ประเทศนี้สิทธิพลเมืองไม่มีความหมาย! ธนาธร มองกรณีรัฐจับ นศ.ผูกริบบิ้น-เมินตามคดีวันเฉลิม

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นเปรียบเทียบท่าทีของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ ต่อการดำเนินการจับกุมกลุ่มนักศึกษาจัดกิจกรรมผูกริบบิ้นขาวเรียกร้องความยุติธรรมให้ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยชาวไทย ที่ถูกอุ้มหาย ในประเทศกัมพูชา

อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า กฎหมายต้องมีไว้เพื่อปกป้องคุ้มครองประชาชน เกือบสัปดาห์แล้วที่วันเฉลิมถูกอุ้มหาย สิ่งที่รัฐบาลไทยควรต้องทำ คือการติดตามทวงถามความคืบหน้าคดีจากกัมพูชาทุกทางเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะรัฐมีหน้าที่ดูแลปกป้องพลเมืองของตนไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน มีสถานะใดในโลก

แต่น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง ที่สิ่งที่รัฐบาลเลือกจะทำ กลายเป็นการจับกุมดำเนินคดีกับนักศึกษาที่ไปผูกริบบิ้นขาวตามสถานที่สาธารณะ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ แสดงออกอย่างสันติในการเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่เพื่อนร่วมชาติที่สูญหายไปในต่างแดน

ก่อนตำรวจจะควบคุมตัวนักศึกษาขึ้นรถ ตำรวจแจ้งว่าพวกเขาฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความสะอาด แต่ต่อมากลับเปลี่ยนเป็นการข่มขู่ว่าจะตั้งข้อหาขัดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อถึง สน. แล้วเปลี่ยนเป็นข้อหาขัดต่อ พ.ร.บ.ความสะอาด ในวินาทีสุดท้าย

นายธนาธร ระบุต่อีกว่า ผมขอคารวะจิตใจอันแน่วแน่เด็ดเดี่ยวของผู้ที่ถูกจับ ที่กล้าออกมายืนหยัดเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้อง และอดสงสัยไม่ได้เลยว่า ถ้านักศึกษาที่ถูกจับกุมไม่ได้ไลฟ์ ถ่ายทอดให้คนนับแสนทั่วประเทศได้เฝ้าติดตามทุกกระบวนการของตำรวจ พวกเขาจะถูกตั้งข้อหาหนักกว่านี้หรือไม่

แต่การตั้งข้อหาที่น่าขันอย่าง “ฝ่าฝืนพ.ร.บ.ความสะอาด” ให้กับผู้ประท้วงที่ทำเพียงผูกริบบิ้นบนสถานที่สาธารณะโดยสันติ เท่ากับการแสดงออกอย่างชัดแจ้งว่าในประเทศนี้ สิทธิเสรีภาพของพลเมืองไม่มีความหมาย แม้มันจะถูกเขียนรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับที่รัฐบาลนี้เองร่างขึ้นมา

ในบ้านเมืองที่เป็นประชาธิปไตย กฎหมายต้องใช้ปกป้องประชาชนผู้ถูกรังแก ไม่ใช่ใช้รังแกประชาชนผู้กล้ายืนหยัดท้าทายผู้มีอำนาจ

หน้าที่ของเราไม่ใช่แค่ตามหาคนหายแล้ว แต่คือการตามหาสิทธิเสรีภาพของพลเมือง ตามหาความเป็นธรรมที่ถูกรัฐ “อุ้ม” หายไป