posttoday

"จิรายุ"ซัด"บิ๊กตู่" กู้คนเดียวมากกว่านายกฯ 28 คน เย้ย ปีหน้า IMF อาจได้ไทยแลนด์เป็นลูกค้า

03 กรกฎาคม 2563

"จิรายุ" ชี้ รัฐบาล แจงงบ64 ไม่เคลียร์ ชวนประเทศเข้าสู่เรดโซน ด้วยมหกรรมก่อหนี้แห่งชาติ หลัง กู้มาราธอน บ่นเซ็ง "บิ๊กตู่" กู้คนเดียวมากกว่านายกฯรวมกัน 28 คนในรอบ 89 ปี ชี้ ปีหน้าIMF อาจได้ไทยแลนด์เป็นลูกค้า เตือน ขรก.เตรียมตัวตกงาน

เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ สส.กทม.กล่าวถึงการอภิปรายงบประมาณปี 64 ว่า การชี้แจงของรัฐมนตรีโดยเฉพาะกระทรวงการคลังที่มีกลุ่ม 4 กุมาร อยู่นั้นดูเหมือนจะตอบแบบไม่มีกระจิตกระใจในการทำงาน ทำให้น่าเป็นห่วงว่าอาจทำให้ประเทศไทย ถูกกดคันเร่งเข้าสู่เรดโซนได้ เพราะดูแล้วรัฐบาลทำงบฯแบบฝันหวาน เตรียมจะนอนบังคับตัวเองให้ฝันดี ทั้งๆที่ไม่สามารถกำหนดฝันได้เพราะปัจจัยลบเต็มไปหมด

นอกจากนี้จากการอภิปรายของ ฝ่ายค้านที่ทำการบ้านร่วมกันมาเป็นอย่างดี เจาะตรงเป้า เข้าทุกดอก ตอกทุกประเด็น แต่รัฐมนตรีหลายคนก็ตอบแบบ เลี่ยงบาลี เรียกว่าตอบแบบเสียไม่ได้ตอบแบบ รักษากระทรวงของตนเองไว้ โดยเฉพาะรัฐมนตรีพรรคร่วมเห็นได้ชัดว่า ไม่ใส่ใจภาพรวมการจัดทำงบประมาณ ไม่ช่วยอธิบายแทนนายกรัฐมนตรีที่โดนจัดเต็มอยู่คนเดียว

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า 7 ปีมานี้ทำให้เห็นความอันตรายของการจัดทำงบประมาณ ซึ่งถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายของประเทศ เพราะหากจัดทำแบบสุรุ่ยสุร่ายชุดความคิดเดิมๆ เติมขึ้นมาคือเอื้อพรรคพวก แถมไม่ ดูตาม้า ตาเรือ ก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศที่สุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว ล้มครืนถึงขั้นล้มละลายได้และอาจต้องใช้บริการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ IMF ได้

วันนี้ฝ่ายค้านเป็นห่วงแนวคิด และฝีมือบริหารประเทศ ที่ยังไม่เห็นน้ำยาในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลมากว่า 7 ปี ตนขอเตือนประชาชนว่าปี 2564 ถึง 2565 จะเป็นช่วงที่น่าจับตา และต้องประคองตนเองอย่างยิ่ง เพราะจากการกู้เงินของรัฐบาลจะมีสูงถึง 58% ไปแล้วซึ่งเหลืออีกเพียง 2% ก็จะเต็มวงเงินในการกู้ และยิ่งเห็นการจะทำงบประมาณซึ่งไม่ได้สนับสนุนเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจนักในปีนี้ และปีต่อไปก็จะทำให้รัฐบาลไม่สามารถกู้เงินได้อีกต่อไป

“น่าตกใจมาก นายก 28 คนตั้งแต่สยามประเทศ ปี 2475 มาจนปี 2557 ไม่รู้กี่รัฐบาล กู้เงินรวมกันแค่ 2.295 ลล.บาท แต่พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี คนนี้คนเดียวจัดเต็ม กู้มากกว่า นายกฯ 28คนถึง 3.825 ลล.บ.” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ ยังกล่าวอีกว่ายิ่งสภาพัฒนฯ ระบุในเล่มงบ ว่า เศรษฐกิจที่รัฐบาลคาดการณ์ปี64จะโตประมาณ 5% นั้นยังมีความไม่แน่นอน และมีความเสี่ยงสูง เป็นการประเมินเข้าข้างตัวเองเกินไป แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย กลับออกมาเตือนอีกทางว่า อาจจะติดลบถึง -8.1% เสียด้วยซ้ำ ตนต้องรีบบอกพี่น้องประชาชนว่าอย่าได้นิ่งนอนใจ เตรียมตัวรับมือ ให้ดีเพราะอาจจะเกิดสึนามิ ทางเศรษฐกิจอาจคล้ายกับหลัง สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะข้าราชการทั้งประเทศ อาจ ตกงานกว่าครึ่ง เพราะมีตัวอย่างแล้วในช่วงที่ประเทศไม่มีเงินและไม่สามารถกู้ได้ ต้องลดรายจ่ายประจำ ในยุคนั้นก็จะใช้ ”ดุลข้าราชการ” นั่นก็คือการเลิกจ้าง ลดองค์กรของรัฐ ทหารลดกำลังพล เพราะหากปี 64-65 รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ และยังจัดทำงบประมาณ แบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ประเภทขอ “นอนก่อน..ฉันจะขอฝันดี” ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ นอกจากจะขาดดุลงบประมาณแล้ว ก็จะไม่สามารถกู้ได้อีกแล้ว ก็จะต้องไปลดงบประมาณรายจ่ายเพื่อให้เป็นไปตามกรอบ วินัยการเงินการคลังที่ต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อการลงทุนไม่น้อยกว่า 20% เพราะฉะนั้นอยากให้ นายกรัฐมนตรีฟังประชาชนบ้างวันนี้ ชาวบ้านพูดกันเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่า “วันนี้ผู้ติดเชื้อไม่มี แต่ผู้เป็นหนี้ มีเต็มบ้านเต็มเมือง”

เพราะฉะนั้นไม่แปลก ที่รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ที่ได้รับฉายา #นักกู้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา #บิดาแห่งความเหลื่อมล้ำ #ผู้นำการก่อหนี้ และยังเป็นผู้จัดงาน มหกรรมก่อหนี้แห่งชาติ ด้วยงบประมาณ2564 นี้อีก