เอาเงินกู้มหาศาลไปถลุงแบ่งเค้กกัน! หญิงหน่อย คาดวิกฤตหลังโควิดคือเศรษฐกิจ
คุณหญิงสุดารัตน์ หนักใจมองไทยเจอแน่ปัญหาซ้ำหลังโควิดคือวิกฤตเศรษฐกิจ ที่นายกฯใช้เงินกู้ก้อนมหึมาแบบไร้ทิศทาง-ถลุงแจกหน่วยงานต่างๆแบ่งเค้กกันกิน
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความวิตกกังวลถึงวิกฤตของประเทศไทยหลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่คาดว่าจะเป็นวิกฤตทางเศรษฐกิจ ที่เกิดมาจากการใช้งบประมาณของรัฐบาลที่ไม่ตรงจุด
แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า วิกฤตรอบ 2 มีแน่ๆแต่อาจจะไม่ใช่ COVID แต่เป็น เศรษฐกิจ
โดยสถาบันการเงินต่างๆ ได้ออกมาปรับตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยใหม่ เช่น บลจ. ภัทร คาดว่าจะติดลบ 9% ธนาคารCINB คาดว่าจะติดลบ 8.9% ธนาคารกรุงไทย คาดว่าจะหดตัว 8.8% และในไตรมาส 2 มีโอกาสขยายตัวติดลบถึง 14%
ขณะที่รายได้จากท่องเที่ยวต่างชาติ จะหายไปกว่า 1.57 ล้านล้านบาท ปริมาณการค้าโลกอาจหดตัวถึง 10-30% ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศมีสัดส่วนถึง 37% ของมูลราคายอดขายในอุตสาหกรรมไทย
แปลว่า สภาพเศรษฐกิจจากนี้จะสาหัสมากขึ้น เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท จึงเป็นเสมือน น้ำมันถังสุดท้ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ถ้ารัฐบาลไม่สามารถใช้เงินกู้ก้อนนี้สตาร์ทเครื่องยนต์ประเทศไทยให้ติดได้ เศรษฐกิจไทยจะทรุดหนัก พี่น้องชาวไทยจะทุกข์ยากอีกยาวนาน
สิ่งที่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีควรทำอย่างเร่งด่วนคือ การกำหนดทิศทางการใช้เงินกู้ โดยเฉพาะก้อน 400,000 ล้าน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ให้มีประสิทธิภาพต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง คือทำให้เกิดการจ้างงานและก่อให้เกิดรายได้ใหม่ในพื้นที่
โดยเฉพาะการใส่เม็ดเงินลงไปเพื่อ
1) เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำเร่งด่วน
2) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยว ว่าเที่ยวเมืองไทยปลอดโรค ปลอดภัย เพราะการท่องเที่ยวเป็นรายได้ที่เข้ามาได้ทันที
3) เพื่อเพิ่มศักยภาพเกษตรกรไทย ให้สามารถผลิตอาหารที่มีคุณภาพ เพื่อให้ไทยเป็น”ศูนย์กลางผลิตอาหารปลอดภัย” ป้อนประชากรโลก ที่ความต้องการอาหารปลอดภัยของคนทั้งโลกจะเพิ่มมากขึ้นหลังวิกฤต COVID ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยที่มีฐานการผลิตด้านการเกษตรอยู่แล้ว
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุอีกว่า แต่เมื่อเห็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรี กำลังทำกับเงินกู้ก้อนโตแล้ว ต้องบอกว่าหนักใจและเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะเป็นการโยนเงินกู้ก้อนมหึมาลงไปให้หน่วยงานเสนอโครงการมาแบบไร้ทิศทาง สะเปะสะปะ เช่น ทำถนนกว่าหมื่นโครงการ แต่โครงการแก้ปัญหาว่างงานมีแค่ 4 โครงการ โครงการแก้จน มีแค่ 8 โครงการ
ตอบไม่ได้ว่า จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร เป็นการเอาเงินกู้จำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นหนี้ของประชาชนไปถลุงแจกหน่วยงานต่างๆ แบบแบ่งเค้กกันกิน