึงยังไม่เพียงพอให้รับฟังได้ว่า เป็นการบริจาคเงินทำบุญให้กับวัดเพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ตนเอง และไม่จำเป็นต้องชดใช้ค่าเลือกตั้งซ่อมตามคำร้อง

อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีแรกที่ส.ส. ฟ้อง กกต. ได้รับชัยชนะ และใช้เวลาต่อสู้มา 1 ปี 5 เดือน 5 วัน และตนคิดว่าเป็นการยัดเยียดความผิดให้ วันนี้จึงเป็นวันที่ภาคภูมิใจในเกียรติยศ ที่ได้รับความยุติธรรมจากศาลฎีกาและได้คืนสิทธิและอำนาจในคะแนนจากประชาชนที่ได้ลงคะแนนให้ตน กว่า 54,000 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนบริสุทธิ์ “วันนี้ จึงอยากให้ประชาชนเขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ได้รับทราบว่า ทุกคนได้คืนศักดิ์ศรีเกียรติยศและผมได้รับความเป็นธรรมทุกอย่างถูกต้องไม่มีความผิด”นายสุรพล กล่าว

ด้านนายปกป้อง กลับวิเศษ ทนายความ นายสุรพล เกียรติไชยากร ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายสุรพล ถือว่าเป็น ส.ส.โดยพฤตินัย เมื่อได้ทราบผลคะแนนชนะการเลือกตั้งแล้ว แต่ กกต. ได้มอบใบส้มให้นายสุรพล ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวในการเพิกถอนสิทธิ 1 ปี แต่หลังจากนั้น กกต. ได้นำข้อกล่าวหาดังกล่าวไปฟ้องร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อขอเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และเมื่อศาลไต่สวนวินิจฉัยตามข้อเท็จจริง ซึ่งไม่มีมูลแล้ว จึงยกคำร้อง

ดังนั้น ทีมทนายจะติดตามความชัดเจนจาก กกต.ว่า จะทำอย่างไรต่อคะแนนการเลือกตั้งกว่า 50,000 คะแนน ที่นายสุรพลได้รับ ซึ่งเป็นคะแนนบริสุทธิ์ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นเรื่องใหม่ และน.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคภูมิใจไทย ที่ชนะการเลือกตั้งซ่อม จะยังมีสถานะหรือไม่ หรือจะให้ นายสุรพล กลับมาเป็น ส.ส.ตามคะแนนที่ได้รับโดยชอบ

นอกจากนี้ ทีมทนายได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากการที่ไม่ได้ทำหน้าที่ ส.ส.จาก กกต. แล้ว จำนวน 70 ล้านบาท ฐานให้ใบส้มโดยมิชอบ ใช้อำนาจหน้าที่โดยละเมิด แต่ยังไม่ได้มีการฟ้องร้องเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งหาก กกต. ยังไม่คืนสิทธิ ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สำหรับคดีดังกล่าว กกต. กล่าวหาว่า การที่นายสุรพล ใส่ซองทำบุญให้กับพระสงฆ์จำนวน 2,000 บาท มีมูลความผิดตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73 (2) ฐานให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใดในช่วงที่มีการเลือกตั้ง

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การพูดของผู้คัดค้านไม่ใช่การหาเสียง มีลักษณะเป็นการพูดขอฝากเนื้อฝากตัวอย่างไร จึงยังไม่เพียงพอให้รับฟังว่าผู้คัดค้านไปที่หอประชุมบ้านคู่ฮ้อสามัคคี โดยมีเจตนาเพื่อหาเสียงเป็นสำคัญ ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนยังรับฟังไม่ได้ว่าผู้คัดค้านถวายเงินจำนวน 2,000 บาท แก่พระครู เพื่อเป็นการสื่อให้ชาวบ้านเข้าใจว่าผู้คัดค้านได้บริจาคเงินสมทบให้แก่กองผ้าป่าสามัคคีของหมู่บ้าน เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองด้วยวิธีการให้เงิน ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน อันจะเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (2) ตามคำร้อง

และเมื่อฟังว่าผู้คัดค้านไม่ได้กระทำความผิดตามคำร้องแล้ว ผู้คัดค้านจึงไม่จำต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 8 ตามคำร้อง พิพากษาให้ยกคำร้อง