posttoday

"ชวลิต"ซัดหลักเกณฑ์เยียวยาเกษตรกร"ห่วยแตก"จี้ เยียวยาชาวนาทุกราย

08 พฤษภาคม 2563

ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ชี้หลักเกณฑ์เยียวยาเกษตรกร"ห่วยแตก" ต้องมีพืช 15 วัน แล้งทำนาไม่ได้ ไม่เข้าเกณฑ์ จี้รัฐบาล "ชาวนาต้องได้รับเงินเยียวยาทุกราย"

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้อ่านคำให้สัมภาษณ์ของอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ถึงหลักเกณฑ์การเยียวยาเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาแล้ว ขออนุญาตใช้คำแรง ๆ สักครั้ง เพราะสุดทน บอกได้คำเดียวว่าหลักเกณฑ์นั้น "ห่วยแตก" เพราะนั่นเป็นหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนเกษตรกร ไม่ใช่หลักเกณฑ์ การเยียวยาเกษตรกร เข้าตำราไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไข่ทั้ง ๆ เขาเหล่านั้นต่างก็เป็นเกษตรกรเพียงแต่ยังไม่ได้จดทะเบียน เหตุใดการเยียวยาจึงไม่ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ความเดือดร้อนของเกษตรกร จึงขอเป็นผู้แทนชาวนาเรียกร้องให้แก้ไขหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยมีหลักคิดง่าย ๆ ว่า "เกษตรกรทุกครัวเรือนต้องได้รับการเยียวยาถ้วนหน้า หรือทั่วถึง และในเวลาที่รวดเร็ว"

นายชวลิต กล่าวว่า ประเด็นที่เป็นปัญหาขณะนี้ก็ คือ ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ระเบียบ ฯ ได้กำหนดว่า ต้องเป็นเกษตรกรตัวจริง ที่สำคัญ ต้องปลูกพืชหรือหว่านกล้าไปแล้วไม่น้อยกว่า 15 วัน ปรากฎว่าปีนี้เกิดภัยแล้ง และแล้งเป็นพิเศษ ชาวนาไม่มีน้ำทำนาหลายจังหวัด ยังไม่ได้หว่านกล้า ก็ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะขึ้นทะเบียนเกษตรกรสำหรับเกษตรกรที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนมาก่อน ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก

"ผมเข้าใจท่านอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรซึ่งเป็นข้าราชการประจำ เมื่อหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนเกษตรกรเป็นเช่นนี้ ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบ ฯ แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่ได้ปรึกษากันก่อนเลยหรือว่าการเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตไวรัสโควิด - 19 เกษตรกรต้องได้รับการเยียวยาอย่างถ้วนหน้า ทั่วถึง และรวดเร็วจึงขอให้รัฐมนตรีทั้งสองกระทรวงดังกล่าว รีบแก้ปัญหาในระดับนโยบายโดยด่วนที่สุดอย่าปล่อยให้เกษตรกรน้อยใจว่า เป็นพลเมืองชั้นสอง อยู่ในกลุ่มอาชีพท้าย ๆ ที่จะได้รับการเยียวยา ทั้ง ๆ ที่ประสบปัญหาสินค้าเกษตรราคาตกต่ำภายใต้การบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มา 5 - 6 ปี จนหนี้สินรกรุงรัง" นายชวลิต กล่าว และว่า หลักเกณฑ์การเยียวยาควรง่าย ไม่ยุ่งยาก เยียวยาถ้วนหน้า ทั่วถึง และรวดเร็ว การเยียวยาในเวลาที่รวดเร็วเป็นปัจจัยที่สำคัญมากต่อการดำรงชีวิตในยามยากไร้ของคนยาก คนจน ซึ่งคนที่ไม่เคยประสบความเดือดร้อน ทุกข์เข็ญมาก่อน ไม่รู้หรอกว่า รสชาติชีวิตลำเค็ญเป็นเช่นไร เมื่อเพียรพยายามทุกวิถึทางที่จะเป็นรัฐบาล ก็ต้องเพียรพยายามใช้ความรู้ ความสามารถ ความสุขุม รอบคอบ ในการดูแลทุกข์ สุขประชาชนด้วย