posttoday

แรมโบ้ สวนกลับสส.ก้าวไกล ป้อง"บิ๊กตู่"ไม่ได้ข่มขู่ "ขอให้ระวังตัว"

04 กรกฎาคม 2563

"สุภรณ์ อัตถาวงศ์" สวนกลับ สส.ก้าวไกล ยืนยัน "นายกฯ" ไม่ได้ข่มขู่ "ขอให้ระวังตัว" แต่พูดในข้อเท็จจริงที่คนไทยทุกคนต้องระมัดระวังตัวไม่ให้ทำผิดกฎหมาย เสียดายชื่อพรรคก้าวไกล แต่สส.บางคนยังทำตัวไม่ก้าวไกล

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจง นส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลที่อภิปรายว่า นายกรัฐมนตรีมองคนเห็นต่างเป็นศัตรู และมีบางช่วงบางตอนที่นายกฯระบุว่า “ขอให้ระวังตัว” จนทำให้ ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาระบุว่าเป็นการข่มขู่นั้น โดยระบุว่าเจตนาของนายกฯ ที่พูดไปแบบนั้น นายกฯ ก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า คือต้องระวังตัวที่จะทำผิดกฎหมายเอง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องระมัดระวังตัวไม่ให้ทำผิดกฎหมายอยู่แล้วไม่ใช่หรือ

นายสุภรณ์ ยังเชื่อว่า ส.ส.พรรคก้าวไกล ย่อมรู้ดีในเจตนาคำพูดของนายกฯ อยู่แล้ว แต่ทำเป็นแกล้งไม่เข้าใจเพราะอาจอยากจะทำลายบรรยากาศการประชุมสภาฯที่มีการอภิปรายร่าง พรบ.งบประมาณปี 64 ที่เป็นไปได้ด้วยดี หรืออาจรวมถึงบรรยากาศของบ้านเมืองในขณะนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่คนไทยทั้งประเทศมีความร่วมมือกับรัฐบาลฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ตามแนวทาง "รวมใจ สร้างชาติ" พร้อมกันนี้มั่นใจว่านายกฯ ไม่ติดใจกับคำพูดต่างๆของสส.พรรคก้าวไกลเพราะขณะนี้นายกฯและรัฐบาลมุ่งเน้นแต่จะเอาเวลามาทำงานแก้ไขปัญหาเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติให้ดีที่สุด ไม่มีเวลามาเล่นการเมืองหรือโต้ตอบทางการเมืองกับใครทั้งสิ้น

“พรรคก้าวไกล ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มาจากคนรุ่นใหม่ไฟแรง เป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ แต่กลับยังเล่นการเมืองแบบเก่า ที่ไม่สร้างสรรค์ มุ่งเน้นโจมตีฝ่ายตรงข้าม ซึ่งหากเป็นเช่นนี้นอกจากจะไม่ก้าวไกลแล้ว ตนมองว่าเป็นการเดินถอยหลังมากกว่า เพราะยังเป็นการเมืองแบบเก่า ใช้วาทกรรม เสียดสี ถากถาง เหน็บแนม สไตล์การเมืองน้ำเน่าไม่มีการพัฒนาขึ้นเลยสักนิด เสียดายที่ประกาศเป็นพรรคการเมืองคนรุ่นใหม่ แต่กลับทำตัวยิ่งกว่าการเมืองยุคเก่าๆ

นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของนายกฯ และรัฐบาล ได้รับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายทุกพรรคการเมือง และเรียกร้องหาความร่วมมือในการทำงานเพื่อประชาชนเพื่อประเทศชาติ เห็นได้จากการอภิปรายร่าง พรบ.งบประมาณปี 64 ที่รัฐบาลเน้นการวางรากฐานในการพัฒนาและแก้ปัญหาทุกด้านให้ประชาชนทุกกลุ่ม มุ่งเน้นการส่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ มีการกระจายผลประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรงทั่วถึงเป็นธรรม จึงขอให้เชื่อมั่นว่าทุกโครงการที่ใช้จ่ายงบประมาณ เป้าหมายเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนสูงสุดอย่างแท้จริง" นายสุภรณ์ กล่าว