posttoday

"บิ๊กตู่”ย้ำกู้เงินสู้โควิด-19จำเป็น ดูแลประชาชนเท่าเทียม เยียวยาตามลำดับ

28 พฤษภาคม 2563

นายกฯย้ำกู้เงินสู้โควิด-19จำเป็น ดูแลประชาชนเท่าเทียม กำชับ"ห้ามโกง"แจงไม่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมโรค อลหม่านแน่ แก้อะไรไม่ได้ วอนส.ส.มองแง่ดีอย่าจ้องติอย่างเดียว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนฯ อภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาทว่า รับทราบถึงความห่วงใย ความกังวลของสมาชิกที่อภิปราย โดยเฉพาะกรณีคนเดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งจะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง กักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลจัดให้รัฐบาลดูแลทั้งหมด ที่ผ่านมาที่เป็นปัญหามาก คือ เรื่องการลักลอบผ่านข้ามชายแดน เข้าใจความจำเป็นของคนเหล่านั้น แต่ไม่ได้สนับสนุนให้ทำอย่างนั้น ที่ผ่านมารัฐบาลมีมาตรการผ่อนปรน เช่น การเสียค่าปรับ 2,000 บาท ลดลงเหลือ 800 บาท ถ้ามองว่าเป็นภาระมันก็ใช่ แต่ถามว่าเราจะเอากฎหมายไว้ตรงไหน ซึ่งตรงนี้จะต้องมีการหารือกันต่อไปว่าจะทำอย่างไร

สำหรับจำนวนคนที่เข้ามาในวันเดียวนี้มีมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรต้องเพียงพอกับขีดความสามารถในการรักษาและสถานที่จัดการของรัฐและเอกชน หากมองในเรื่องสิทธิที่จะทำอย่างเท่าเทียมกันก็ต้องดูกฎหมายด้วย ซึ่งไม่ได้เขียนไว้เพื่อคนรวย คนจน แต่เป็นกฎหมายกลางที่ใช้ดูแลร่วมกัน ทั้งนี้ ถ้าดูตามตัวเลขที่เสนอกันมาก็ไม่รู้ว่าจะเอาเงินตรงไหนมาดูแล หากเงินเพียงพอตนก็เห็นด้วย แต่ถ้าเราไม่มีหลักเกณฑ์ไม่มีอะไรเลย คนจะเท่าเทียมกันทั้งหมดมันจะได้หรือไม่ ขอให้คิดง่ายๆตรงนี้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยทำได้ดีอย่างนี้ ต่างประเทศชื่นชมอย่างนี้ คนไทยลำบากตนทราบไม่ทราบสบายใจยิ่งกว่าพวกท่าน เพราะถือว่าต้องรับผิดชอบพวกเขา ซึ่งจะต้องดูแลอย่างไรจะใช้จ่ายเงินให้เหมาะสมอย่างไร ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ผ่านมาได้มีการจ่ายไปแล้ว โดยใช้งบประมาณเดิมจำนวนเงินกว่า 4 หมื่นล้านบาท แทบจะไม่ได้ใช้เลย เตรียมพร้อมสำหรับมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งมันอาจจะยืดยาวอีกต่อไป รัฐจำเป็นต้องบริหารงบประมาณ ต้องดูแลข้าราชการพลเรือน ตำรวจ และทหาร รัฐบาลไม่ทิ้งเพียงแต่ขอให้ดูว่าใครโกงกันหรือไม่ เท่านั้น แต่คงไม่มีตอนนี้ เรื่องแบบนี้ตนกำชับอยู่แล้ว ขอให้สบายใจ รัฐบาลต้องดูแล

