posttoday

เทพไทเสนอเพิ่มพื้นที่ปลูกกระท่อมขอตั้งเวทีประชาพิจารณ์เอง

15 กรกฎาคม 2563

เทพไท รุก ปปส. เสนอเพิ่มพื้นที่ปลูกกระท่อม ตำหนิการฟังความเห็นผ่านเว็บไซด์ไม่เวิร์ค ขอตั้งเวทีประชาพิจารณ์ด้วยตนเอง

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ออกมาชี้แจงถึงขั้นตอนการอนุญาตให้135หมู่บ้าน/ชุมชนนำร่อง ปลูก-เสพ-ครอบครอง ‘พืชกระท่อม’ ไม่ผิดกฎหมายว่า การกำหนดพื้นที่ 135 ชุมชน/หมู่บ้าน 10 อำเภอ 10 จังหวัดนั้น ไม่ตอบโจทย์พื้นที่ปลูกพืชกระท่อมที่แท้จริง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันประกอบด้วยอำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด จัดเป็นแหล่งกำเนิดพืชกระท่อมมาตั้งแต่สมัยโบราณ น่าจะได้รับการอนุญาตให้ปลูกพืชกระท่อม บริโภค ครอบครอง เป็นพื้นที่นำร่อง ตามแนวทางของสำนักงาน ปปส. แต่เมื่อ สำนักงาน ปปส.ได้กำหนดพื้นที่ไว้ล่วงหน้าแล้ว การเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการต้องแจ้งความประสงค์ต่อ สำนักงาน ปปส.เพิ่มเติมได้นั้น เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับพี่น้องประชาชน ชาวบ้านโดยทั่วไป

จึงขอเสนอให้สำนักงาน ปปส.ได้เพิ่มพื้นที่นำร่องเพื่อปลูกพืชกระท่อมในพื้นที่8อำเภอ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่อำเภอปากพนัง,หัวไทร,เชียรใหญ่,ชะอวด,จุฬาภรณ์,ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียรติ และพระพรหม เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงโครงการปลูกพืชกระท่อมของสำนักงาน ปปส.โดยไม่ผิดกฎหมาย

ส่วนการเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชนในเรื่องการปลดล็อคพืชกระท่อมผ่านเว็บไซต์นั้น เป็นเรื่องยุ่งยากที่ประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดา คนรากหญ้าไม่สามารถเข้าถึงระบบสมาร์ทโฟน หรือเว็บไซต์ได้ ซึ่งเรื่องนี้คณะอนุกรรมาธิการปลดล็อคพืชกระท่อม ที่ตนเป็นประธาน จะลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชน และแจกเสื้อยืดการรณรงค์ปลดล็อคพืชกระท่อมให้แก่ผู้ร่วมเวทีประชาพิจารณ์ทุกคน ในวันที่ 8-10 สิงหาคมนี้ เพื่อนำข้อมูลจากพี่น้องประชาชนผู้บริโภคพืชกระท่อมเสนอต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหา กัญชา กัน ชงและพืชกระท่อมอย่างเป็นระบบ และเป็นข้อมูลในการประกอบการแก้ไข พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษปี 2522 ต่อไป

นอกจากนี้ตนจะขอเสนอเปลี่ยนแปลงถ้อยคำใน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปี2522 จากคำว่า เสพพืชกระท่อม เป็นบริโภคพืชกระท่อมแทน เพราะเมื่อพืชกระท่อมได้ถูกปลดออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท5แล้ว และ ในขณะนี้ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษพ.ศ. ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงเห็นว่า เมื่อพืชกระท่อมจะไม่เป็นพืชเสพติดอีกต่อไป จึงไม่ควรใช้คำว่าเสพพืชกระท่อม เหมือนกับการเสพยาเสพติดชนิดอื่นๆอีกต่อไป