"การุณ"อัดแบงก์ชาติปล่อยธนาคารพาณิชย์หาประโยชน์เงินกู้เศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการศึกษา การจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ในประเทศไทยเริ่มดีขึ้น แต่ในส่วนของภาคธุรกิจทั้งหมดกลับไม่ดีขึ้น ตนเองได้รับการร้องเรียนว่ารัฐบาลไม่ได้ช่วยเหลือภาคธุรกิจตามที่เคยประกาศเอาไว้ โดยเฉพาะการช่วยเหลือจากงบฟื้นฟูเศรษฐกิจที่คุยเอาไว้ว่าจะนำลงมาอัดฉีดถึง5 แสนล้าน แต่วันนี้กลับเงียบฉี่ ปล่อยให้ผู้ประกอบการดิ้นรนกันเอง จนธุรกิจส่วนหนึ่งต้องปิดกิจการหนีหนี้กันไปหมดแล้ว

นายการุณกล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับธนาคารพาณิชย์เพื่อมาปล่อยกู้ต่อให้กับธุรกิจ SME โดยตั้งงบประมาณช่วยเหลือครั้งนี้ไว้ 5แสนล้านบาท แต่จนถึงวันนี้พบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ได้รับประโยชน์จากเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการในครั้งนี้แต่อย่างใด เพราะจาก 5 แสนล้านบาท สามารถปล่อยให้กู้ได้เพียง 1 แสนล้านบาทเศษเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินกู้จำนวนดังกล่าว พบว่า ธนาคารพาณิชย์หาประโยชน์จากเงินกู้ของรัฐบาล คิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเต็มเพดานที่รัฐบาลกำหนด รวมทั้งเลือกปล่อยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีฐานะดี หรือเป็นลูกค้าเก่าที่มีฐานการเงินที่มั่นคงเท่านั้น ส่วนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบและประสบปัญหาเงินทุนที่ไม่สามารถที่จะดำเนินกิจการต่อไปได้ พบว่าทางธนาคารไม่ปล่อยเงินกู้ให้ จนบริษัทน้อยใหญ่ล้มลงไปเองเพราะหมดทางสู้

“การที่รัฐบาลปล่อยให้ธนาคารพาณิชย์หาประโยชน์กับเงินกู้ โดยไม่คำนึงถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องการนำเงินมาช่วยเหลือธุรกิจ SME การช่วยเหลือที่ไม่มีอยู่จริงครั้งนี้จึงกลายเป็นอุบายที่รัฐบาลใช้เพื่ออุ้มธนาคารพาณิชย์มากกว่า เพราะสุดท้ายธนาคารพาณิชย์ก็กลายเป็นเสือนอนกินเพราะไม่ต้องรับความเสี่ยงจากการใช้เงินทุนที่มาจากภาษีประชาชน ขณะที่ผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจริงๆไม่ได้รับความช่วยเหลือ จึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลต้องมีความจริงใจและสั่งการให้หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเข้ามาดำเนินการโดยเร่งด่วน นอกจากนี้เตรียมเสนอให้คณะกรรมาธิการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการอีกครั้ง เพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างเป็นรูปธรรม เพราะผู้ประกอบการทุกคนควรมีโอกาสเข้าถึงเงินทุนใหม่เพื่อกู้วิกฤติธุรกิจของตนเองอย่างเท่าเทียม”นายการุณ กล่าว