สำหรับเงินเยียวยาที่รัฐบาลให้ไปเพื่อการดำรงชีพ หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิดฉะนั้นการที่มาบอกว่าจะเป็นหนี้อย่างนั้น อย่างนี้มันก็เป็นหนี้กันทั้งนั้นแหละ ตรงนั้นจะต้องดูว่าจะปรับเปลี่ยนตัวเองและพัฒนากันอย่างไร รัฐบาลจะสนับสนุนตรงไหน ซึ่งก็มีการเข้าไปดูแลในเรื่องหนี้นอกระบบ แต่ช่วงนี้เป็นเรื่องการเยียวยา เพื่อดำรงชีพ 3 เดือน คงไม่สามารถนำเงินเหล่านี้ไปผ่อนมอเตอร์ไซต์ หรือผ่อนรถได้ ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลก็มีหลักคิด แต่ไม่ขอว่าอะไรในสิ่งที่ท่านพูดมาทั้งหมด แม้แต่เรื่องการเสียภาษี รัฐบาลก็ไม่เคยขึ้นมีแต่ลดให้ด้วยซ้ำไป ถ้าหากจะให้ใช้งเงินมากๆก็ต้องย้อนมาดูว่าจะเอาเงินจากไหน ตนไม่อยากพูดเรื่องนี้ แม้แต่เรื่องนักศึกษาตนก็เห็นใจ แต่ต้องดูว่าจำนวนนักศึกษามีเท่าไหร่ เราต้องทยอยก่อนหรือไม่ เอาใครที่อยู่ในระบบก่อนได้หรือไม่คนที่ขึ้นเป็นสมาชิกก่อนได้หรือไม่ เพื่อลดจำนวนการใช้จ่ายลง แต่จะให้ดูทั้งล้าน สองล้านคนประมาทไป เหมือนกับกรณีด้านการเกษตรก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามันทำไม่ไหวหรอก ตนคงไม่ก้าวล่วงกลับไปที่เดิม ตนไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใครไม่อยากพูด ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ขอให้เข้าใจกันด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการเรียนได้อธิบายไปแล้วได้มอบนโยบายให้กระทรวงศึกษาธิการไปแล้วว่าทำอย่างไร ในช่วงสถานการณ์โควิด โรงเรียนเปิดไม่ได้ นักเรียนจะไม่ลืมการเรียน เพียงแต่ต่อเติมใช้ระบบออนไลน์ ระบบทางไกลผ่านดาวเทียม ขอให้ดูในรายละเอียดซึ่งมีมากมาย เพื่อที่จะได้พูดคุยกันรู้เรื่อง ถ้าตั้งตัวว่าสิ่งนั้นไม่ดี สิ่งนี้ไม่ดี ตนถามว่าแล้วจะพูดคุยกันรู้เรื่องหรือไม่

“ต้องขอขอบคุณส.ส.เป็นคนร่วมชาติ ฉะนั้นต้องหาวิธีการที่จะทำงานร่วมกันให้ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีรัฐบาลคงพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า แม้จะมีพ.ร.บ.ควบคุมโรค แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด แพร่ระบาดไปหลายจังหวัดจึงต้องมีกฎหมายตามออกมา เพื่อให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ผลจากการใช้กฎหมายดังกล่าวถือว่าดี หากไม่ใช่พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็จะอลม่านไปหมด รัฐก็จะแก้ไขอะไรไม่ได้ คนที่ต้องรับผิดชอบก็คือรัฐบาลอีก รัฐบาลได้พิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะมีความจำเป็น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ทุกวันนี้ตนได้บริหารออกเป็น 6 ภาคมี 3 จังหวัดภาคใต้มาอีก 1 ภาค มีโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจใหม่ภาคใต้ พวกท่านต้องไปสานต่อในสิ่งที่รัฐบาลออกไปแล้ว ส่วนพ.ร.ก.ฉุกเฉินในภาคใต้ที่ใช้มา 16 ปี ถามว่าแล้วปัญหาจบหรือยัง มันก็ยังไม่จบ ยังมีการลอบทำร้ายผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่ ถามว่าคนส่วนใหญ่จะปลอดภัยได้อย่างไร และไม้ได้ห้ามใครไปไหนมาไหน ใช่เฉพาะที่จำเป็นเมื่อเกิดเหตุการณ์สถานการณ์ใช้กฎหมายปกติไม่เพียงพอ ขอให้เข้าใจว่ามีการใช้หนักเบากันได้ เว้นแต่บางเรื่องที่ให้ไม่ได้ เพราะต้องคำนึงความปลอดภัยคนจำนวนมาก แม้แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีใครอยากลงไปทำ แต่ก็ปฏิเสธกฎหมายไม่ได้ เพราะคนไทยทุกคนต้องปฏิบัติตามและเคารพกฎหมาย

“สิ่งที่รัฐบาลทำในวันนี้เพื่อให้เข้มแข็งต่อไปในวันข้างหน้า หากทุกคนช่วยรัฐบาลโดยไม่ถือว่าเป็นฝ่ายใดตนคิดว่าประเทศจะเดินไปข้างหน้าได้โลด ฉะนั้นอะไรที่ดีกรุณาส่งเสริม ถ้ามองว่าไม่ดีทั้งหมด ผมว่าไม่ใช่ ผมก็ฟังมาทุกอันต้องขอบคุณสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.